ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 546 เพราะข้าไม่เลือกเจ้า
ตอนที่ 546 เพราะข้าไม่เลือกเจ้า [รีไรท์]
ทว่าเจี่ยนชูเย่ยังไม่ยอมแพ้
“หลิวเยว่เอ๋ย เจ้าลองคิดดูดีๆ อีกครั้งเถอะนะ…”
ฉู่หลิวเยว่ยิ้มบาง
“หลิวเยว่ผู้นี้รับความหวังดีของท่านเจ้าสำนักไว้ไม่ได้จริงๆ ท่านโปรดอย่าทำให้หลิวเยว่ลำบากใจเลย”
เจี่ยนชูเย่มองดูนางอย่างจริงจัง ก่อนจะรู้ว่ามันไม่มีประโยชน์ที่จะพูดอันใดแล้ว และทำได้เพียงถอนหายใจเฮือกใหญ่
“เห่อ! ก็ได้! ในเมื่อเจ้าเลือกชงซูเก๋อ เช่นนั้น…”
ทว่าขณะกำลังพูด สีหน้าของเขาก็เคร่งขรึมขึ้นมาทันใด
เขาอุตส่าห์เชิญฉู่หลิวเยว่ไปที่ภูเขาเขี้ยวมังกรอย่างอบอุ่นและจริงใจ ซึ่งทุกคนต่างก็รู้ว่าสำนักใดเหมาะสำหรับการพัฒนาศักยภาพของนางในอนาคตมากกว่ากัน แต่นางก็ยังปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมา…หรือว่านางจะมีเหตุผลอื่น?
ไม่ใช่ว่าลูกชายของเขาไปหักอกนางหรอกนะ!?
ความคิดของเจี่ยนชูเย่เปลี่ยนไปทันควัน และยิ่งขบคิด เขาก็ยิ่งรู้สึกว่ามันมีความเป็นไปได้
ต้องเป็นเช่นนั้นแน่ๆ!
ฉู่หลิวเยว่มองดูเจี่ยนชูเย่ที่เปลี่ยนอารมณ์ไปมากะทันหัน และสุดท้ายเขาก็สบถออกมา
“ไอ้ลูกหมานั่น!”
รอเขากลับไปก่อนเถอะ เขาจะจัดการไอ้ลูกชายตัวดีเสียให้เข็ด!
ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้วนิดๆ
นี่เขา…คงไม่ได้พูดถึงเจี่ยนเฟิงฉือ ใช่หรือไม่?
ดูเหมือนเจี่ยนชูเย่กำลังเข้าใจผิดจริงๆ ด้วย…
ทว่าตอนนี้ มันยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะที่จะอธิบาย
ฉู่หลิวเยว่คิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ตัดสินใจว่าจะรอโอกาสที่จะอธิบายสถานการณ์เป็นการส่วนตัวแทน
“ขอบคุณในความกรุณาของเจ้าสำนักอย่างยิ่ง”
หลังจากพูดจบ นางก็หันไปโค้งคำนับให้อวี้ฉือซง
“หลิวเยว่ขอคารวะ เจ้าสำนักชงซูเก๋อ”
อวี้ฉือซงมองไปยังแม่นางที่กำลังแสดงความเคารพต่อหน้าเขา พร้อมหัวใจที่ลิ่งโลด ราวกับจะกระเด้งกระดอนออกมานอกลำคอ
ความจริงแล้วในวันนี้ เขามาที่นี่โดยไม่ได้หวังอันใดเลย
คนเหล่านั้นล้วนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าชงซูเก๋อกำลังจะล้มสลาย ทำให้หลายปีที่ผ่านมานี้ ผู้สืบทอดรุ่นเยาว์หลายคนต่างเลือกมาที่ซีหลิง แม้ว่าพวกเขาจะต้องทำงานอย่างหนัก เพียงเพราะต้องการต่อสู้เพื่ออนาคตก็ตาม
ทว่าเมื่อพบกับเหตุการณ์ที่ทำให้อารมณ์ฉุนเฉียว พวกเขาก็ไม่อยากเข้าร่วมกับชงซูเก๋อแล้ว
แต่ฉู่หลิวเยว่กลับเลือกชงซูเก๋อด้วยไม่ลังเล!
