CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 689 การผจญภัย

  1. Home
  2. ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
  3. ตอนที่ 689 การผจญภัย
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ตอนที่ 689 การผจญภัย

พลังปราณดั้งเดิมของนางถูกกักเก็บไว้ภายในด้วยวิธีพิเศษบางอย่าง แม้ว่ามันจะคงเหลืออยู่บ้าง แต่ก็ไม่อาจนำออกมาใช้งานได้ในระยะยาว

ต้องรู้ว่าตอนนี้นางไม่สามารถดูดซับพลังงานแห่งสวรรค์และโลก เพื่อนำมาเปลี่ยนเป็นพลังของตนเองได้เลย

และใครจะไปรู้ว่าหลังจากเข้าไปในป่าหมอกมายาแล้ว ต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าพวกเขาจะออกมาได้?

ขณะที่ซั่งกวนหว่านลังเลใจ กลุ่มเมฆสีดำขนาดใหญ่ก็ได้ก่อตัวกันเหนือท้องฟ้ากว้าง!

ท้องฟ้าที่เคยสดใสกลับมืดลงอย่างรวดเร็ว!

เมื่อมองจากระยะไกลแล้ว เปรียบเสมือนหยดหมึกสีขุ่นดำหยดหนึ่ง ที่เปรอะเปื้อนบนภาพวาดสีน้ำเงินอย่างใดอย่างนั้น

กรร!

พร้อมเสียงคำรามอันน่าสะพรึงกลัวที่ดังก้องไปทั่วพื้นที่!

ทุกคนต่างตกอกตกใจ!

“นั่นมันอันใด?”

ซั่งกวนหว่านที่สัมผัสได้ถึงลมปราณอันตราย เอ่ยปากถามทันควัน

มู่ชิงเห่อหันมองนางแล้วตอบว่า

“คงจะเป็นสัตว์อสูรระดับสูงที่ทะลวงขอบเขตพลังได้ขอรับ!”

“ตัวที่สามารถกระตุ้นนิมิตสวรรค์โลกาได้…อาจเป็นสัตว์อสูรระดับเก้าได้?”

แม้ว่าการทะลวงขอบเขตพลังปราณของสัตว์อสูรระดับสูงทั่วไปนั้น จะทำให้เกิดความโกลาหล แต่มันก็ไม่มากมายขนาดนี้

เมฆดำทะมึนบนท้องฟ้ารวมตัวกันอย่างรวดเร็วและขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะเริ่มปกคลุมป่าหมอกมายาด้วยเงาดำขนาดมหึมา!

“ข้าเองก็ไม่เคยเห็นเหตุการณ์เช่นนี้ แต่… มันน่าจะเป็นสัตว์อสูรระดับเก้านั่นแหละ”

ในที่สุดเจียงอวี่เฉิงที่อยู่ข้างๆ ก็พูดออกมา

ชั่วขณะหนึ่ง นัยน์ตาของซั่งกวนหว่านทอประกายวาววับ

ความกังวลและความไม่สบายใจทั้งหมดหายไปแล้ว เหลือแต่ความอยากรู้อยากเห็นและความปรารถนาเท่านั้น

หากสัตว์อสูรระดับเก้าสามารถทะลวงขั้นพลังปราณได้สำเร็จ มันก็จะกลายเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์!

และพอถึงนั้น ไม่เพียงแต่นางจะได้รับเลือดของอสูรศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น แต่ยังสามารถนำอสูรศักดิ์สิทธิ์ตัวนี้ มาใช้เป็นอสูรภายใต้บังคับบัญชาได้อีกด้วย!

ซึ่งเมื่อใดที่ชีพจรดั้งเดิมของนางฟื้นคืนสภาพ ก็สามารถทำสัญญากับอสูรศักดิ์สิทธิ์อย่างเป็นทางการได้!

หากบัญชาอสูรศักดิ์สิทธิ์ได้ตามใจอยากล่ะก็…

ทุกคนจักต้องเชิดชูนางเป็นแน่!

เนื่องจากในราชวงศ์เทียนลิ่งทั้งหมด เว้นแต่องค์ไท่จู่ ก็ไม่มีใครเคยทำสัญญากับอสูรศักดิ์สิทธิ์มาเป็นเวลาหลายพันปีแล้ว!

แม้แต่ซั่งกวนเยว่ในตอนนั้น ก็เพิ่งได้ทำสัญญากับไก่ฟ้าเก้าสีระดับเก้าเอง!

ยังห่างไกลจากคำว่าอสูรศักดิ์สิทธิ์นัก!

และถึงเส้นทางนี้จะฟังดูธรรมดา แต่ก็แฝงไว้ด้วยอำนาจอันยิ่งใหญ่!

เพราะถ้านางควบคุมอสูรศักดิ์สิทธิ์ได้ นางก็สามารถบดขยี้ซั่งกวนเยว่ได้!

