ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 700 พบเจอ
ตอนที่ 700 พบเจอ
เชียงหว่านโจวตอบสนองเตรียมลุกขึ้นยืน
ฉู่หลิวเยว่จึงหันไปส่ายหน้า
เชียงหว่านโจวเม้มปากแน่น และทำได้เพียงนั่งอยู่กับที่ แต่ทว่าสายตาของเขายังคงจ้องมองฉู่หลิวเยว่ ราวกับกลัวว่านางจะเป็นอันตราย
ตลอดทางที่มาที่นี่ ป่าหมอกมายาแห่งนี้ช่างพิลึกพิลั่น
และยิ่งนึกถึงฉากที่เขาเห็นก่อนหน้านี้ เชียงหว่านโจวก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ
ฉู่หลิวเยว่ไม่ได้สนใจเขา พลันหมุนตัวเดินออกไป
แต่ทว่าไม่รู้ว่าเป็นผลพวงจากการทะลวงขั้นพลังปราณของสัตว์อสูรระดับเก้าหรือไม่ เพราะอายพิศม์เหล่านั้นไม่ได้แพร่กระจายมายังบริเวณนี้เลย
ผืนป่าภายในรัศมีแถบนี้ยังดูค่อนข้างปกติ
ฉู่หลิวเยว่ก้าวไปข้าวหน้า เหยียบย่ำฝีเท้าลงบนกองใบไม้ที่ร่วงหนาๆ
ถวนจื่อกระโดดขึ้นไปบนไหล่ของนาง แล้วหันกลับไปมองทัณฑ์สวรรค์ที่รวมตัวกันบนท้องฟ้า
ฉู่หลิวเยว่ลูบตัวมันเบาๆ
“เอาไว้จัดการตรงนี้เสร็จแล้ว เราจะกลับไปทันที”
ไม่ใช่แค่ถวนจื่อ แต่นางเองก็อยากดูต่อเหมือนกัน
หากไม่ใช่เพราะเจียงอวี่เฉิง…
ฉู่หลิวเยว่เดินไปเรื่อยๆ และตั้งใจฟังเพื่อหาทิศทางของเสียง
และยิ่งเดินออกมาไกลเท่าไหร่ เสียงนั่นก็ยิ่งดังใกล้หูมากขึ้นเท่านั้น
ในที่สุด ฉู่หลิวเยว่ก็หยุดยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าต้นไม้ขนาดใหญ่ประมาณคนสองคนโอบมิด ดวงตาของนางจับจ้องไปที่พื้นดิน
ฟังเหมือน…ดังมาจากใต้ดินตรงนี้เลย!
บนหน้าดินบริเวณนี้เต็มไปด้วยกองใบไม้แห้งไร้ชีวีหนาทึบ เฉกเช่นจุดอื่นๆ
แต่เมื่อยืนอยู่ที่นี่ จะสามารถได้ยินเสียงคร่ำครวญอันเจ็บปวดของเจียงอวี่เฉิง ที่ดังมาจากด้านล่างได้อย่างชัดเจน!
ฉู่หลิวเยว่ประหลาดใจ พลันโบกสะบัดแขนเสื้อ
ใบไม้ที่ร่วงหล่นปลิวว่อน และด้านล่างเป็นรากของต้นไม้ที่แผ่ขยายขึ้นมาเหนือดิน
บนรากนั้นมีฝุ่นและตะไคร่น้ำเกาะอยู่ ซึ่งถ้าไม่ดูดีๆ ก็จะมองไม่ออกเลยว่ามันคืออันใด
ฉู่หลิวเยว่เงี่ยหูฟังอีกครา เพื่อให้แน่ใจว่าเจียงอวี่เฉิงอยู่ใต้ต้นไม้นี้จริงๆ
ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาลงไปอยู่ข้างล่างได้เช่นไร….
