ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 599 องค์ชาย
ตอนที่ 599 องค์ชาย [รีไรท์]
เจียงอวี่จือตกใจอย่างมาก คิดไม่ถึงว่านางจะโดนพี่ชายของตนเองปฏิเสธการช่วยเหลือ!
เขาไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน!
“ท่านพี่?!”
นางเดินก้าวขึ้นไปด้านหน้า ทั้งแขนค้ำที่โต๊ะ ก่อนจะมองเจียงอวี่เฉิงอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“ข้าโดนคนรังแกเช่นนี้ แต่ท่านกลับทำเช่นนี้น่ะหรือ? ! สิ่งที่นางทำกับข้า นั่นก็หมายความว่านางไม่เคยเห็นท่านพี่อยู่ในสายตาเลยไม่ใช่หรือ?”
สำหรับเรื่องเช่นนี้แล้ว เขามักจะเข้มงวดมาโดยตลอด แต่เหตุใดวันนี้ถึงกลายเป็นเช่นนี้ได้เล่า?
เจียงอวี่เฉิงเงยหน้ามองนาง
“ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญ เจ้าต้องก่อเรื่องให้น้อยที่สุด ข้ารู้ว่าเรื่องนี้มันทำให้เจ้ารู้สึกอัปยศอย่างมาก เจ้าไปเลือกของที่อยู่ในคลังสักชิ้นสองชิ้น…”
“เรื่องนี้มันไม่ได้เกี่ยวกับเงิน!”
เจียงอวี่จือยังคงพูดต่อว่า
“จริงสิ ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้ลือกันหรอกหรือว่า ผู้สนับสนุนของฉู่หลิวเยว่ก็คือมู่ชิงเห่อ? ขอเพียงแค่ท่านพี่ไปเรียกมู่ชิงเห่อมา ให้เขากลับไปสั่งสอนฉู่หลิวเยว่เสียหน่อย มันก็ได้แล้วไม่ใช่หรือ?”
เช่นนั้น ไม่เพียงแค่ทำให้ฉู่หลิวเยว่ได้รับความลำบาก ยังสามารถตัดความสัมพันธ์ของนางกับมู่ชิงเห่อได้ ทำให้คนทั้งซีหลิงรู้ว่า นางนั้นไม่ได้มีผู้สนับสนุนอันใดอยู่แล้ว!
เจียงอวี่เฉิงไม่สนใจนางแล้ว เขาเพียงก้มหน้าจัดการงานของตนเองต่อไป
นางถูกตามใจจนเสียนิสัยแล้ว ถ้าหากไม่สั่งสอนให้ดี ไม่รู้ว่าภายภาคหน้าจะก่อเรื่องอันใดขึ้นมาอีก
ก่อนหน้านี้ได้สร้างปัญหาไว้ก็ไม่เป็นไร แต่ตอนนี้จะทำแบบนั้นไม่ได้
หากเขาได้แต่งงานกับซั่งกวนหว่าน และซั่งกวนหว่านได้…
เขาจะทำให้เกิดเรื่องผิดพลาดไม่ได้อย่างเด็ดขาด
ยิ่งไปกว่านั้นช่วงนี้เขามีเรื่องกลุ้มใจเยอะมาก
จักรพรรดิก็ยังไม่ฟื้นขึ้นมา และยังไม่มีวี่แววที่จะฟื้นขึ้นมาเลย
ทรายรวมศูนย์ที่อยู่บนภูเขาชิงหยวนก็ถูกคนทำความสะอาดไปแล้ว อวี้ฉือซงก็เริ่มสงสัยในตัวของเขา เขาต้องคิดหาวิธีปกปิดมันให้ได้
ส่วนซั่งกวนหว่านก็อารมณ์ไม่แน่นอน เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย
เรื่องเหล่านี้ทำให้เขารู้สึกกดดันมากอยู่แล้ว เขาจะมีใจที่ไหนมาช่วยแก้ปัญหาให้เจียงอวี่จือ
“ท่านพี่ ท่านไม่คิดจะช่วยข้าจริงๆ น่ะหรือ?”
เจียงอวี่จือเดินถอยหลังไปหนึ่งก้าว ในดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธและคับข้องใจ
“นั่นเป็นเพราะใบหน้าของนางใช่หรือไม่?”
เจียงอวี่เฉิงชะงักไป ก่อนจะค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมา พร้อมพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ว่า
“เจ้าพูดอันใดของเจ้า?”
น้ำเสียงของเขาราบเรียบอย่างมาก แต่แววตาเต็มไปด้วยความโกรธ
น่าเสียดายที่ความสนใจของนางในตอนนี้ตัวของนางทั้งนั้น จึงมองไม่เห็นอารมณ์ของอีกฝ่ายเลย
“ข้ารู้อยู่แล้ว! เพราะว่าใบหน้าของนางสินะ! ดวงตาคู่นั้นมันเหมือนกับองค์หญิงใหญ่…”
ปัง!
เจียงอวี่เฉิงตบโต๊ะเสียงดัง จนทำให้เจียงอวี่จือตกใจอย่างมาก นางรีบหดตัวให้เล็กลงทันที
ใบหน้าของเจียงอวี่เฉิงเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง ในที่สุดนางก็รู้แล้วว่าตนเองพูดผิดไป
ดวงตาของนางแดงก่ำอย่างรวดเร็ว น้ำตาแห่งความอัปยศก็ไหลรินออกมา
“ท่านพี่ คาดไม่ถึงว่าเพื่อฉู่หลิวเยว่คนเดียว ท่านถึงกับโมโหใส่ข้า?”
หลายปีที่ผ่านมา ท่านพี่ไม่เคยทำกับนางเช่นนี้เลย!
