ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 585 หออวี่เซี่ยง
ตอนที่ 585 หออวี่เซี่ยง [รีไรท์]
ส่วนมืออีกข้างของอวี้ฉือซงก็กุมหน้าอกเอาไว้ เขาหอบ หน้าผากมีเหงื่อมากมายนับไม่ถ้วนผุดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ใบหน้าซีดเผือด
ฉู่หลิวเยว่ตกใจอย่างมาก
“อาจารย์? นี่ท่านเป็นอันใดกันแน่?”
หรือว่าเมื่อครู่นี้ด้านในนั้นมีอันใดเกิดขึ้นหรือ?
แต่เมื่อตอนที่ทั้งสองคนเดินออกมา ก็ดูไม่มีอันใดผิดปกติเลย
กร๊อบ!
เสียงหนึ่งดังกังวานขึ้น!
เหมือนว่าอวี้ฉือซงจะออกแรงมากเกินไป จึงทำให้กำแพงที่อยู่ด้านข้างเกิดรอยร้าวขึ้น!
ฉู่หลิวเยว่ยิ่งกังวลหนักมากขึ้นกว่าเดิม นางพยุงแขนของอวี้ฉือซงขึ้นมา แต่กลับพบว่าตัวของอวี้ฉือซงนั้นสั่นสะท้านอย่างรุนแรง
“…เสี้ยว…เสี้ยวจันทร์น้อย”
อวี้ฉือซงพยายามพูดชื่อหนึ่งออกมาจากริมฝีปาก
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกตกใจอย่างมาก
“…เป็นเขา…เป็นเขาจริงๆ ด้วย…”
อวี้ฉือซงกัดฟันค่อยๆ พูดออกมาทีละคำ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความตกใจระคนโมโห
ทันใดนั้นฉู่หลิวเยว่ก็ชะงักค้างไป
หรืออวี้ฉือซงจะหมายความว่า…
“เป็นฝีมือเขาจริงๆ ด้วย!”
อวี้ฉือซงกำหมัดแน่น แล้วต่อยเข้าที่กำแพงอย่างแรง!
ทันใดนั้นเองผนังทั้งหมดก็กลายเป็นรอยแตกร้าว!
ฉู่หลิวเยว่รีบพูดขึ้นมาว่า
“อาจารย์ ที่นี่คนเยอะ พวกเรารีบกลับกันก่อนเถอะ!”
ในที่สุดเสียงนี้ก็ทำให้อวี้ฉือซงได้สติขึ้นมา
เขาลุกขึ้นมา และผลักมือของฉู่หลิวเยว่ออกไปอย่างช้าๆ ใบหน้าของเขากลับมาสงบราบเรียบเช่นเดิมแล้ว มีเพียงแค่สายตาที่เต็มไปด้วยความระแวดระวังและเกลียดชังไม่จางหาย
ความจริงแล้วฉู่หลิวเยว่อยากถามมาก ว่าอีกฝ่ายได้ไปเจออันใดมากันแน่ แต่เห็นได้ชัดว่ามันไม่เหมาะสม
อวี้ฉือซงยืนอยู่ที่เดิมอย่างสงบนิ่ง จากนั้นก็ค่อยหันไปมองฉู่หลิวเยว่ แล้วกล่าวขอโทษ
“หลิวเยว่ ข้าคงทำให้เจ้าตกใจสินะ?”
ฉู่หลิวเยว่ส่ายหน้า
“อาจารย์ไม่เป็นอันใดก็ดีแล้ว”
ทันใดนั้นเองอวี้ฉือซงก็เผยรอยยิ้มเยาะเย้ยขึ้นมา
เขาน่ะไม่เป็นไร เพียงแค่…เขาได้ค้นพบเรื่องบางอย่างเท่านั้นเอง…
เจียงอวี่เฉิง!
