ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 667 สอบสวนอีกครั้ง
ตอนที่ 667 สอบสวนอีกครั้ง
เจียงอวี่เฉิงได้สติกลับคืนมา
องครักษ์ที่อยู่ด้านข้างก็มองมาด้วยความกังวลใจ
“คุณชายใหญ่ ท่านไม่เป็นไรใช่หรือไม่ขอรับ?”
ตั้งแต่รถม้าคันนั้นจากไป คุณชายใหญ่ก็เหม่อมาตลอดทาง อีกทั้งไม่ยอมพูดไม่ยอมจา ท่าทางประหลาดอย่างมาก
หรือว่าอาการบาดเจ็บของคุณชายใหญ่จะร้ายแรงอย่างมาก?
เหมือนใบหน้าของเจียงอวี่เฉิงจะมีแผ่นน้ำแข็งปกคลุมอยู่หนึ่งชั้น
“คุณชายเช่นข้าจะเป็นอันใดไปได้? รีบค้นหาต่อไป!”
“ขอรับ!”
เจียงอวี่เฉิงเงยหน้า
หิมะยังตกลงมาอย่างไม่ขาดสาย ทั้งเมืองซีหลิงถูกปกคลุมด้วยหิมะหนาเป็นชั้นๆ
หิมะนั้นตกแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งมันสะดวกต่อการหลบหนีของเซี่ยมู่มาก
เขาจึงเดินขึ้นไปด้านหน้าด้วยความรวดเร็ว
…
เจียงอวี่เฉิงใช้เวลาและกำลังคนเป็นจำนวนมาก แทบจะพลิกแผ่นดินซีหลิงขึ้นมาหาแล้ว แต่ว่าก็ยังหาไม่พบ แม้กระทั่งร่องรอยของเขายังหาไม่เจอเลย
เหมือนว่าคนผู้นี้ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว
เมื่อฟ้ามืดขึ้น เจียงอวี่เฉิงถึงกลับมาที่จวน
แต่ก็ยังส่งคนออกไปสำรวจที่ด้านนอกอยู่
ภายในห้องหนังสือ เฟิงซานหยวนช่วยเจียงอวี่เฉิงทำแผลอีกรอบ จากนั้นก็จับชีพจรให้เขา ใบหน้าเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด
“คุณชายใหญ่ ก่อนหน้านี้ที่ท่านบาดเจ็บสาหัส และได้ใช้วิธีพิเศษเพื่อปกปิดระดับพลังนั้น มันจึงเป็นผลร้ายต่อร่างกายของท่านอย่างมาก กอปรกับบาดแผลในวันนี้…หากท่านไม่รักษาตัวให้ดี เกรงว่าอาการของท่านจะหนักขึ้นได้ในอนาคต”
เจียงอวี่เฉิงหลับตาลง
ร่างกายของเขาได้รับบาดเจ็บ แล้วยังอยู่ด้านนอกทั้งวัน ทำให้ใบหน้าของเขาซีดขาวขึ้นเล็กน้อย
อีกทั้งภายในใจก็รู้สึกขุ่นเคืองอยู่ตลอดเวลา ความเครียดที่สะสมไม่มีทางสลายหายไปได้ ทำให้เขาขมวดคิ้วแน่นขึ้น
เมื่อเฟิงซานหยวนเห็นดังนั้น จึงอดทอดถอนหายใจออกมาไม่ได้
“ข้าผู้เฒ่าไม่ได้มีเจตนาพูดให้ท่านตกใจ คุณชายใหญ่ ร่างกายของท่าน ข้ารู้ดีที่สุด หากท่านยังทำเช่นนี้ต่อไป จะต้องมีผลกระทบต่อการบำเพ็ญเพียรของท่านอย่างแน่นอน… ถ้าเป็นเช่นนั้นมันได้ไม่คุ้มเสียเลย!”
ในที่สุดคำพูดนี้ก็ทำให้เจียงอวี่เฉิงลืมตาขึ้นมา
“ร้ายแรงขนาดนั้นเลยหรือ?”