ซั่งกวนหว่านกำหมัดที่ซ่อนอยู่ใต้แขนเสื้อแน่น ลำคอของนางแห้งผาก พร้อมเลือดในกายที่กำลังพุ่งพล่าน

ตลอดการเดินทาง นางได้ยินคำเยินยอซั่งกวนเยว่มามากเกินพอแล้ว

ไม่สิ ต้องพูดว่าตั้งแต่นางเข้ารับตำแหน่งนี้ นางก็ถูกเปรียบเทียบกับซั่งกวนเยว่!

ไม่ว่าจะเป็นพื้นฐานการฝึกปราณ หรือการทะลวงขั้นพลัง หรือแม้กระทั่งรูปร่างหน้าตา ท่าทาง คำพูดคำจา…

ล้วนโดนเปรียบเทียบกันเสียทุกอย่าง!

และนางก็เกือบจะพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์!

ถึงซั่งกวนเยว่จะตายไปแล้ว หรือแม้แต่ตายอย่างเสียศักดิ์ศรี ทว่าในสายตาของคนจำนวนมาก ซั่งกวนเยว่ก็ยังคงเป็นองค์หญิงใหญ่ที่ไม่อาจถูกใครแทนที่ได้อย่างแท้จริง

แล้วนางเล่า?

นางไม่เพียงแต่ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก เพื่อปกปิดสภาพร่างกายของตัวเองทุกวัน และจัดการกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในราชวงศ์เทียนลิ่งเท่านั้น แต่นางยังต้องตกอยู่ภายใต้เงาของซั่งกวนเยว่ตลอดเวลาอีก!

เมื่อตอนที่ซั่งกวนเยว่ยังมีชีวิตอยู่ก็เป็นแบบนี้

และพอตายแล้ว วิญญาณของนางก็ยังตามหลอกหลอนกันอยู่!

ซั่งกวนหว่านใกล้จะหมดความอดทนแล้ว!

และนี่คือสาเหตุที่ทำให้นางต้องการฟื้นฟูชีพจรดั้งเดิมไวๆ และรีบพัฒนาความแข็งแกร่งของนางให้สูงขึ้นกว่าเดิม!

เพื่อพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่านางเก่งกว่าซั่งกวนเยว่!

“ยากมากที่จะเจอโอกาสเช่นนี้ คราวนี้ข้าจะเอาเลือดอสูรศักดิ์สิทธิ์มาให้เสด็จพ่อให้ได้!”

พอพูดจบ ซั่งกวนหว่านก็ยกเท้าขึ้นและเดินตรงไปยังทิศทางที่เมฆดำรวมตัวกัน!

เจียงอวี่เฉิงมองไปยังท้องฟ้าที่มืดมิด ด้วยสีหน้าแน่วแน่และก้าวเท้าตามไป

มู่ชิงเห่อก็รีบสั่งให้ทหารหน่วยหน้าเคลื่อนพล

จากนั้นคนทั้งขบวนก็มุ่งหน้าสู่ป่าหมอกมายาเต็มกำลัง!

…

หลังจากก้าวข้ามผ่านเขตสามเหลี่ยมสีเทาแล้ว ทุกคนก็เข้าไปในป่าหมอกมายาทีละคน

หากมองผ่านๆ มันก็เหมือนผืนป่าทั่วไป

แต่เนื่องจากมู่ชิงเห่อได้เตือนเกี่ยวกับอันตรายของมันมาก่อน ทุกคนจึงใช้พลังดั้งเดิมสร้างค่ายกลรอบตัวพวกเขา เมื่อเดินเข้าไปในป่าหมอกมายา

ฉู่หลิวเยว่เงยหน้าขึ้นมองป่าเขียวชอุ่ม ดวงตาของนางกวาดมองซ้ายขวา แล้วถามอินทรีสามตาในใจ

“เจ้ารู้หรือไม่ว่าสัตว์อสูรตนใดที่กำลังทะลวงขั้นพลังปราณอยู่?”

อินทรีสามตาเป็นถึงอสูรศักดิ์สิทธิ์ มันน่าจะรู้เรื่องพวกนี้อยู่บ้าง

“เราอยู่ไกลเกินไป แต่เห็นได้ชัดว่าเจ้าสัตว์ตนนั้นมันตั้งใจซ่อนลมปราณของตัวเอง ข้าจึงสัมผัสไม่ได้ว่ามันคือสัตว์อสูรชนิดใด”

เสียงของอินทรีสามตาทั้งทุ้มต่ำและฟังดูจริงจังมาก

“แต่ถึงขนาดซ่อนลมปราณได้อย่างมิดชิดเช่นนี้ ย่อมไม่ใช่สัตว์อสูรธรรมดาเป็นแน่”

ฉู่หลิวเยว่เองก็แอบประหลาดใจเช่นกัน

ดูเหมือนว่าในป่าหมอกมายาแห่งนี้ จะมีบางสิ่งที่พิเศษซ่อนอยู่จริงๆ ด้วย…

นางหลับตาลงและเค้นพลังดั้งเดิมเพื่อสร้างค่ายกลป้องกันตัว เช่นเดียวกับคนอื่นๆ แล้วเดินต่อไป

