ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 582 ไม่ได้บอกว่าจะพานางมาด้วย
ตอนที่ 582 ไม่ได้บอกว่าจะพานางมาด้วย [รีไรท์]
ฉู่หลิวเยว่มองไปที่กลุ่มแสงสีขาวที่อยู่บนฝ่ามืออย่างมีความสุข
ในที่สุดก็สามารถผ่านด่านได้!
แม้ว่าจะกระจายออกมาเพียงเล็กน้อย แต่นี่ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมมากแล้ว!
ฉู่หลิวเยว่ยกมือขึ้นมา หลังจากนั้นแสงนั้นก็ค่อยๆ หายไป!
หลังจากที่นางโคจรลมปราณมาทั้งคืนแล้ว นางก็เก็บของอย่างง่ายๆ และลุกเดินออกจากห้องไป
แม้ว่าจะไม่ได้นอนหนึ่งคืน แต่นางกลับไม่รู้สึกง่วงเลย จิตวิญญาณของนางก็รู้สึกกระปี่กระเปร่าด้วย
ตอนนั้นเองนางก็เดินไปที่สวนสมุนไพรคนเดียว
สมุนไพรทุกชนิดที่ปลูกเอาไว้ ไม่แห้งเหี่ยวเหมือนดั่งเช่นวันวานแล้ว ตอนนี้มันกำลังเติบโตอย่างราบรื่น
ฉู่หลิวเยว่ค่อยๆ สำรวจอย่างละเอียด
หลังจากนั้นไม่นานก็เห็นว่าศิษย์พี่เริ่มทยอยเดินเข้ามา
ครั้งนี้พวกเขาไม่ได้มาหานาง แต่มาดูแลสมุนไพรเหล่านั้น
แม้ประมุขจะบอกว่าสวนสมุนไพรกลับมาเป็นปกติแล้ว แต่ในใจของพวกเขาก็ไม่ค่อยไว้วางใจเท่าไร จึงอดมาดูตั้งแต่เช้าตรู่ไม่ได้
แต่คิดไม่ถึงว่าฉู่หลิวเยว่จะมาเช้ากว่าพวกเขา
อีกทั้งดูจากการจัดการของนางก็เรียบร้อยหมดจด เห็นได้ชัดว่านางมีความสามารถด้านนี้อย่างมาก!
นอกจากที่ทุกคนจะมีความสุขแล้ว พวกเขายังรู้สึกชื่นชมฉู่หลิวเยว่มากขึ้นไม่น้อยเลยทีเดียว
ศิษย์น้องหญิงนั้นเก่งกาจกว่าที่พวกเขาคิดเอาไว้เสียอีก!
แม้แต่ผู้อาวุโสซย่าอี้ก็ยังมาดูที่นี่ด้วยตนเองเช่นกัน
แต่เมื่อเทียบกันแล้ว เขาไม่ได้พูดมากเท่าคนอื่น แต่เขาก็มาหยุดยืนอยู่ด้านหน้าของฉู่หลิวเยว่ ก่อนจะพูดว่า
“หลิวเยว่ ขอบใจเจ้ามาก”
ฉู่หลิวเยว่กะพริบตาปริบๆ เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของผู้อาวุโสซย่าอี้ นางก็สามารถคาดเดาได้ทันทีว่า ผู้อาวุโสกำลังพูดถึงทรายรวมศูนย์อยู่แน่นอน
นางขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ผู้อาวุโสซย่าอี้ไม่ต้องขอบคุณหรอกเจ้าค่ะ เดิมทีข้าเองก็เป็นศิษย์สำนักชงซูเก๋ออยู่แล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สมควรทำอยู่แล้วเจ้าค่ะ”
ผู้อาวุโสซย่าอี้ถอนหายใจออกมายาวๆ
ไม่รู้ว่าเหตุใดพวกเขาถึงได้โชคดีขนาดนี้…
เป็นไปได้หรือไม่ว่าก่อนหน้านี้สวรรค์ได้เห็นแล้วว่าพวกเราทนทุกข์ทรมานมามากเกินไป ดังนั้นตอนนี้จึงส่งฉู่หลิวเยว่และเซียงหว่านโจวมาชดเชยให้สำนักของพวกเรา?
