ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 445 ตามหา
ตอนที่ 445 ตามหา [รีไรท์]
“มีปัญหาอันใดรึ?”
มู่ชิงเห่อขมวดคิ้ว ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ทางนั้นเอาแต่เร่งให้เขากลับไปและเขาไม่สามารถรอได้อีกต่อไปแล้ว บวกกับการที่สองสามวันที่ผ่านมานี้ อาการบาดเจ็บที่เขาได้รับในสุสานของจักรพรรดิได้ดีขึ้นแล้ว
ตอนนี้ก็เป็นเวลาที่ดีที่สุดที่เขาจะเริ่มเดินทางกลับไป
“ไม่มีปัญหาอันใด เพียงแต่…” ฉู่หลิวเยว่ครุ่นคิดสักพัก “เพียงแต่ตอนนี้สถานการณ์ในเมืองหลวงไม่ค่อยดีนัก…ถ้าเราไปตอนนี้ จะไม่ดูแปลกเกินไปหน่อยรึ?”
ตอนนี้ทหารจากกองทัพตะวันตกเฉียงเหนือที่หรงจิ่วพามาก็ได้สู้กันกับทหารคุ้มกันแล้ว!
ถ้าพวกเขาออกไปตอนนี้ ไม่ว่าอย่างใดก็ดูไม่เหมาะสมทั้งนั้น!
ยิ่งไปกว่านั้น นางรู้แล้วว่าทั้งหมดนี้เป็นแผนของหรงซิว จะออกไปก่อนที่จะเห็นผลได้อย่างใด?
มู่ชิงเห่อเอ่ยปากถามกลับ
“ต่อให้พวกเขาต่อสู้กันจริงๆ แล้วเกี่ยวอันใดกับการที่เราจะไป? อีกอย่างก็เป็นเพียงการทะเลาะกันเล็กน้อยเท่านั้น”
แคว้นเย่าเฉินที่เป็นแคว้นเล็กๆ แบบนี้ ยังใหญ่เทียบเท่าเมืองหนึ่งที่อยู่ภายใต้อำนาจของเขาเลยด้วยซ้ำ
ทันใดนั้นฉู่หลิวเยว่ก็ถึงกับกุมขมับ
ทะเลาะกันเล็กน้อย…
ผ่านความเป็นความตายมานับพันนับหมื่นครั้ง การคาบเกี่ยวกันของอำนาจการปกครองแคว้นๆ หนึ่งในสายตาของมู่ชิงเห่อ ก็เป็นเพียง “การทะเลาะกันเล็กน้อยเท่านั้น”…
แต่ดูจากตัวตนของเขาแล้ว คำพูดแบบนี้นั้นดูไม่ได้ผิดแปลกอันใด?
ค่ายกลที่มู่ชิงเห่อเคยเจอมานั้นอันตรายและน่ากลัวกว่านี้มาก
“แต่…รองแม่ทัพมู่ ข้าคิดว่าท่านเข้าใจความหมายของข้าผิดแล้ว”
ฉู่หลิวเยว่เอ่ยปากอย่างระมัดระวัง
“ข้าเป็นว่าที่มเหสีขององค์ชายหลีหวัน และถือว่าเป็นคนในราชวงศ์ครึ่งหนึ่ง ตอนนี้เมื่อเกิดเรื่องขึ้น ข้าจะไปแบบนี้ได้อย่างใด?”
อย่างน้อยๆ ก็ต้องรอให้ทุกอย่างคลี่คลายก่อน!
สีหน้าของมู่ชิงเห่อเย็นชามากขึ้น
“เวลามีจำกัด จะออกไปหรืออยู่ต่อ เจ้าเลือกเอาเองแล้วกัน”
ฉู่หลิวเยว่ตกอยู่ในภวังค์แห่งความลำบากใจทันที
ราชวงศ์เทียนลิ่งนั้นนางจะต้องไปอยู่แล้ว เพราะนี่เป็นโอกาสที่หาได้ยากของนาง!
การกลับไปกับมู่ชิงเห่อ นอกจากจะได้รับความรุ่งโรจน์แล้ว อีกอย่างยังสามารถปิดบังตัวตนได้เป็นอย่างดีด้วย! ซึ่งทำให้สามารถเข้าถึงเจียงอวี่เฉิงได้ทันที!
ถ้าไม่มีความเกี่ยวข้องนี้ ต่อให้นางสามารถบรรลุการต่อสู้ระดับเจ็ดด้วย เข้าสู่พรมแดนม่านฟ้าเอง เมื่อกลับไปถึงราชวงศ์เทียนลิ่ง สถานการณ์ก็คงไม่ดีไปกว่าตอนนี้!
แต่ถ้าไปตอนนี้…หรงซิวจะทำอย่างใด? ท่านพ่อจะทำอย่างใด?