…

ภายในป่า เต็มไปด้วยกองใบไม้ร่วงกองหนา

ยามย่ำเท้าเหยียบก็จะได้ยินเสียงกรอบแกรบดังออกมาไม่ขาดสาย

สายลมพัดโชยมาจนใบไม้ปลิวว่อน

ทว่ายกเว้นเสียงเหล่านี้ ทั่วทั้งผืนป่าก็เงียบกริบไร้เสียงสิ่งมีชีวิตอื่นใด

หลายคนไม่สามารถซ่อนความอยากรู้อยากเห็นไว้ได้ พวกเขาเดินไปรอบๆ พลางสังเกตรอบข้าง

เมื่อมองแวบแรก ดูเหมือนว่าป่าหมอกมายานี้จะไม่ต่างจากป่าทั่วไป

แต่เมื่อนึกถึงคำแนะนำของมู่ชิงเห่อเมื่อครู่ก่อน ทุกคนก็ยังคงระมัดระวังตัว เพราะกลัวว่าจะมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น

หลังจากเข้าไปในป่าอันเขียวชอุ่มแล้ว มันก็เริ่มยากที่จะมองเห็นสถานการณ์บนฟากฟ้า

ทว่าเสียงคำรามที่ดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ก็ดังชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

“เหตุใดถึงเงียบแบบนี้?”

หลังจากเดินไปได้ระยะหนึ่ง เจียงอวี่เฉิงเป็นคนแรกที่สังเกตเห็นถึงความผิดปกติ พลันเอ่ยถาม

ผู้อาวุโสชิวซีลูบเคราของเขาและอธิบายว่า

“อาจเป็นเพราะมีสัตว์อสูรระดับเก้ากำลังทะลวงขั้นพลังปราณอยู่ สัตว์อสูรตัวอื่นจึงหนีไปหลบซ่อนชั่วคราว? ว่ากันว่ายามสัตว์อสูรระดับนี้ทะลวงพลังปราณ มันจะดึงดูดทัณฑ์สวรรค์ให้ผ่าลงมาด้วย และมีเพียงตัวที่รอดชีวิตเท่านั้น ที่จะถือว่าประสบความสำเร็จ แล้วกลายเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์! เป็นปกติที่สัตว์อสูรธรรมดาจะหลีกทางให้มัน”

ผู้อาวุโสตวนมู่ฉุนที่อยู่ข้างๆ เขา ก็พยักหน้าเห็นด้วยเช่นกัน

“ผู้อาวุโสชิวซีพูดถูก ถึงจะเคยได้ยินเพียงคำล่ำลือ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าพวกเราจักต้องเจอกับเรื่องแบบนี้ครั้งแรกที่มาเลย มันคงเป็นพรอันยิ่งใหญ่ของเรา!”

บนโลกนี้ คงมีคนอีกเป็นร้อยเป็นพันที่ต้องการเห็นภาพเช่นนี้!

และพอได้ยินแบบนั้น เจียงอวี่เฉิงแอบโล่งใจเล็กน้อย

“เช่นนี้นี่เอง”

ผู้อาวุโสชิวเอ่ยพลางหัวเราะ

“ครู่ก่อนรองแม่ทัพมู่ก็บอกว่า เขาก็ไม่เคยเห็นภาพเหตุการณ์นี้มิใช่หรือ? คงเป็นเพราะความกตัญญูต่อพระบิดาขององค์หญิงสาม ที่ดั้นด้นมาหาโอสถด้วยตนเองโดยไม่คำนึงถึงอันตรายใดๆ จึงทำให้เรามาทันเวลาพอดี!”

ซั่งกวนหว่านที่ได้ยิน ก็ถึงกับอารมณ์ดีขึ้นกว่าเดิม

“ตราบใดที่ข้าสามารถช่วยเสด็จพ่อได้ ให้ทำอันใดข้าก็จะทำ ยิ่งไปกว่านั้น หากมีทุกคนคอยติดตามกันเช่นนี้ไปตลอด ก็ไม่มีอันใดที่ข้าต้องกลัว ตอนนี้ขอเพียงหาสัตว์อสูรตัวนั้นให้เจอ และรอให้มันทะลวงขั้นพลังปราณเสร็จ จนกลายเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ ข้าจะเอาเลือดของมันกลับไปให้เสด็จพ่อ!”

ขณะเดียวกัน ท้องฟ้าเหนือศีรษะของทุกคนก็มืดลงทันที

พวกเขาต่างพากันเงยหน้าขึ้นมอง

“เกิดอันใดขึ้น? ไยท้องฟ้าถึงได้มืดดำเพียงนั้น?”

“หรือว่ากลุ่มเมฆดำจะมารวมตัวกันที่นี่? แต่มันไม่ควรเร็วขนาดนี้หรือเปล่า?”

ทันใดนั้นก็มีเสียงอุทานจากฝูงชน

“ดูสิ! ต้นไม้นั่นกำลังขยับ!”

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 689 การผจญภัย"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์