“หรือว่า…เพื่อองค์หญิงใหญ่!?”
เจียงอวี่เฉิงพูดขึ้นอย่างเย็นชา
“ไสหัวออกไป!”
หัวใจของเจียงอวี่จือสั่นไหว ก่อนจะจากไปนางก็หัวเราะเยาะขึ้นว่า
“ทุกคนคิดว่าท่านกับองค์หญิงสามมีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง แต่ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ท่านจะแอบวาดรูปขององค์หญิงใหญ่ด้วยเหตุใด!? ท่านคิดว่าข้าไม่รู้หรือ…”
เพียะ!
เสียงตบดังขึ้นที่ข้างหู
เจียงอวี่เฉิงมองหน้านางด้วยความเย็นชา
“ข้าว่าเจ้าโดนตามใจจนเสียคนไปแล้ว! ช่วงนี้เจ้าต้องอยู่ในจวนห้ามออกไปไหนทั้งนั้น!”
เจียงอวี่จือโดนตบจนใบหน้าสะบัดไปอีกข้าง ยังไม่ทันได้หันหน้ากลับมา
เจียงอวี่เฉิงก็สาวเท้าออกไปแล้ว
“แล้วก็ งานแต่งงานของเจ้ากับซย่าโหวถิงอัน จะถูกระงับไว้ชั่วคราว!”
เมื่อพูดจบเขาก็เดินออกจากห้องหนังสือทันที
ทางด้านนอกก็มีคนมาเชิญนางออกไปอย่างรวดเร็ว
หน้าอกของเจียงอวี่จือกระเพื่อมขึ้นลงอย่างแรง แววตามืดลง และนางก็สลบลงไปตรงนั้นทันที
…
ห่างออกมาหมื่นลี้
เยี่ยนชิง เดินทางกลับด้วยความรีบร้อน แต่ก็ยังช้าไปหนึ่งก้าว
ทุกคนในตำหนักหวู่ซวงถูกตัดศีรษะไปหมดแล้ว และหรงซิวก็ได้พากำลังพลกลับไปแล้ว
เยี่ยนชิงรู้สึกเสียใจอย่างมากที่ไม่ได้ฟังเรื่องตลกของอวี๋มั่ว
แต่หลังจากที่เห็นใบหน้าที่บวมช้ำเขียวม่วงของอวี๋มั่ว เขาก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาก
“ฝ่าบาทล่ะ?”
เขายังมีจดหมายของคุณหนูฉู่ ที่จะต้องรีบนำไปให้ฝ่าบาทอย่างเร็วที่สุด แต่หรงซิวกลับไม่อยู่เสียอย่างนั้น
แก้มของอวี๋มั่วก็บวมขึ้น เขาเชิดคางขึ้น แล้วพูดเสียงต่ำว่า
“ตำหนักหวู่ซวงถูกฆ่าล้างบางแล้ว ทุกฝ่ายต่างรู้สึกสั่นคลอน มีคนจำนวนไม่น้อยเริ่มกล่าวโทษฝ่าบาท ตอนนี้ผู้อาวุโสทั้งหมดกำลังรอฝ่าบาทอยู่ที่ท้องพระโรง ส่วนฝ่าบาทเพิ่งจากไปได้ไม่นาน”
เยี่ยนชิงตกใจอย่างมาก
“ผู้อาวุโสทั้งหมด? เหตุใดถึงเร็วขนาดนี้เล่า?”
อวี๋มั่วแค่นหัวเราะเสียงเบา
“มีบางคนที่ไม่ชอบพระองค์มานานมากแล้ว ในที่สุดตอนนี้ก็มีโอกาส แล้วจะปล่อยไปได้อย่างใดเล่า?”
เยี่ยนชิงพยักหน้า แต่ท่าทางกลับเคร่งขรึมมากขึ้น
“ไม่ว่าอย่างใดวันนี้ก็ต้องมาถึง ในเมื่อฝ่าบาทเริ่มลงมือแล้ว นั่นหมายความว่าพระองค์ได้เตรียมตัวอย่างดีแล้ว ครั้งนี้…น่าจะล้างสิ่งสกปรกได้ไม่น้อยทีเดียว”
…
ตำหนักไท่หยวน
ผู้อาวุโสทุกคนนั่งแบ่งเรียงสองแถว บรรยากาศในตอนนี้เย็นยะเยือกมากขึ้น
“ครั้งนี้องค์ชายไปฆ่าล้างบางตำหนักหวู่ซวงอย่างกะทันหัน เรื่องนี้ท่านจะทำตามอำเภอใจเกินไปแล้ว!”
“อยู่ดีๆ เหตุใดถึงออกมาทำเช่นนี้เล่า ต่อให้ตำหนักหวู่ซวงจะมีความผิดอันใด ก็ไม่ควรใช้วิธีที่โหดร้ายเช่นนี้นะ!”
“ตอนนี้ทุกฝ่ายกำลังทยอยกันถกเถียง…และยังต้องรอให้องค์ชายมาออกความเห็น…”
“แม้ว่าฝ่าบาทจะมีอำนาจในมือมาก แต่หากทำเช่นนี้ ข้าว่ามันจะมากเกินไปสักหน่อย…”
ทันใดนั้นเองก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา ทำลายบรรยากาศอัดอัดที่อยู่ในท้องพระโรงทันที
“องค์ชายเสด็จแล้ว!”
เมื่อสิ้นเสียงนั้น ทุกคนก็รีบมองไปทางหน้าประตูทันที!
เงารูปร่างสูงใหญ่ สวมชุดคลุมยาวสีดำ บนร่างกายเต็มไปด้วยความเลือดเย็น!