เจ้าควรโดนสับเป็นหมื่นๆ ชิ้น
“หลิวเยว่ เจ้ากลับไปก่อนเถอะ อาจารย์อยากอยู่เงียบๆ”
อวี้ฉือซงพูดขึ้นด้วยท่าทางเหนื่อยล้า
ฉู่หลิวเยว่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง
“อาจารย์ต้องระวังตัวด้วยนะเจ้าคะ”
อวี้ฉือซงพยักหน้า แล้วมองหน้านางด้วยความโล่งใจ
“หลิวเยว่…ขอบใจเจ้ามากนะที่เข้าใจ”
ฉู่หลิวเยว่ยิ้มขึ้น จากนั้นก็หมุนตัวเดินออกมา
หลังจากฉู่หลิวเยว่เดินจากมาแล้ว อวี้ฉือซงก็ยังคงยืนอยู่ที่เดิมสักพัก จากนั้นก็หมุนตัวเดินออกไปทางอื่น
…
ส่วนฉู่หลิวเยว่ก็ไม่ได้ตรงกลับไปที่สำนักชงซูเก๋อทันที
แต่กลับเดินทางไปที่หอประมูลที่ใหญ่ที่สุดในเมืองซีหลิง…หออวี่เซี่ยง (ปีกคชสาร)
ที่นี่มีชื่อเสียงเรื่องการประมูลมาช้านาน เพราะว่าหอแห่งนี้สามารถเสาะหาของวิเศษ ของล้ำค่า หายากมามากมาย จึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
บุคคลที่มีอำนาจจำนวนไม่น้อยในแคว้นซีหลิงชอบมาเดินเที่ยวเล่นที่นี่ เพื่อหวังว่าจะได้เจอสมบัติล้ำค่าที่ต้องตาต้องใจตนเอง
อีกทั้งบางครั้งมีผู้คนแย่งกันซื้อเยอะมาก และบ่อยครั้งก็สามารถประมูลของราคาสูงเทียมฟ้า
ก่อนหน้านี้ฉู่หลิวเยว่ก็เคยมาที่นี่หลายครั้ง และได้ซื้อของจำนวนไม่น้อยจากที่นี่
ด้านหน้าประตูหออวี่เซี่ยง มีบ่าวรับใช้หน้าตาดียืนอยู่สองคน พวกเขาล้วนเป็นนักรบระดับหก ฝีมือก็ไม่อ่อนด้อยเลย
สามารถส่งคนที่มีวรยุทธ์ขนาดนี้มาเป็นบ่าวรับใช้ได้นั้น ก็สามารถพิสูจน์ความแข็งแกร่งของหออวี่เซี่ยงได้แล้ว
วันนี้มีแขกที่เข้ามาจำนวนไม่มากนัก
ความจริงแล้ว ในทุกเดือนจะมีงานประมูลใหญ่หนึ่งครั้ง ตระกูลที่มีอำนาจของเมืองซีหลิงล้วนมารวมตัวกันอยู่ที่นี่ ส่วนเวลาอื่นนอกจากนั้นแล้วหออวี่เซี่ยงมักจะเงียบสงบ คนไม่พลุกพล่าน
และแม้ว่าจะเป็นวันประมูล ก็ไม่ใช่ว่าใครก็ได้จะมีสิทธิเข้าร่วม
ทันทีที่ฉู่หลิวเยว่เดินมาถึงที่หน้าประตู แววตาของบ่าวรับใช้ทั้งสองก็สว่างวาบขึ้น
หญิงสาวผู้นี้ ดูเหมือนว่าจะอายุสิบห้าสิบหก ใบหน้างดงาม ท่าทางสูงศักดิ์ มองเพียงแวบเดียวก็รู้แล้วว่าคนผู้นี้ไม่ธรรมดา
แต่ใบหน้านี้ ค่อนข้างจะไม่คุ้นตาอยู่เสียหน่อย…
ในเมืองซีหลิง มีสตรีสูงศักดิ์เช่นนี้เพิ่มขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?
