ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 511 ตั้งรับ
ตอนที่ 511 ตั้งรับ [รีไรท์]
นี่เจ้าตั้งใจจะมาวอแวกันหรืออย่างใด?
ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นก็หันไปมองที่หยางชิ่นเอ๋อร์
ใบหน้าอ่อนเยาว์ของนางเต็มไปด้วยความจริงใจ และมีร่องรอยของความกังวลอยู่ด้วย ราวกับว่ากำลังเป็นห่วงฉู่หลิวเยว่จริงๆ
ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ญาติสนิทมิตรสหาย แล้วความกังวลและความจริงใจที่ให้นางนั้นมาจากที่ใดกัน?
มุมปากของฉู่หลิวเยว่กระตุกยิ้มขึ้น รอยยิ้มเต็มไปด้วยความจริงใจและเกรงใจ
“ขอบคุณในความหวังดีของเจ้ามาก แต่ข้าไม่สามารถไปกับพวกเจ้าได้จริงๆ ข้าซาบซึ้งใจมาก”
หยางชิ่นเอ๋อร์กะพริบตาปริบๆ ด้วยความผิดหวัง
แต่ท่าทางของฉู่หลิวเยว่ดูดื้อรั้นอย่างมาก นางรู้ว่าถ้าต่อให้พูดโน้มน้าวมากกว่านี้ ฉู่หลิวเยว่ก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจ นางจึงฝืนยิ้มแล้วพูดว่า
“งั้นก็ได้ หวังว่าคุณหนูฉู่จะเดินทางปลอดภัยนะเจ้าคะ”
ชายร่างสูงและผอมปรายตามองฉู่หลิวเยว่ด้วยความเย็นชา สีหน้าก็เต็มไปด้วยความไม่พอใจ
“ไม่เห็นคุณค่าของคนอื่น!”
น้ำเสียงของเขาไม่ได้กดเสียงเลย ทำให้ทุกคนได้ยินอย่างชัดเจน
ฉู่หลิวเยว่ยิ้มอย่างเฉยชา และไม่ใส่ใจ พร้อมหมุนตัวเดินออกไปทันที
“เฮ้อ คนคนนี้…” ชายร่างสูงผอมรู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังดูถูกอยู่ และชี้หน้าขึ้นไปเพื่อที่จะตำหนิฉู่หลิวเยว่ แต่กลับโดนหยางชิ่นเอ๋อร์ขวางทางเอาไว้
“ศิษย์พี่ ในเมื่อนางไม่สะดวก พวกเราก็อย่าบังคับเขาเลย” นางกดแขนของชายร่างผอมลง พร้อมพูดขึ้นมาอย่างอ่อนโยน
แต่เมื่อเห็นว่าหลิวเยว่เดินออกไปอย่างไร้ความกังวลแล้ว ในที่สุดชายที่มีเคราก็อดที่จะแค่นหัวเราะเสียงเย็น
“เจ้าคิดว่าแค่สามารถชนะการประลองแค่ครั้งเดียวก็สุดยอดมากแล้ว จนไม่ต้องเห็นใครอยู่ในสายตาแล้วหรือ?”
พวกเขาเป็นคนของสำนักกระบี่เมฆาม่วง ยื่นมือจะมาสานสัมพันธ์ด้วยขนาดนี้แล้ว แต่กลับโดนปฏิเสธ? และไม่ใช่แค่หนึ่งครั้ง แต่เป็นถึงสองครั้งด้วยกัน?