ไม่ใช่ว่านางกังวลว่าพวกเขาจะไม่สามารถปกป้องตัวเองได้ แต่ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าเรื่องจะเป็นอย่างใด
ถ้านางไปกับมู่ชิงเห่อตอนนี้ ต้องทิ้งความวุ่นวายเอาไว้แน่นอน
ใครจะรู้ว่าการไปครั้งนี้จะได้กลับมาอีกเมื่อไหร่?
แล้วถ้าเกิดว่า…ไม่ได้กลับมาอีกเลยล่ะ!?
ฉู่หลิวเยว่เม้มปากแน่น และไม่ได้พูดอันใดอยู่นาน
“มู่ชิงเห่อ ผ่านมาหลายปีแล้ว เหตุใดถึงยังไม่รู้จักทะนุถนอมผู้หญิงอีก?”
คำพูดที่เต็มไปด้วยความหยอกล้อดังขึ้น
ฉู่หลิวเยว่เงยหน้าขึ้นมองแล้วก็ไม่รู้ว่าเจี่ยนเฟิงฉือมาตั้งแต่เมื่อใด
เขาเดินมาทางนี้พลางหัวเราะไปด้วย
“องค์ชายหลีหวันและแม่นางฉู่เพิ่งจะทำการหมั้นหมายกัน ตอนนี้แม้แต่งานอภิเษกก็ยังไม่ได้จัดขึ้น!ตอนนี้เจ้ายังให้นางกลับไปด้วย จะไม่ได้เป็นการแยกคู่หรอกรึ? ความห่างไกลกันถึงเพียงนี้ ต่อไปบ่าวสาวสองคนนี้คงจะเจอกันได้ยากแล้ว!”
มู่ชิงเห่อหันหน้าหนีและเหลือบมองเขาอย่างเฉยชา
เจี่ยนเฟิงฉือยักไหล่ ไม่เพียงแต่ไม่ได้หยุด กลับกันยังเดินไปอยู่ข้างมู่ชิงเห่อด้วย ก่อนจะนำแขนวางไปบนไหล่ของเขาพลางหัวเราะจนตัวโยก
“ถึงอย่างใดเวลาสุดท้ายก็มีอยู่จำกัด คนอื่นก็กลับไปตั้งนานแล้ว! กลับไปตอนนี้ก็สายไปแล้ว สายอีกสักวันสองวันจะเป็นอันใดไป? จากที่ข้าดูแล้ว เจ้าควรจะคิดถึงคนอื่นบ้างนะ…นี่ คุยกันก็คุยกันดีๆ สิวะ เจ้าจะใช้กำลังด้วยเหตุใด!”
เจี่ยนเฟิงฉือรีบถอยออกจากการจับข้อมือเขาเอาไว้แน่นของมู่ชิงเห่ออย่างรวดเร็ว ก่อนจะนวดข้อมือของเขาที่เจ็บปวด และถอยกลับไปหลายก้าว
“เอาล่ะๆ! ถึงอย่างใดก็เป็นเรื่องของเจ้า! ไม่เกี่ยวอันใดกับคนอื่น? ข้าขอไม่พูดอันใดแล้วกัน!?”
ฉู่หลิวเยว่เงียบไป
เจี่ยนเฟิงฉือตัวสูงกว่ามู่ชิงเห่ออยู่มาก ดูแล้วทั้งสูงและแข็งแรงกว่า แต่เหตุใดถึง…ดูขี้ขลาดถึงเพียงนี้…
มองมาจากข้างๆ แล้ว ช่างรู้สึกแปลกเหลือเกิน…
แต่ความคิดของนางได้จดจ่อไปที่คำบางคำในคำพูดของเจี่ยนเฟิงฉือ
ห้วงเวลาสุดท้าย?
ที่มู่ชิงเห่อมาครั้งนี้ มีเวลาจำกัดด้วย?
อีกอย่าง…เหตุใดถึงมีคนอื่นมาด้วย?
คำพูดนี้ฟังแล้วดูเหมือนจะมีหลายคนออกไปในเวลาเดียวกัน เพื่อทำภารกิจอย่างหนึ่งอย่างใดอย่างนั้น…ทั้งหมดนี้ทำเพื่อต้องการตามหาผู้ที่มีชีพจรตี้จิง?
ในใจของฉู่หลิวเยว่รู้สึกมีอันใดผิดปกติ
แต่เห็นได้ชัดว่าคนอย่างมู่ชิงเห่อไม่มีทางเปิดเผยแม้แต่นิดเดียวแน่นอน
สีหน้าของมู่ชิงเห่อนิ่งไป
“ข้าต้องกลับไปวันนี้”
สีหน้าของเจี่ยนเฟิงฉือเปลี่ยนไปทันที
เพราะตอนนั้นเขาหันหลังให้กับฉู่หลิวเยว่ ฉะนั้นฉู่หลิวเยว่จึงไม่เห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันของเขา
แต่ไม่นาน แววตาของเจี่ยนเฟิงฉือก็คืนกลับมาเป็นแววตาที่สงบ เอามือกอดอกพลางจับที่คาง และเอ่ยปากถามว่า
“ถ้าอย่างงั้น…เจ้าก็กลับไปก่อน เมื่อเรื่องต่างๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ข้าจะส่งนางกลับไปเอง แบบนี้ดีหรือไม่?”