“ยะ…ยอดเยี่ยม! รีบเข้ามาเลย!”
อวี้ฉือซงลุกพรวดขึ้นและเดินเข้าไปช่วยพยุงฉู่หลิวเยว่ให้เดินตามมา
ใบหน้าที่เคยซีดเซียวกลับมาสดใสในทันตา
“เจ้าวางใจได้ รับรองว่าจากนี้ชงซูเก๋อจะไม่ทำให้เจ้าผิดหวังแน่นอน!”
อวี้ฉือซงเน้นยำทีละคำอย่างหนักแน่น
ฉู่หลิวเยว่จึงตอบกลับอย่างนุ่มนวล
“ขอบคุณท่านเจ้าสำนัก”
นางรู้ว่าอวี้ฉือซงจะรักษาคำสัญญาของเขา และรู้ว่าเขาจะปฏิบัติต่อนางเป็นอย่างดี
เพราะแต่ไหนแต่ไรมา เขาก็ทำเช่นนี้ตลอด
นอกจากเจี่ยนชูเย่ที่กำลังเสียอกเสียใจแล้ว ทัศนคติของคนอื่นๆ ที่มีต่อเรื่องนี้ก็เหมือนกันหมด
คราแรกก็ตกใจ ต่อมาก็สงสัย จากนั้นก็…
มีคนเสียดายบ้างล่ะ หรือไม่ก็เยาะเย้ยนาง
แต่ไม่ว่าในกรณีใด ฉู่หลิวเยว่ก็ได้ตัดสินใจแล้ว และยอมรับกับผลที่ตามมาเสมอ
เจียงอวี่เฉิงมองตามหลิวเยว่ พลันขมวดคิ้วมุ่น
หมายความว่าฉู่หลิวเยว่วางแผนจะทำเช่นนี้ ตั้งแต่ตอนที่นางเข้าไปช่วยศิษย์ของชงซูเก๋อแล้ว
แต่เขาไม่เข้าใจว่า นางจะลงทุนทำเช่นนี้ไปเพื่ออันใด
“ลำดับต่อไป เชียงหว่านโจว?”
เชียงหว่านโจวลุกขึ้นยืน
สายตาหลายคู่จับจ้องมาที่เขา รวมทั้งซ่งหลวนและคนอื่นๆ
ชายหนุ่มผมบลอนด์คนนี้ มีลมปราณที่บ่งบอกถึงความดื้อรั้น แผ่กระจายไปทั่วร่างกายของเขา
แต่เขาต่างจากฉู่หลิวเยว่ตรงที่ว่า เขาทะลวงขอบเขตนักรบขึ้นไปสู่รบระดับหกแล้ว!
และมันคือความแข็งแกร่งที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า!
ทุกคนอาจสงสัยเรื่องอันดับของฉู่หลิวเยว่ แต่กลับไม่มีใครสงสัยอันดับสองอย่างเชียงหว่านโจวเลย!
เพราะเขาคือสุดยอดนักรบในหมู่อัจฉริยะเหล่านี้จริงๆ!
และที่สำคัญกว่านั้นคือ เขาเปรียบเสมือนหยกที่ยังไม่ได้แกะสลัก หากมีการขัดเกลาอีกเพียงเล็กน้อย มันจะเบ่งบานทอแสงระยิบระยับอย่างมิอาจห้ามได้!
และความจริงแล้วตอนนี้หลายสำนักใหญ่ๆ ก็กำลังเคลื่อนไหวและมองดูสีหน้าของเชียงหว่านโจว ด้วยสายตาที่เป็นมิตรกว่าฉู่หลิวเยว่
เจียงอวี่เฉิงเอ่ยถาม
“ถึงคราวเจ้าเลือกแล้ว สำนักเหล่านี้…”
“ชงซูเก๋อ”
เชียงหว่านโจวเอ่ยแทรกโดยไม่ลังเล
จนเจียงอวี่เฉิงต้องถามซ้ำอีกครั้ง
“อันใดนะ?”