เฟิงซานหยวนพยักหน้าอย่างจริงจัง
“ดังนั้น ช่วงเวลานี้ท่านควรทำใจให้สบาย มีเรื่องอันใดก็มอบหมายงานให้ลูกน้อง ส่วนท่านก็ดูแลสุขภาพให้ดี…”
เจียงอวี่เฉิงโบกมือไล่อย่างหงุดหงิด
“พูดน่ะมันง่าย”
ตอนนี้ซั่งกวนหว่านจะเริ่มจัดการเรื่องนั้นแล้ว แม้กระทั่งงานแต่งงานก็จะถูกจัดขึ้นหลังจากนั้นด้วย
เขาจะมีเวลาพักผ่อนได้อย่างใด?
เฟิงซานหยวนอยากจะโน้มน้าวเขาอีกสักครั้ง แต่เจียงอวี่เฉิงกลับพูดขึ้นว่า
“ท่านกลับไปก่อนเถอะ ข้าอยากอยู่เงียบๆ คนเดียว”
เฟิงซานหยวนถอนหายใจออกมา จำใจเดินหมุนตัวจากมา
เมื่อเดินมาถึงหน้าประตู จากนั้นก็พบกับซุนฉีที่เดินเข้ามาอย่างรีบร้อน
ซุนฉีคำนับเฟิงซานหยวนหนึ่งครั้ง แล้วเดินเข้าไปด้านในด้วยความรวดเร็ว
เฟิงซานหยวนหันกลับไปมอง ก่อนจะส่ายหน้าแล้วเดินจากมา
ภายในห้อง ซุนฉีเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของเจียงอวี่เฉิงแล้ว บนศีรษะของเขายังมีหิมะอยู่ด้วย
“คุณชายใหญ่ ข้าน้อยได้ไปที่พักของเซี่ยมู่แล้ว แต่กลับไม่พบเขา อีกทั้ง…ตามคำบอกเล่าของคนที่อยู่โดยรอบ ก็บอกว่าไม่เห็นเขากลับมาที่นี่เลย”
คำตอบเหล่านี้เป็นสิ่งที่เจียงอวี่เฉิงคาดเดาเอาไว้ได้ตั้งนานแล้ว
เซี่ยมู่ได้ทำเรื่องเช่นนี้ลงไป เขาจะไม่รู้ได้อย่างใดว่า หากเขากลับไปเขาจะต้องตายอย่างแน่นอน
“ได้ถามหรือไม่ว่าช่วงนี้เขามีอันใดผิดปกติหรือไม่?”
“ไม่ขอรับ เซี่ยมู่กำพร้าพ่อแม่ ถูกทำลายใบหน้า ซ้ำยังเป็นใบ้ เขาอยู่ที่นี่คนเดียวมาโดยตลอด ฉีต้าเหอก็พักอยู่ใกล้ๆ ความสัมพันธ์ของทั้งสองนั้นดีอย่างมาก นอกจากนี้ทั้งสองคนก็ไม่ได้ติดต่อกับบุคคลภายนอกมากนัก ภายในหนึ่งปีเขาใช้ชีวิตเหมือนชาวบ้านธรรมดา ไม่มีสิ่งใดผิดปกติขอรับ”
เจียงอวี่เฉิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วถามขึ้นว่า
“แล้วคนที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งของวันนี้เล่า?”
“ทั้งหมดถูกขังอยู่ในเรือนหวู่ถงแล้วขอรับ โดยมีคนเฝ้าอยู่ตลอด ฉีต้าเหอถูกแยกขังเดี่ยวไว้อีกที่ขอรับ”
ซุนฉีพูดขึ้น แล้วมองหน้าเขา พร้อมถามหยั่งเชิงขึ้นมาว่า
“คุณชายใหญ่…ท่านจะจัดการกับคนเหล่านั้นอย่างใดหรือขอรับ?”