เพิ่งจะสิ้นเสียง มู่ชิงเห่อก็เอ่ยปากขึ้นทันที
“ไม่ได้!”
“เหตุใดจะไม่ได้เล่า? ข้อเสนอนี้ดีจะตายไป?”
การเคลื่อนไหวของเจี่ยนเฟิงฉือชะงักไป ก่อนจะมองมู่ชิงเห่อด้วยแววตาที่มีความหมายลึกซึ้ง
“งานของเจ้ายุ่งอยู่แล้ว มัวเสียเวลาอยู่ที่นี่ ตอนนี้ข้าก็ว่างพอดี ข้าจะคอยดูให้เจ้าดีหรือไม่? มีข้าอยู่ ยังจะให้นางกลับไปสายไม่ได้อีกรึ?”
ในใจของฉู่หลิวเยว่ก็รู้สึกเอะใจอีกครั้ง
สาย?
มู่ชิงเห่อมาหานางเพราะจะรีบกลับไปทำอันใดบางอย่างรึ?
“ตอนนี้แม่นางฉู่ยังไม่อยากกลับไป ท่านจะรีบบังคับให้คนกลับไป มันจะดูใจร้ายเกินไปหน่อยหรือไม่?”
เจี่ยนเฟิงฉือกลับมาใช้น้ำเสียงหยาบคายอีกครั้ง
แต่เห็นได้ชัดว่า เขาจริงจังกับข้อเสนอนี้มาก
มู่ชิงเห่อครุ่นคิดสักพัก
สักพัก เขาก็เอ่ยปากออกมา
“มากสุดสามวัน”
“ไม่มีปัญหา!”
เจี่ยนเฟิงฉือตอบตกลงทันที เมื่อสิ้นเสียงแล้วจึงคิดอันใดบางอย่างออก ก่อนจะหันหน้าไปมองฉู่หลิวเยว่
“สามวันน่าจะพอแล้วใช่หรือไม่?”
ฉู่หลิวเยว่พยักหน้าเบาๆ
“ขอบพระทัยท่านรองแม่ทัพมู่และนายน้อยเจี่ยนมาก”
นางมีลางสังหรณ์ว่าภายในสามวัน การต่อสู้ครั้งนี้จะสิ้นสุดลงอย่างแน่นอน
ส่วนสิ่งที่นางจะทำในสามวันนี้ก็คือการจัดแจงเรื่องทุกอย่างให้เสร็จสรรพ
มู่ชิงเห่อมองฉู่หลิวเยว่ ก่อนจะตวัดมือและมีของอันใดบางอย่างบินออกมาจากแขนเสื้อของเขา
ฉู่หลิวเยว่รีบรับเอาไว้ ก่อนจะเงยหน้ามอง
“นี่คือใบคำสั่ง เมื่อได้รับมันแล้ว ถึงเวลาจะมีคนมาพาพวกเจ้าไปหาข้า”
พูดจบแล้วเขาก็ไม่ได้พูดอันใดอีก เมื่อคิดอันใดออก จึงชักดาบพุ่งออกมาตรงหน้าเขา!
มู่ชิงเห่อรีบกระเด้งตัวแล้วหันไปทางดาบอรหันต์!
ความเร็วของเขานั้นเร็วมาก เพียงพริบตาเดียวก็หายไปจากสายตาของฉู่หลิวเยว่แล้ว!
ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้ว
“นายน้อยเจี่ยน ท่านรองแม่ทัพมู่กลับไปแล้วรึ?”
เจี่ยนเฟิงฉือเก็บสายตากลับมา และอารมณ์ในแววตาก็หายไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีหน้ายิ้มเยาะเย้ยถากถางตามปกติ
“เขามีเรื่องที่เขาต้องรีบทำ เจ้าไม่ต้องไปสนใจหรอ แต่เจ้าน่ะ ช่วงนี้ก็ให้รีบเตรียมตัวให้แล้วเสร็จแล้วมาบอกข้าก็พอ”
มุมปากของฉู่หลิวเยว่ยกยิ้ม
“ขอบพระทัยนายน้อยเจี่ยนมาก”
เจี่ยนเฟิงฉือยิ้มอย่างมีเลศนัย
“ใช่แล้ว ได้ยินว่าหลายวันมานี้ เหมือนว่าจักรพรรดิจยาเหวินกำลังตามหาอันใดบางอย่าง…สากทองแดง?”