โดยเฉพาะต่อหน้าหยางชิ่นเอ๋อร์อีกด้วย แบบนี้มันน่าอายชัดๆ
หยางชิ่นเอ๋อร์ยิ้มบางๆ แต่ก็ปิดบังความผิดหวังตอนนี้ไว้
“ศิษย์พี่ พวกเราก็ไปกันเถอะ เมื่อครู่ท่านเพิ่งพูดเองไม่ใช่หรือว่า กระบี่เล่มนั้นเป็นไปได้อย่างมากว่าจะเป็นกระบี่หลงหยวน”
พูดมาถึงตรงนี้ ความสนใจของทั้งสองคนก็ถูกเบี่ยงเบนไปทันที ใบหน้าปกปิดความตื่นเต้นไว้ไม่มิด
“ถูกต้อง! แรงกดดันเช่นนั้น..ที่อยู่ในอาณาจักรเทพเทียนลิ่งนั้น ก็คงจะมีแต่กระบี่หลงหยวนในตำนานเท่านั้นแหละ!” ชายร่างผอมพูดขึ้น
“อาจารย์กล่าวเอาไว้ตั้งนานแล้วว่าจะต้องมีโอกาสได้เจอ แต่คิดไม่ถึงว่า…นี่จะเป็นกระบี่ที่ปฐมกษัตริย์ใช้ในตอนนั้น” ชายที่มีเคราเงยหน้าขึ้นมองกระบี่เล่มใหญ่ที่อยู่ตรงกลางระหว่างพื้นฟ้าและปฐพี แววตาเต็มไปด้วยความอิจฉาและชื่นชม “สำนักกระบี่เมฆาม่วงของพวกเรานั้นมีความเชี่ยวชาญเรื่องการใช้กระบี่ ในสำนักก็มีกระบี่เล่มงามอยู่จำนวนไม่น้อยเลย โดยเฉพาะกระบี่ชิงจง…ของอาจารย์เล่มนั้น มีพลังร้ายกาจอย่างมาก แต่เมื่อเทียบกับกระบี่หลงหยวนเล่มนี้แล้ว ยังถือว่าห่างชั้นกันมากนัก..”
ความจริงไม่ได้เรียกว่าห่างชั้นมาก แต่เรียกว่าคนละชั้นเลยดีกว่า!
กระบี่หลงหยวนเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ เป็นสมบัติล้ำค่าที่มีอยู่ในโลก
สามารถเห็นได้ด้วยตาตนเองนั้นก็ถือว่าคุ้มค่าอย่างมากแล้ว
หยางชิ่นเอ๋อร์กะพริบตาปริบๆ
“ตำนานที่เกี่ยวกับกระบี่หลงหยวนนั้น ชิ่นเอ๋อร์ก็ได้ยินมาบ้าง แต่กลับไม่ค่อยเข้าใจ ปฐมกษัตริย์สวรรคตไปแล้ว แต่กระบี่หลงหยวนเล่มนั้นกลับกลายเป็นกระบี่ที่ไม่มีเจ้าของ เหตุใดหลายปีมานี้ เหตุใดถึงไม่มีใคร…ในราชสำนักราชวงศ์เทียนลิ่ง กลับไม่มีใครมาเอามันไป ทั้งๆ ที่มันอยู่ตรงนี้แล้วแท้ๆ มากราบไหว้เฉยๆ มันจะเป็นการเสียของเปล่าๆ?”
ทันทีที่พูดจบ ชายทั้งสองคนนั้นก็หัวเราะดังลั่นขึ้นมา
“ชิ่นเอ๋อร์ เจ้านี่รู้อย่าง ไม่รู้อีกอย่างจริงๆ เลยนะ กระบี่หลงหยวนเล่มนี้เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ มันมีจิตวิญญาณของกระบี่อยู่แล้ว ต่อให้ปฐมกษัตริย์ไม่อยู่แล้ว แต่มันก็ไม่ยอมรับเจ้านายคนใหม่ง่ายๆ หรอก”
ชิ่นเอ๋อร์ชะงักไปครู่หนึ่ง “…เป็นเช่นนี้นี่เอง”
“กระบี่หลงหยวนเล่มนี้มีน้ำหนักหนักมาก ตามตำนานกล่าวว่า หลังจากที่ปฐมกษัตริย์เพิ่งหลอมกระบี่เล่มนี้เสร็จ เขาก็ตั้งใจโยนลงไปในกองทัพ โดยให้ทหารหนึ่งพันนายช่วยกันแบกขึ้นพร้อมกัน แต่มันก็ไม่สามารถยกขึ้นได้! ต้องบอกก่อนนะว่าทหารที่ติดตามปฐมกษัตริย์นั้นก็ไม่ใช่คนธรรมดาเช่นกัน! เห็นได้อย่างชัดเจนว่ากระบี่หลงหยวนเล่มนี้นั้นแข็งแกร่งอย่างมาก!”