“ขังพวกเขาเอาไว้ก่อน แล้วให้ฉีต้าเหอมาหาข้า ข้าจะสอบสวนเขาด้วยตนเองอีกรอบ”
ซุนฉีกังวลใจเล็กน้อย
“แต่ว่าคุณชายใหญ่ วันนี้ท่านได้รับบาดเจ็บ แล้วยังเดินทางออกไปด้านนอกทั้งวัน หรือไม่เช่นนั้น…พรุ่งนี้ค่อยสอบสวนอีกรอบดีหรือไม่ขอรับ?”
เจียงอวี่เฉิงเหลือบสายตามองเขาด้วยความเย็นชา
“ถ้าเจ้ามีเวลามาบ่น เช่นนั้นเจ้าก็ไปเอาตัวเซี่ยมู่กลับมาสิ!”
ซุนฉีไม่กล้าพูดอันใดมากอีก จึงขานรับเขาแค่หนึ่งคำ
…
ในขณะเดียวกัน ถนนลิ่วอวิ๋น จวนตระกูลฉู่
คนบังคับรถม้าอย่างเยี่ยนชิงที่ถูกนายท่านของตนเองไล่กลับมาตั้งนานแล้ว เขาจึงมองไปที่หิมะด้วยความเบื่อหน่าย ก่อนจะถอนหายใจออกมา
เฮ้อ…
ความคิดของนายท่านยากจะคาดเดามากขึ้นเรื่อยๆ คาดไม่ถึงว่าขนาดรถม้าก็ยังจะขับเอง…
และไม่รู้ว่าเขาสามารถรับคุณหนูหลิวเยว่มาได้หรือไม่…
ทันใดนั้นก็มีร่างหนึ่งกระโดดลงมาจากริมกำแพงอย่างไร้เสียง ก่อนจะวิ่งมาทางนี้อย่างรวดเร็ว
เยี่ยนชิงเหลือบสายตาไปมองครู่หนึ่ง จากนั้นก็ถอนสายตากลับมา
แต่อวี๋มั่วที่เห็นเขากลับตกใจ แล้วจ้องอีกฝ่ายตาเขม็งก่อนจะถามขึ้นว่า
“เหตุใดเจ้าถึงอยู่ที่นี่?”
เขาหันไปมองรอบๆ
เหมือนว่านายท่านจะไม่อยู่ที่นี่…แล้วเหตุใดเยี่ยนชิงถึงมาอยู่ที่นี่คนเดียว?
“นายท่านล่ะ? เจ้าไม่ได้อยู่กับนายท่านหรือ?”
เยี่ยนชิงมองเขาด้วยสายตาเย็นชา
“นายท่านจะทำการใดย่อมมีเหตุผลอยู่แล้ว เจ้าจะมายุ่งด้วยเหตุใด”
อวี๋มั่วหัวเราะหึๆ
“ข้าเป็นห่วงว่าเจ้าจะไม่มีงานทำต่างหากเล่า!?”
เยี่ยนชิงหัวเราะเยาะพร้อมพูดด้วยความรังเกียจว่า
“แล้วเจ้ามีงานทำหรือ?”
อวี๋มั่วเอนตัวไปหาเขา แล้วกระซิบเสียงเบาอย่างภูมิใจและท่าทางเต็มไปด้วยความลึกลับว่า
“ข้าจัดการคุณหนูสี่ตระกูลเจียงคนนั้นได้อีกครั้งแล้วน่ะสิ!”
เยี่ยนชิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “ช่วงนี้นางอยู่แต่ในจวนตระกูลเจียงไม่ใช่หรือ? หรือว่าเข้าไปใน…”
“ที่ไหนกันเล่า! วันนี้นางออกมาจากจวนแล้ว! และข้าได้เจอนางพอดี! เจ้าว่านี่คือความบังเอิญหรือไม่? และในเมื่อเจอนางแล้ว ข้าก็ต้อง “แสดงความสามารถ” ให้นางดูน่ะสิ!”
