ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 674 กอดขาทองคำ
ตอนที่ 674 กอดขาทองคำ
หรงซิวเหมือนถูกขาย “…”
เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกที่กระตือรือร้นเช่นนี้ นางก็รู้สึกหนักใจเล็กน้อย แล้วกระแอมไอหนึ่งครั้ง พร้อมพูดขึ้นว่า “ขอบคุณผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกมากเจ้าค่ะ ข้าขอน้อมรับความเมตตาของท่านไว้เพียงน้ำใจก็พอ สิ่งของเหล่านี้ล้วนล้ำค่าเกินไป…”
“เจ้าเลือกสักอันสิ! เลือกเลย!”
ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกพูดเร่งเร้า
“ของเล็กๆ เหล่านี้นับเป็นของล้ำค่าที่ใดกัน? หลังจากนี้ข้าจะมอบให้มากกว่านี้อีก!”
ฉู่หลิวเยว่ “…”
ของเล็กๆ …
เมื่อครู่เขาเพิ่งบอกว่านี่เป็นเคล็ดวิชาระดับตี้ไม่ใช่หรือ?
ตอนนี้ผู้แข็งแกร่งระดับสูงสุดเขาใจกว้างกันขนาดนี้เลยหรือ?
ฉู่หลิวเยว่คิดจะปฏิเสธอีก แต่หรงซิวกลับเดินขึ้นมา พร้อมกวาดสายตาไปยังกล่องหยกเหล่านั้น จากนั้นก็เลือกขึ้นมาชิ้นหนึ่งแล้วยื่นให้ฉู่หลิวเยว่
“นี่คือน้ำใจของผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหก เจ้ารับไปเถิด”
และด้วยนิสัยของเขาแล้ว เขาอาจจะเขามาวอแวกับฉู่หลิวเยว่เพราะเรื่องนี้นานกว่าครึ่งเดือนอย่างแน่นอน
ฉู่หลิวเยว่ลังเลอยู่ครู่ แต่ต้องรับกล่องหยกนั้นมาอย่างจำใจ
“ขอบคุณผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกเจ้าค่ะ”
ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกมองไปที่กล่องหยกใบนั้น แววตาของเขาก็เปล่งประกายขึ้นมา จากนั้นก็มองไปยังหรงซิว ก่อนจะหัวเราะขึ้นมา
“เจ้าเด็กนี่เลือกเป็นจริงๆ เลย ข้าจะมอบของให้ฉู่หลิวเยว่ เจ้าก็ยังไม่ลืมที่จะเข้ามามีส่วนร่วม?”
ฉู่หลิวเยว่มองไปยังทั้งสองคนอย่างไม่เข้าใจ
หรงซิวหัวเราะขึ้น
“แค่ถือโอกาสเท่านั้นเอง”
เมื่อพูดจบ เขาก็หยิบกล่องหยกอีกกล่องมาจากในแหวนเฉียนคุนของตนเอง กล่องนั้นมีลักษณะเหมือนกล่องที่นางถืออยู่ทุกประการ จากนั้นเขาก็ส่งให้ฉู่หลิวเยว่
“ที่ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกมอบให้คือตอนต้น นี่คือตอนปลาย”
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกสงสัยเล็กน้อย
เหตุใดเคล็ดวิชาหนึ่งถึงได้แบ่งออกเป็นตอนต้นตอนปลายล่ะ?
ทันใดนั้นเองแววตาของนางก็เบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย
ช้าก่อน ม้วนตอนนี้เป็นเคล็ดวิชาระดับตี้ เช่นนั้นตอนปลาย…จะเป็นเคล็ดวิชาระดับเทียนหรือ?!
“หรงซิว ตอนปลาย…”
เหมือนเห็นว่านางสามารถคาดเดาอันใดบางอย่างออกแล้ว หรงซิวจึงยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย
“เจ้าคือคู่หมั้นของข้า สิ่งของเหล่านี้ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกไม่สามารถมอบมันให้เจ้าได้ชั่วคราว แต่ข้าสามารถมอบให้ได้”
เป็นเช่นนั้นจริงๆ ด้วย!
ฉู่หลิวเยว่ยืนยันการคาดเดาในใจของตนเองทันที
เคล็ดวิชาตอนต้นและตอนปลายมารวมกัน ก็ต้องกลายเป็นเคล็ดวิชาระดับเทียนอย่างแน่นอน!
แต่ทว่าเมื่อครู่หรงซิวพูดว่าอันใดนะ
…แค่ถือโอกาสมอบให้?
ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกพูดอย่างอิจฉาว่า
“ฮึ เจ้าจะรังแกคนแก่เช่นข้า! รอพวกเจ้าแต่งงานกันก่อนเถิด ข้าจะมอบอันใดก็มอบให้ได้แล้ว! และคงไม่เหมือนถึงคราวเจ้าหรอก”
ฉู่หลิวเยว่ “…”
เรื่องเช่นนี้เป็นเรื่องที่น่าเปรียบเทียบและภูมิใจตรงที่ใดกัน…
บนโลกนี้มีผู้บำเพ็ญเพียรจำนวนมากที่ทั้งชีวิตนี้เขาอาจจะไม่ได้เห็นเคล็ดวิชาระดับเทียนเลย แต่คาดไม่ถึงว่าพวกเขาจะมอบเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้นางง่ายๆ เช่นนี้…
อีกทั้งนางเพิ่งเลื่อนขั้นเป็นจอมยุทธ์ระดับห้ามาเท่านั้นเอง จากนั้นก็ได้รับของขวัญที่ล้ำค่าเช่นนี้มาเลยหรือ?
ฉู่หลิวเยว่มองหรงซิวอย่างสื่อความหมาย
ตอนนี้นางค่อนข้างมั่นใจแล้ว หลีอ๋อง ไม่สิ…โอรสสวรรค์เป็นคนที่ร่ำรวยมากจริงๆ
นางอุ้มกล่องหยกสองใบไว้ในอ้อมแขน แล้วครุ่นคิดอย่างเงียบๆ ว่า ที่แท้การกอดต้นขาทองคำก็เป็นเช่นนี้เอง
…มีความสุขมาก!
“โอ้! จริงสิ! ได้ยินหรงซิวพูดว่าเสี่ยวหลิวเยว่ยังเป็นปรมาจารย์ค่ายกลและเซียนหมอด้วยไม่ใช่หรือ? แม้ว่าข้าจะไม่ได้ผึกทั้งสองสายนั้น แต่ก็ได้สะสมของไว้ไม่น้อยเลย…”
ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกพูดจบ ก็เทของลงมาอีกกอง แล้วค่อยๆ เลือก
“อืม…นี่เป็นค่ายกลระดับแปด อันนี้มอบให้เจ้า! อันนี้ก็ด้วย อันนี้ก็ให้เจ้า! เฮ้ นี่ดูเหมือนจะเป็นใบเทียบโอสถ ตอนแรกข้าเก็บได้จากตัวของเซียนหมอ เอาไป!”
ตอนแรกนางยังสามารถแสร้งทำเป็นสงบนิ่งได้ แต่ในที่สุดหนังตาของนางก็กระตุกอย่างแรง
นี่…นี่จะใจกว้างเกินไปหรือไม่?!
“ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหก ของเหล่านี้มันล้ำค่ามากเกินไป ข้า…”
แต่หรงซิวกลับรับของเหล่านั้นมาทั้งหมดแล้ว โดยที่ไม่ยอมให้นางได้ปฏิเสธเลย
“ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกไม่ได้ใช้ของเหล่านี้อยู่แล้ว เก็บไว้กับเขามันก็เสียเปล่า เจ้าเก็บเอาไว้ยังจะมีประโยชน์มากกว่า รับไปเถิด”
หรงซิวกล่าวขึ้นอย่างใจเย็น
เขาพูดไปพลาง พร้อมกวาดสายตามองของเหล่านั้นไปพลาง ราวกับว่ากำลังเลือกอยู่
“ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหก ข้าจำได้ว่า เมื่อก่อนท่านยังมีของที่ทำให้เคลื่อนที่ได้ในชั่วพริบตาไม่ใช่หรือ?”
“อ่า! ใช่ๆ ! ของชิ้นนั้นก็มี!”
ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกเริ่มค้นหาของอีกครั้ง หลังจากนั้นไม่นานเขาก็หยิบแผ่นทองแดงทรงกลมขนาดเท่าฝ่ามือออกมา แล้วยัดเข้าไปในมือของฉู่หลิวเยว่
“เสี่ยวหลิวเยว่ ตอนนี้เจ้าเพิ่งผ่านการเหาะเหินเดินอากาศมา สิ่งนี้เหมาะกับเจ้ามากที่สุด!”
สีหน้าของฉู่หลิวเยว่เต็มไปด้วยความสับสน
ตอนแรกนางพยายามหาทางเกลี้ยกล่อมพวกเขาให้หยุด แต่ภายหลังก็รู้ว่านางไม่สามารถขวางพวกเขาทั้งสองได้เลย ดังนั้นนางจึงวางมือยอมแพ้
จะพูดว่าอย่างใดดีล่ะ
ความรู้สึกเหมือนคนเอาเงินตบหน้า…
…รู้สึกมีความสุขมาก!
หลังจากผ่านมาสักระยะหนึ่ง ร่างกายของฉู่หลิวเยว่ก็ถูกทับถมด้วยของขวัญเหล่านี้ และในที่สุดผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกก็หยุดมือลงแล้ว
เขากวาดสายตามองฉู่หลิวเยว่ขึ้นลงอย่างสำรวจ แล้วส่ายหน้าอย่างเสียดายเล็กน้อย
“เฮ้อ ยังเหลืออีกนิดหน่อย…หรงซิว พวกเจ้าต้องรีบแต่งงานกันให้ได้นะ ไม่เช่นนั้นแล้วผู้เฒ่าอย่างข้าก็ยังมีของอีกจำนวนมากที่ไม่สามารถมอบให้ได้!”