“ไม่ทราบว่าแม่นางมีแซ่ว่าอันใด?”
หนึ่งในบ่าวรับใช้สาวเท้าขึ้นมา ใบหน้าของเขายังประดับด้วยรอยยิ้มสุภาพ
ฉู่หลิวเยว่พูดขึ้น
“ฉู่”
บ่าวรับใช้คนนั้นก็นึกขึ้นในใจ เหมือนว่าตระกูลคนใหญ่คนโตในเมืองนี้จะไม่มีคนแซ่ฉู่นะ
แม้ว่าเสื้อผ้าของคนผู้นี้จะดูธรรมดาอย่างมาก แต่กริยาท่าทางล้วนไม่ธรรมดา ดังนั้นจึงจำเป็นจะต้องต้อนรับนางอย่างดี
เขายิ้มพร้อมอธิบายขึ้นว่า
“คุณหนูฉู่ ดูจากท่าทางของท่านแล้ว ท่านคงจะเพิ่งเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรกสินะขอรับ?”
ฉู่หลิวเยว่พยักหน้า
“ในเมื่อท่านมาที่นี่เป็นครั้งแรก บางทีท่านอาจจะไม่ทราบเรื่องราวของหออวี่เซี่ยงของพวกเรามากนัก แขกที่เข้ามาที่นี่เป็นครั้งแรก จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมก่อนเข้าด้วยนะขอรับ”
ยังไม่ทันได้เข้าไป ก็ต้องจ่ายเงินเสียแล้ว
ที่นี่คงเป็นที่เดียวในเมืองซีหลิงที่กล้าทำเช่นนี้
“พวกเรามีค่าธรรมเนียมสำหรับสามระดับด้วยกัน แบบที่หนึ่ง แบบธรรมดา สิบผนึกศิลาขาว แบบที่สอง ห้าสิบผนึกศิลาขาว แบบที่สาม หนึ่งร้อยผนึกศิลาขาว ระดับยิ่งสูงมากเท่าไหร่ ตำแหน่งที่นั่ง หลังจากที่เข้าไปนั้นก็ยิ่งสูงมากขึ้นเท่านั้น”
ฉู่หลิวเยว่หยิบเงินออกมาจากแหวนเฉียนคุน
“นี่คือหนึ่งร้อยผนึกศิลาขาว”
เมื่อบ่าวรับใช้ทั้งสองเห็นแหวนเฉียนคุนที่อยู่บนนิ้วของนาง สายตาก็มีประกายความตกตะลึงออกมา
สามารถปรนนิบัตินางในที่นี่ได้ ถือว่าพวกเขามีสายตาไม่เลวแล้ว
เมื่อครู่ที่เขาเหลือบสายตามองอย่างรวดเร็ว ก็รู้ได้ทันทีว่าแหวนเฉียนคุนวงนั้นเป็นแหวนที่มีระดับสูงมาก!