ช่วงนี้เจียงอวี่จืออยู่แต่ในจวนไม่ยอมออกไปไหน อวี๋มั่วรออยู่สองวัน เห็นว่านางเชื่อฟังดี จึงปล่อยนางไป
แต่คิดไม่ถึงว่าวันนี้นางกลับออกมาจากจวนแล้ว เป็นรางวัลที่เขาไม่ได้คาดคิดจริงๆ เลย
“สวรรค์ลิขิตให้นางต้องเจอภัยพิบัติเช่นนี้ ข้าเองก็ช่วยไม่ได้หรอกนะ!”
อวี๋มั่วพูดขึ้น พร้อมหมุนกำปั้น พร้อมมีท่าทางเสียดายเล็กน้อย
“หึ แต่น่าเสียดายที่ครั้งนี้นางพาคนมาด้วย ข้ายังเล่นงานไม่สะใจเลย”
มุมปากของเยี่ยนชิงกระตุกขึ้น
“เจ้าวางแผนว่าหากเจอกับนางหนึ่งครั้ง ก็จะจัดการกับนางหนึ่งครั้งเช่นนี้หรือ?”
“ครั้งที่แล้วเจ้าก็เห็นแล้วไม่ใช่หรือ ว่านายท่านยินดีกับมันทั้งหมด!”
“…ก็จริง”
“นางทำตัวเองเช่นนั้น อยู่ไม่ได้ก็สมควรแล้ว! นางบังอาจขนาดนั้น นั่นเป็นเพราะนางมีเบื้องหลังที่ยิ่งใหญ่ไม่ใช่หรือ? พูดแล้วก็ไม่เหมือนกับคุณหนูหลิวเยว่ของพวกเราเลยสักนิด! เอาไข่มากระทบกับหินเองก็ช่างเถิด! ไม่สั่งสอนนางให้ดีๆ หลังจากนี้นางจะต้องทำเรื่องเช่นนี้อีกแน่นอน!”
ลึกๆ แล้วเยี่ยนชิงเองก็เห็นด้วย
หลังจากนั้นไม่นานด้านนอกประตูใหญ่ก็มีเสียงรถม้าดังขึ้น
เยี่ยนชิงจึงรีบพุ่งออกไปเปิดประตูด้วยความรวดเร็ว อวี๋มั่วก็เดินตามมาด้านหลังอย่างใกล้ชิด
รถม้าคันหนึ่งหยุดที่หน้าประตูใหญ่อย่างพอดิบพอดี
นิ้วเรียวยาว แหวกผ้าม่านออกมา
จากนั้นหรงซิวก็ลงจากรถม้ามา
“นายท่าน!”
เมื่อเห็นหรงซิวพยักหน้าเล็กน้อย และรอรับคนอีกคนจากด้านบนรถม้าลงมา
“คารวะคุณหนูหลิวเยว่!”
เยี่ยนชิงและอวี๋มั่วก็ตะโกนขึ้นพร้อมกัน
ฉู่หลิวเยว่ตกใจเล็กน้อย
“อวี๋มั่ว เจ้าก็อยู่ที่นี่ด้วยหรือ?”
หรงซิวมาซีหลิงได้สักระยะแล้ว แต่ปกตินางเห็นแต่เยี่ยนชิงที่คอยติดตามหรงซิว แต่กลับไม่เคยเห็นอวี๋มั่วเลย
นางจึงคิดว่าเขาไม่ได้มาด้วย
อวี๋มั่วเกาศีรษะด้วยความลำบากใจเล็กน้อย
จะบอกว่าที่มาปรากฏตัวให้เห็นไม่ได้เพราะว่าตนเองถูกทำร้ายจมูกหน้าบวมช้ำน่ะหรือ?
เขากระแอมไอหนึ่งครั้ง แล้วรีบเปลี่ยนเรื่องทันที
“นายท่าน คุณหนูหลิวเยว่ ด้านนอกอากาศหนาวมาก รีบเข้าด้านในเถิดขอรับ…”
…