เรื่องน่าเสียดายเพียงหนึ่งเดียวก็คือ ทั้งฉู่หลิวเยว่และเชียงหว่านโจวต่างก็เลือกอวี้ฉือซงเป็นอาจารย์
“ความจริงแล้วข้าเองก็มีฝีมือพอๆ กับท่านประมุข เฮ้อ เหตุใดพวกเจ้าถึงไม่เลือกข้าล่ะ…”
ผู้อาวุโสซย่าอี้ลูบเคราของตัวเองไปมา
“หึๆ ตอนที่พวกเจ้ายังไม่มา ท่านประมุขอยู่บนเขาตลอดหนึ่งเดือนไม่ยอมลงไปไหน แต่ตั้งแต่ที่รับพวกเจ้าทั้งสองคนเป็นศิษย์ เขาเอาแต่ลงเขาทุกวัน…”
ตอนนั้นเองฉู่หลิวเยว่ถึงนึกขึ้นได้ หลังจากที่อวี้ฉือซงไปที่ตระกูลเจียงแล้ว นางยังไม่ได้พบหน้าเขาเลย จึงไม่ได้สอบถามว่าสถานการณ์ของทางนั้นเป็นอย่างใดบ้าง?
“วันนี้ท่านอาจารย์จะลงเขาอีกแล้วหรือ?”
“ใช่แล้ว! เพิ่งออกไปเมื่อครู่นี้เลย ตอนนี้น่าจะอยู่สักครึ่งทางได้แล้วล่ะมั้ง?”
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
หรือว่าเมื่อวานเขาไม่ได้เจอกับเจียงอวี่เฉิง ดังนั้นวันนี้จึงต้องไปอีกครั้ง?
“ผู้อาวุโสซย่าอี้ ท่านรู้หรือไม่ว่าวันนี้ท่านอาจารย์จะไปที่ใด ใช่…ตระกูลเจียงหรือไม่?”
ผู้อาวุโสซย่าอี้ส่ายหน้า
“ไม่ใช่ วันนี้เขาจะไปที่สวนซินหลี่”
ฉู่หลิวเยว่ชะงักไปครู่หนึ่ง
เหตุใดถึงไปที่สวนซินหลี่อีกแล้วล่ะ?
เมื่อเห็นใบหน้าที่มึนงงของฉู่หลิวเยว่ ผู้อาวุโสซย่าอี้ก็อธิบายขึ้นมาว่า
“ความจริงที่เขาไปวันนี้ เพื่อไปเอาของ เจ้าก็น่าจะรู้สินะว่าก่อนหน้านี้ประมุขอวี้ฉือมีความสัมพันธ์อันดีกับองค์หญิง จึงมีของจำนวนไม่น้อยที่องค์หญิงวางทิ้งเอาไว้ที่นั่น…”
หนังตาของฉู่หลิวเยว่กระตุกถี่ขึ้น
“ท่านหมายถึงความจริงแล้ววันนี้อาจารย์ไปที่เรือนฉินหรือ?”
ผู้อาวุโสซย่าอี้กล่าวด้วยความประหลาดใจ
“เจ้ารู้จักเรือนฉินได้อย่างใด?”
ฉู่หลิวเยว่ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะพูดเสียงเบา
“คือว่า…ก่อนหน้านี้เคยได้ยินท่านอาจารย์พูดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ…”
ผู้อาวุโสซย่าอี้จึงไม่ได้สงสัยต่อ เขาพยักหน้าแล้วพูดขึ้นว่า
“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง เจ้าเดาได้ถูกต้องแล้ว เขาไปที่นั่นจริงๆ ข้าได้ยินมาว่าเขาตั้งใจจะเอาของเหล่านั้นกลับมาทั้งหมด…ความจริงแล้ว เขาก็เคยพูดขึ้นเมื่อนานมาแล้ว แต่เพราะกลัวว่าของเหล่านั้นจะเสียหาย จึงบอกว่าวางเอาไว้ตรงนั้นแหละดีแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเหตุใด ตอนนี้เขาถึงได้เปลี่ยนใจขึ้นมา…”
ความคิดของฉู่หลิวเยว่เปลี่ยนไปทันที
วันนั้นอินทรีสามตาพูดขึ้นว่า เขาเห็นใบโพธิ์สีม่วงทองอยู่ใกล้ๆ กับเรือนฉิน!