ชายร่างสูงและผอมพูดขึ้นพร้อมส่ายหน้าแล้วถอนหายใจออก
หยางชิ่นเอ๋อร์มองไปที่กระบี่เล่มนั้น แล้วพูดขึ้นเบาๆ ว่า
“…ในอนาคตก็ไม่รู้ว่าใครจะสามารถรับกระบี่เล่มนี้ไปได้นะเจ้าคะ..”
“ฮ่าๆ! ขนาดคนในราชสำนักมีสายเลือดของปฐมกษัตริย์ ตลอดระยะเวลาหลายพันปีก็ยังไม่สามารถเอาออกมาได้ แล้วคนอื่นเล่า? ชิ่นเอ๋อร์พวกเราอย่าพูดเรื่องนี้กันอีกเลย! เห็นได้ชัดว่ารอบๆ กระบี่หลงหยวนต้องมีสมบัติอยู่เป็นจำนวนมากแน่นอน พวกเราไปกันเถอะ!”
หยางชิ่นเอ๋อร์พยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม
“เจ้าค่ะ”
…
ฉู่หลิวเยว่เดินไปข้างหน้าคนเดียว
แม้ว่าหยางชิ่นเอ๋อร์และคนอื่นๆ จะอยู่ห่างจากนางไกลมากแล้ว แต่เห็นได้ชัดว่าปลายทางของเขาก็คือกระบี่หลงหยวนเช่นเดียวกัน
แต่แค่ไม่รู้ว่าเป้าหมายของพวกเขาคือกระดูกอสูรศักดิ์สิทธิ์หรือไม่
“ตอนนี้เจ้าสามารถรู้ได้หรือยังว่าเป็นสัตว์ชนิดใด?”
ฉู่หลิวเยว่ถามอีกฝ่ายขึ้นในใจ
“ยังเลย แรงกดดันของกระบี่หลงหยวนมีมากเกินไป ทำให้สัมผัสไม่ได้เลยสักนิด”
อินทรีสามตาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังมากยิ่งขึ้น
“แต่…ข้าสามารถสัมผัสได้ถึงปราณแห่งกฎสวรรค์สายหนึ่ง”
ฉู่หลิวเยว่ตกใจเล็กน้อย
“กฎสวรรค์?? หรือว่าจะเป็นกฎสวรรค์ที่ปฐมกษัตริย์เรียกมาในปีนั้น?”
“ไม่แน่ใจ เพราะกฎสวรรค์สายนั้นอ่อนแรงอย่างมาก อาจจะมีส่วนหนึ่งที่กระจายไปอยู่ที่อื่นบ้างแล้ว”
ฉู่หลิวเยว่พยักหน้า
นี่เหมือนกับที่ในม้วนคัมภีร์ลับกล่าวเอาไว้เลย
มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก
คนทั่วไปคงทำได้แค่มองแต่ไม่อาจเข้าใกล้ แต่สำหรับนาง ในร่างกายของนางมีอยู่แล้วสองสาย
สายหนึ่งจากหัตถ์ศักดิ์สิทธิ์ อีกสายหนึ่งจากพันธสัญญาอินทรีสามตา
แต่พลังเหล่านี้ไม่เคยเคลื่อนไหวในร่างกายของนางเลย นางจึงไม่เคยสัมผัสถึงการมีอยู่ของมันเลย
ส่วนอีกด้าน หยางชิ่นเอ๋อร์และคนอื่นๆ กลับเดินไปที่ไหนสักแห่งหนึ่ง
ตู้ม!
ปราณกระบี่สายหนึ่งพุ่งเข้ามา!
“ข้าเอง!”
ชายร่างสูงผอมตะโกนเสียงดังขึ้น พร้อมชักกระบี่ในมือออกมา
คาดไม่ถึงว่าเขาวางแผนจะโจมตีกับกระบี่สีดำเล่มนั้นแบบต่อหน้า!