ขอเพียงแค่ฉู่หลิวเยว่กลายเป็นพระชายาของหรงซิว ด้วยความสัมพันธ์ระดับนั้น จึงสามารถทำให้เขามอบสิ่งของต่อไปได้!
ริมฝีปากของหรงซิวยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย
“ข้าจะพยายาม”
ฉู่หลิวเยว่ “…”
นี่หมายความว่าอย่างใดน่ะ?
เหตุใดถึงรู้สึกมันมีอันใดบางอย่างที่ไม่ค่อยถูกต้องกันล่ะ?
เมื่อหรงซิวพูดเสร็จ ก็หันมองนาง แล้วยิ้มขึ้น
“เจ้าเก็บของเหล่านี้ลงไปก่อนเถิด มีเรื่องบางอย่างที่เจ้ายังไม่น่าจะรู้ พวกเราค่อยเข้าไปคุยต่อในห้อง”
เมื่ออยู่ต่อหน้าของขวัญที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ ฉู่หลิวเยว่ก็รู้สึกว่าตนเองอ่อนแอ น่าสงสาร และไร้ตัวช่วย จึงทำได้เพียงเก็บของขวัญที่ว่าลงไปในแหวนเฉียนคุนอย่างว่าง่าย
แม้ว่าแหวนเฉียนคุนไม่หนัก แต่ฉู่หลิวเยว่กลับรู้สึกเสมอว่าหากแกว่งมันเล็กน้อย นางก็จะได้ยินเสียงเหรียญจำนวนมากกระทบกัน
อืม…
แม้ว่าตอนที่นางเพิ่งกลับมาเกิดใหม่ นางจะไม่มีอันใดเลยสักอย่าง แต่ก็ดีที่ดวงของนางนั้นดีมาก ดีจนเกินความเป็นจริง…
หลังจากเก็บของทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเขาทั้งหลายก็เดินเข้ามาในห้อง
ฉู่หลิวเยว่ชงชาให้ทุกคนด้วยตนเอง และก็เป็นผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกที่ชื่นชมนาง
“เสี่ยวหลิวเยว่ ชาที่เจ้าชงนั้นดีจริงๆ!”
ฉู่หลิวเยว่ถามอย่างสงสัย
“ท่านชอบจินจวิ้นเหมย[1]หรือ?”
ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วรีบพยักหน้า
หรงซิวที่อยู่ข้างๆ ก็นั่งมองฉากนี้อย่างเงียบๆ
มีใครไม่รู้บ้างว่าผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกดื่มแต่น้ำหิมะจากภูเขาเหมันต์ที่พกติดตัวมาเท่านั้น?
และโดยเฉพาะเมื่อเขาอยู่ในระดับนี้แล้ว เขายิ่งไม่ได้ใส่ใจเรื่องพวกนี้มากนัก
แม้ว่าการแสดงจะดูงุ่มง่าม แต่ก็จริงใจอย่างมาก
ฉู่หลิวเยว่เองก็สามารถมองออกอยู่หลายส่วน ในใจรู้สึกตลกและอบอุ่นเล็กน้อย
นางสามารถมองออกว่า อีกฝ่ายนั้นชอบนางและให้ความสำคัญกับนางจริงๆ
และทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะเขาใส่ใจหรงซิวอย่างมาก
แม้ว่าก่อนหน้านี้นางจะไม่เคยได้ยินหรงซิวพูดถึงมาก่อน แต่ทว่าผู้อาวุโสท่านนี้จะต้องมีความสำคัญต่อหรงซิวอย่างมากแน่นอน
“วันนี้มีข่าวมาจากวังหลวง”
หรงซิวยกชาขึ้นมาจิบ กลิ่นหอมฟุ้งกระจายทั่วช่องปากทันที
“องค์หญิงสามกับคุณชายใหญ่เจียงจะจัดงานแต่งงานในวันที่หกเดือนหก”
ฉู่หลิวเยว่ชะงักไป
นี่มัน…
ในที่สุดซั่งกวนหว่านก็ทนไม่ไหวจนอยากจะขึ้นครองราชย์แล้ว?
นางนิ่งค้างไปเล็กน้อย จนสัมผัสได้ว่าหรงซิวกำลังมองนางอยู่ แววตาลึกล้ำมากขึ้น
หัวใจของฉู่หลิวเยว่เต้นผิดจังหวะ
เหมือนว่าเขา…ใส่ใจกับการตอบสนองของนางอย่างมาก?
[1]จินจวิ้นเหมย ชาจากเทือกเขาอู่อี๋ซาน แปลตรงตัวคือ คิ้วอาชาทอง คือชาดำที่พัฒนามาจาก Lapsang Souchong ถือได้ว่าเป็นชาดำจากเมืองจีนที่โด่งดังที่สุดเลยก็ว่าได้