หากวันนี้สามารถติดตามอวี้ฉือซงไปได้ละก็…นางก็สามารถหาเหตุผลเข้าไปที่ด้านในได้!
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ฉู่หลิวเยว่ก็กล่าวลา และรีบหมุนตัวเดินออกมาทันที
เมื่อผู้อาวุโสซย่าอี้เห็นแผ่นหลังที่หายไปอย่างรวดเร็วของนาง ใบหน้าก็เกิดความมึนงงเล็กน้อย
เหตุใดศิษย์อาจารย์ทั้งสองคนนี้ถึงได้แปลกไปเช่นนี้เล่า?
…
ฉู่หลิวเยว่เดินทางเร็วมาก ตอนที่นางมาถึงบริเวณตีนเขา ในที่สุดนางก็สามารถเดินตามอวี้ฉือซงทัน
“อาจารย์!”
อวี้ฉือซงกลับหลังหันไปมอง
“หลิวเยว่? เจ้ามาที่นี่ได้อย่างใด?”
ฉู่หลิวเยว่เดินไปที่ด้านข้างของเขา หยาดเหงื่อผุดพราวเต็มหน้าผากของนาง
“อาจารย์ ได้ยินผู้อาวุโสซย่าอี้บอกว่าวันนี้ท่านจะไปที่สวนซินหลี่หรือ?”
อวี้ฉือซงพยักหน้า “ใช่แล้ว!”
เมื่อเขาเห็นท่าทางรีบร้อนของฉู่หลิวเยว่ เขาจึงถามขึ้นมาว่า
“จริงสิ เมื่อวานตอนที่อาจารย์กลับมา เดิมทีคิดว่าจะไปหาพวกเจ้า แต่เหมือนว่าเจ้ากับหว่านโจวกำลังบำเพ็ญเพียรกันอยู่ ดังนั้นอาจารย์จึงไม่ได้ไปรบกวนพวกเจ้า”
เมื่อไม่กี่วันก่อนฉู่หลิวเยว่เพิ่งหลอมโอสถให้กับเซียงหว่านโจวไปดังนั้นวันนี้เขาจึงยุ่งอยู่กับการสลายพลังปราณเย็นในร่างกาย
เมื่อได้ยินคำพูดของอวี้ฉือซง ทันใดนั้นใจของฉู่หลิวเยว่ก็เหมือนมีอันใดบางอย่างมาบีบรัดจนแน่น
“ดังนั้น…ท่านตรวจสอบได้ความว่าอย่างใด?”
อวี้ฉือซงชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็กระซิบเสียงเบาว่า
“เขาปกปิดพลังปราณในร่างกายของตนเอง อีกทั้งที่ฝ่ามือของเขาก็มือแผล…แม้ว่าจะไม่สามารถยืนยันได้อย่างชัดเจน แต่…ก็น่าจะเป็นเขานั่นแหละ”
ฉู่หลิวเยว่กลั้นหายใจ
เป็นเช่นนั้นจริงๆ ด้วย!