เคร้ง!
ปราณกระบี่ทั้งสองสายก็ปะทะกันอย่างรุนแรง! ทำให้มีเสียงกระบี่กรีดร้องทันที!
ปราณกระบี่สีดำนั้นก็หยุดชะงักทันที
ใบหน้าของชายร่างผอมสูงก็ปรากฏรอยยิ้มออกมา แต่ในวินาทีนั้นรอยยิ้มของเขาก็ต้องแข็งค้างไปทันที
เพราะว่าพลังปราณที่กระบี่สีดำแผ่ออกมานั้น มากกว่าที่เขาจินตนาการไว้อย่างมาก!
เคร้งๆ!
ปราณจากกระบี่สีดำนั้นแหลมคมอย่างมาก จนทำให้กระบี่ในมือของเขาเริ่มสั่นอย่างบ้าคลั่ง!
หลังจากนั้นไม่นานแม้กระทั่งมือของเขาก็ยังสั่นไปด้วยเลย!
ตู้ม!
ง่ามมือที่จับด้ามกระบี่ของเขากระเด็นออกมาและกระอักเลือดออกทางปากทันที
นี่เป็นเพียงแค่พลังงานสายหนึ่งจากกระบี่หลงหยวนเท่านั้น คาดไม่ถึงว่ามันจะมีปราณที่น่าหวาดกลัวห่อหุ้มกระบี่ทั้งเล่มเอาไว้
ปราณที่แหลมคมกดดัน ถักทอขึ้นมาเหมือนตาข่ายที่มองไม่เห็น แล้วห่อเข้าที่ตัวของชายร่างผอมคนนั้นทันที
ตู้ม!
คาดไม่ถึงว่าที่ปลายกระบี่ของเขาจะมีรอยแตก
“หนีไป!”
เขาตกใจอย่างมาก ตะโกนเสียงดังลั่น พร้อมถอยหลังอย่างรวดเร็ว!
หยางชิ่นเอ๋อร์รีบถอยหลังทันที
แต่ชายมีเครารีบพุ่งเข้าใส่
เขาใช้กระบี่ของเขาฟันลงไปที่ปราณกระบี่นั้นอย่างแรง!
แต่ในตอนนั้นเอง คาดไม่ถึงว่าแรงกระบี่ของเขาจะสะท้อนกลับมาอย่างรุนแรง
ทำให้เขาต้องกระเด็นถอยหลังไปหลายก้าวพร้อมกระอักเลือดออกมา!
ชั่วพริบตาเดียว ชายทั้งสองคนก็บาดเจ็บสาหัส
กระบี่ในมือของชายร่างผอมผู้นั้นแตกละเอียดไปหมดแล้ว
ตู้ม!
พวกเขาไม่กี่คนหลบได้อย่างหวุดหวิด ในที่สุดปราณกระบี่สีดำก็ถูกตรึงเอาไว้ที่พื้นกว้าง
แต่คาดไม่ถึงว่าพื้นดินส่วนนั้นจะถูกระเบิดจนกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่!
พวกเขาทั้งสามคนก็รู้สึกหวาดกลัวกันอย่างมาก
ปราณกระบี่สายหนึ่ง…มันจะน่ากลัวขนาดนี้เชียวหรือ!
“ดูนั่นสิ! คาดไม่ถึงว่าฉู่หลิวเยว่จะสามารถหยุดปราณกระบี่นั้นได้จริงๆ!”
หยางชิ่นเอ๋อร์เงยหน้าขึ้นไปมอง ทันใดนั้นนางก็กรีดร้องขึ้นมาหนึ่งเสียง
ผู้ชายทั้งสองคนก็รีบเงยหน้าขึ้นไปดูทันที คาดไม่ถึงว่าจะเห็นปราณกระบี่สีดำแตกกระจายอยู่ด้านหน้าของฉู่หลิวเยว่!
และลำแสงสีเงินค่อยๆ หมุนรอบตัวของนาง
“นั่นมัน…นั่นมันพรมแดนไวฑูรยะนี่นา เป็นไปได้อย่างใดเนี่ย?”