คุณหนูฉู่ผู้นี้ เป็นคนที่หลบซ่อนตัวเอาไว้จริงๆ ด้วย
เขารีบรับเงินมาด้วยท่าทีเคารพ
“เชิญขอรับ คุณหนูฉู่”
บ่าวรับใช้อีกคนก็ป้ายสีทองให้นางหนึ่งแผ่น ด้านบนเขียนหมายเลข “สิบหก” เอาไว้
“คุณหนูฉู่ นี่คือป้ายของท่าน หลังจากเข้าไปด้านในแล้ว นี่จะเป็นสิ่งที่ใช้แสดงฐานะของท่าน”
ฉู่หลิวเยว่รีบป้ายสีทองแผ่นนั้นไป
“เชิญตามข้ามาขอรับ คุณหนูฉู่”
…
ฉู่หลิวเยว่เดินตามบ่าวรับใช้คนนั้นไป จากนั้นก็เข้าไปในโถงประมูลแห่งนี้
ตรงกลางของโถงนั้นมีเวทีแสดงสินค้า ลักษณะเป็นวงกลม ที่นั่งจัดอย่างเป็นระเบียบ โถงทั้งหมดมีสามชั้น
ชั้นล่างสุดเป็นที่ที่นั่งที่มีจำนวนมากที่สุด ชั้นบนสุดก็จะเป็นห้องส่วนตัว
บ่าวรับใช้พาฉู่หลิวเยว่ไปยังห้องหนึ่งในนั้น
“ท่านสามารถมองการประมูลทั้งหมดจากตำแหน่งนี้ได้ อีกทั้งฐานะของท่านจะถูกปิดเป็นความลับ”
บ่าวรับใช้ผู้นั้นพูดขึ้นมาด้วยความเคารพ
ฉู่หลิวเยว่พยักหน้า
“อีกสักครู่งานประมูลจะเริ่มขึ้นแล้ว ท่านสามารถพักผ่อนอยู่ที่นี่ได้ หากท่านมีสินค้าที่ชอบ เพียงยกป้ายเสนอราคานี้ขึ้น สินค้าทุกชิ้นที่ท่านสามารถประมูลได้ จะมีคนนำมาส่งให้ที่นี่ขอรับ”
คนที่เลือกชั้นสาม มักไม่ค่อยขาดแคลนเงินทอง
แต่พวกเขาจะให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวอย่างมาก
มีบางคนไม่ต้องการให้คนอื่นจำตนเองได้ บางคนไม่ต้องการให้เกิดความยุ่งยากมากขึ้นหลังจากที่ประมูลของมาแล้ว
ในจุดนี้ หออวี่เซี่ยงสามารถจัดการได้ดีมาก
“ข้าเข้าใจแล้ว เจ้าออกไปก่อนเถิด”
ฉู่หลิวเยว่พูดขึ้น
บ่าวผู้นั้นโค้งคำนับแล้วก้าวถอยหลังเดินจากไป ก่อนจะปิดประตูอย่างระมัดระวัง
ฉู่หลิวเยว่ก็ยืนอยู่ริมหน้าต่าง จากนั้นก็มองลงไปที่งานประมูลด้านล่าง
หน้าต่างบานนี้เป็นลักษณะพิเศษ สามารถมองจากด้านในออกไปด้านนอกได้ แต่ด้านนอกจะไม่สามารถมองเห็นด้านในได้เลย
ดังนั้นนางจึงสามารถวางใจได้ว่าจะไม่ถูกคนอื่นพบเข้าอย่างแน่นอน
ในตอนนี้ก็มีผู้คนมานั่งอยู่ที่ชั้นหนึ่งและชั้นสองจำนวนไม่น้อยแล้ว
ฉู่หลิวเยว่กวาดสายตามองไปรอบๆ ก็มองเห็นคนที่คุ้นหน้าคุ้นตาอยู่หลายคนทีเดียว
และหนึ่งในนั้นก็มีคนที่พวกเขาเพิ่งพบกันเมื่อไม่นานมานี้ด้วย
เจียงอวี่จือและซย่าโหวถิงอัน
พวกเขาทั้งสองคนนั่งเคียงข้างกันที่ชั้นสอง
ไม่รู้ว่าซย่าโหวถิงอันพูดอันใดไป จึงทำให้เจียงอวี่จือยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่หยุด
ดูเหมือนว่าความวุ่นวายที่เกิดขึ้นเมื่อก่อนหน้านี้ จะถูกจัดการแล้วสินะ
ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้ว
ซย่าโหวถิงอันเหมือนว่าจะตั้งใจแน่วแน่ที่จะชนะใจเจียงอวี่จือ…
และในตอนนั้นเองเวทีแสดงสินค้าที่อยู่ตรงกลาง ก็มีแท่นหินสีขาวที่ลอยขึ้นมาอย่างช้าๆ