เชียงหว่านโจวชี้นิ้วไปทางฉู่หลิวเยว่
“นางเลือกชงซูเก๋อ และข้าเลือกเหมือนนาง”
ฉู่หลิวเยว่กะพริบตาปริบๆ
อันที่จริงนางไม่เคยคุยเรื่องนี้กับเชียงหว่านโจวมาก่อน เพราะนางคิดว่าอย่างใดเขาก็เลือกตามนาง
และมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ
เจ้าหนูนี่ช่างเป็นเด็กดีได้ตลอดเสียจริง!
“เจ้าก็จะเลือกชงซูเก๋อหรือ? เจ้าแน่ใจแล้วใช่หรือไม่?”
คราวนี้เฉิงลี่เฟิง เจ้าสำนักหลิงอวิ๋นจงเป็นคนเอ่ยถาม
เดิมทีเขาเล็งเชียงหว่านโจวไว้แต่แรก แต่ใครจะไปคิดว่าเด็กนี่จะเลือกตามฉู่หลิวเยว่เหมือนกัน?
เชียงหว่านโจวขมวดคิ้วมุ่น
เขาก็พูดออกไปชัดเจนแล้วนะ แต่เหตุใดคนพวกนี้ถึงยังถามย้ำอยู่ได้?
“ข้าแน่ใจ”
พอพูดจบเขาก็เดินไปหาฉู่หลิวเยว่ทันที
ฉู่หลิวเยว่ลูบศีรษะของเขาเบาๆ
“ติดใจข้าแล้วสินะ เด็กน้อย!”
ผมสีบลอนด์นุ่มตัดสั้นเชียงหว่านโจวยุ่งเหยิงอีกครั้ง แต่คราวนี้เขาไม่ได้รู้สึกโกรธเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
นับตั้งแต่ตอนที่ฉู่หลิวเยว่ปกป้องเขาในอาณาเขตเซียนเทพของราชวงศ์เทียนลิ่ง และเรียกเขาว่าเสี่ยวโจว ก็ดูเหมือนว่าการโกรธนางนั้น กลายเป็นเรื่องยากสำหรับเขาไปเลย
และหลังจากที่เริ่มสนิทกัน เขาก็รู้ว่าส่วนใหญ่ฉู่หลิวเยว่แค่ล้อเขาเล่นเฉยๆ แต่จริงๆ แล้วนางปฏิบัติต่อเขาเป็นอย่างดี
และการถูกนางยีผมเล็กๆ น้อยๆ เช่นนี้ ก็ถือเป็นเรื่องที่รับได้
เมื่อเห็นความใกล้ชิดของทั้งสอง คนเหล่านั้นก็เดาได้ทันทีว่าเหตุใดเชียงหว่านโจวถึงเลือกแบบนี้?
นั่นเพราะเขาเห็นแก่ประโยชน์ของฉู่หลิวเยว่ เขาจึงเลือกชงซูเก๋อตามนาง!
และถ้าฉู่หลิวเยว่เลือกสำนักอื่น เขาก็จะตามไปอย่างแน่นอน!
ทั้งๆ ที่มาจากคนละที่ ทว่าเพียงไม่กี่วัน เหตุใดจักสนิทสนมกันถึงเพียงนี้?
เฉิงลี่เฟิงหัวเราะเยาะ
“ตอนแรกข้าคิดว่าเจ้าเป็นต้นกล้าที่แข็งแกร่ง แต่กลับคิดไม่ถึงว่าชายผู้เก่งกาจอย่างเจ้า จะโดนผู้หญิงจูงจมูกได้อย่างง่ายดายเช่นนี้ ให้ตายสิ…เหอะ ข้าไม่เลือกคนอย่างเจ้าหรอก!”
คนแบบนี้ รับไปก็คงไม่มีอนาคตอยู่ดี!
แววตาของฉู่หลิวเยว่เย็นลงทันควัน
ทว่าไม่ทันจะได้เอ่ยปาก กลับเป็นเชียงหว่านโจวที่พุ่งตัวไปข้างหน้าอย่างอุกอาจ และพูดกับเฉิงลี่เฟิงด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ
“ตกลงเป็นเพราะข้าไม่เลือกพวกเจ้า หรือเพราะเจ้าไม่ต้องการข้า ไหนลองพูดอีกทีสิ?”