ก่อนหน้านี้มีหลักฐานตั้งมากมายชี้ตัวไปที่เจียงอวี่เฉิง และในใจของนางก็ได้ปักใจเชื่อไปแล้ว
เมื่อได้ยินคำตอบเช่นนั้น นางจึงไม่ได้ตกใจ แต่ในใจกลับรู้สึกสับสนเล็กน้อย
หลังจากนางตายไปแล้ว เจียงอวี่เฉิงก็ยังไม่ยอมปล่อยคนของนางไปจริงๆ ด้วย
หากเป็นเช่นนี้นางก็มีส่วนในการทำร้ายสำนักชงซูเก๋อ
นางเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดขึ้นมาว่า
“อาจารย์ ข้าอยากตามท่านไปที่สวนซินหลี่ด้วย”
อวี้ฉือซงชะงักไป แต่เขาค่อนข้างจะไม่เห็นด้วย
“หลิวเยว่ ที่อาจารย์ไปครั้งนี้ เพราะว่าอาจารย์มีธุระสำคัญ..”
“ศิษย์ทราบ” ฉู่หลิวเยว่มองหน้าเขานิ่งๆ
“บางทีข้าจะช่วยท่านได้?”
อวี้ฉือซงเงียบไปครู่ใหญ่
เขาดูออกว่า ฉู่หลิวเยว่อยากไปมาก และนางก็น่าจะรู้ว่าเขาจะไปหาของที่เรือนฉิน…
มันต้องมีเหตุผลอันใดสักอย่าง ที่ทำให้นางยืนกรานเช่นนั้น
“อาจารย์?”
น้ำเสียงของฉู่หลิวเยว่แฝงไปด้วยการขอร้องอ้อนวอน
ในที่สุดอวี้ฉือซงก็ตัดสินใจได้
“ได้! เช่นนั้นเจ้าก็ไปกับอาจารย์ แต่หลังจากที่ไปถึงแล้ว เจ้าต้องอยู่ข้างกาย ห้ามทำตัวบุ่มบ่ามโดยเด็ดขาด”
ฉู่หลิวเยว่รีบตกลงทันที
“ขอบคุณเจ้าค่ะอาจารย์!”
รอยยิ้มที่สดใสของนางปรากฏขึ้น ในแววตาของนางเหมือนมีธารดาราอยู่ด้านใน เมื่อเห็นรอยยิ้มนี้ความลังเลสุดท้ายของอวี้ฉือซงก็หายไปทันที
นางไม่อยากพูด เขาก็จะไม่ถาม
เด็กที่สามารถเอาชีวิตของตนเองมาปกป้องสำนักชงซูเก๋อนั้น เหตุใดเขาจะต้องไม่ไว้ใจนางด้วยล่ะ?
ไม่ว่าอย่างใด ปกป้องนางให้ดีที่สุดก็พอแล้ว!
“ไป!”
…
ตอนที่อวี้ฉือซงและฉู่หลิวเยว่มาถึงที่หน้าประตูสวนซินหลี่ เจียงอวี่เฉิงก็มารอพวกเขาอยู่ก่อนแล้ว
เมื่อเห็นว่าด้านหลังของอวี้ฉือซงมีฉู่หลิวเยว่ติดตามมาด้วย เจียงอวี่เฉิงจึงขมวดคิ้วแล้วมองนางอย่างสำรวจ
ฉู่หลิวเยว่มาที่นี่ได้อย่างใด?
แต่เขาก็ยังสาวเท้าเดินไปด้านหน้าด้วยท่าทางสงบนิ่ง
“คารวะท่านประมุขอวี้ฉือ”
สายตาของฉู่หลิวเยว่หยุดอยู่ที่เจียงอวี่เฉิง
เขาใช้อาวุธโบราณเพื่อปกปิดปราณของตนเองจริงๆ ด้วย และเห็นได้ชัดว่าเปลี่ยนผ้าพันแผลตรงมือใหม่แล้ว ทำให้มองไม่เห็นความแตกต่างจากเดิมเลย
นางเหลือบมองเล็กน้อย หลังจากนั้นก็เบนสายตากลับทันที
เจียงอวี่เฉิงเดินมาหยุดตรงหน้าอวี้ฉือซง ก่อนจะเหลือบมองแล้วพูดเสียงเบาว่า
“ประมุขอวี้ฉือ เหมือนว่าเมื่อวานนี้ท่านไม่ได้พูดนี่นาว่าวันนี้จะพาคนอื่นมาด้วย”