ฉู่หลิวเยว่ครุ่นคิด แล้วลองเคาะรากไม้ดู
“แกรก” “แกรก”
เสียงของเจียงอวี่เฉิงหยุดลงในทันใด
ชัดเจนว่าเขาได้ยินเสียง
ฉู่หลิวเยว่ยิ้มเยาะ
ว่าตามนิสัยขี้ระแวงและขี้สงสัยของเจียงอวี่เฉิง เมื่อเขาได้ยินเสียงนี้ สิ่งที่เขานึกถึงอันดับแรกนั้นไม่ใช่การขอความช่วยเหลืออย่างแน่นอน แต่จะทำอย่างใดถึงหลีกเลี่ยงอันตรายได้มากกว่า
พนันเลยว่าตอนนี้เขาต้องไม่กล้าโผล่ออกมาแน่นอน
ฉู่หลิวเยว่เคาะอีกสองสามครั้ง
“แกรก” “แกรก” “แกรก”
คราวนี้ เจียงอวี่เฉิงยิ่งเงียบกว่าเดิม
และกลายเป็นรากไม้ ที่เริ่มขยับเคลื่อนไหว
ฉู่หลิวเยว่เงยหน้าขึ้นมอง
เจ้าต้นไม้ต้นนี้เองก็เป็นต้นสนฉัตร
เช่นนี้แล้ว…ควรหนีหรือไม่นะ?
เมื่อรากขยับ เศษดินและตะไคร่น้ำก็ร่วงหล่นลงมา
พร้อมกลิ่นคาวจางๆ โชยมาในอากาศ
ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้วทันที
กลิ่นนี้มัน…มีกลิ่นเหมือนเลือด และมันก็มีกลิ่นของเน่าเสียปะปนมาด้วย…
ทันใดนั้น นางก็จ้องมองไปยังรากไม้ที่ถูกดึงออกมาจากพื้น และเปิดเผยสู่ภายนอก
ผิวของมันแทบจะโปร่งใส และเต็มไปด้วยของเหลวสีแดง ที่ดูจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ!
ราวกับ…เส้นเลือดขนาดใหญ่!
รูม่านตาของฉู่หลิวเยว่หดตัวลงอย่างรวดเร็ว
นางเคยเห็นรากของต้นสนฉัตร แต่นางไม่เคยเห็นอันใดแบบนี้มาก่อน!
ฉู่หลิวเยว่สูดหายใจเข้าลึกๆ สายตาของนางจับจ้องไปที่รากต้นไม้เปื้อนเลือดขนาดเท่าฝ่ามือนั่น และฉากที่นางเคยเห็นก่อนหน้านี้ก็ปรากฏขึ้นในใจ
ใช่แล้ว!
ดูเหมือนว่ารากต้นสนฉัตรเหล่านั้นก็เป็นสีแดงเหมือนกัน!
เพียงแต่ว่าต้นไม้เหล่านั้นไม่แก่เท่าต้นไม้ต้นนี้ และรากก็เล็กกว่า ตอนนั้นนางจึงไม่ได้ระมัดระวังเท่าใด…
หรือว่าแท้จริงแล้วรากต้นไม้เหล่านั้นจะเป็นเหมือนรากนี้?
ฉู่หลิวเยว่ถอยหลังไปครึ่งก้าว พลันชักกริชออกมาและแทงเข้าที่รากต้นไม้โดยตรง!
ฉั๊วะ!
น้ำสีแดงมากมายหลั่งไหลออกมาจากรากไม้ทันควัน!
พร้อมลมปราณอันรุนแรงที่พุ่งออกมา!
ฉู่หลิวเยว่ตกตะลึง ข้างในรากมีเลือดอยู่จริงๆ ด้วย!
แม้ว่ามันอาจจะไม่ใช่เลือดบริสุทธิ์เข้มข้น แต่ก็ผสมกับเลือดของจริงจำนวนมาก!
ไม่อย่างนั้นคงไม่มีสีสันและกลิ่นคาวแบบนี้แน่ๆ!
แล้วเลือดเหล่านี้…มาจากที่ใดกัน?
เมื่อคิดถึงเหตุการณ์แปลกประหลาดชวนขวัญผวาที่เกิดขึ้นในป่าก่อนหน้านี้ นางก็มองย้อนกลับไป พลันสั่นสะท้านไปทั่วแผ่นหลัง
หรือว่า…
คนพวกนั้น…
แดนภังคะนั้นเต็มไปด้วยอันตราย แต่ก็เต็มไปด้วยสิ่งล่อใจเช่นกัน
ในทุกๆ ปีจะมีผู้ฝึกตนจำนวนมากเดินทางมาที่นี่
ทว่าคนที่สามารถมีชีวิตรอดกลับไปนั้น มีน้อยมาก
ส่วนพวกที่เหลือก็ถูกฝังอยู่ใต้แดนภังคะแห่งนี้
ถ้าต้นสนฉัตรอาศัยการดูดเลือดมนุษย์เป็นอาหารของมันจริงๆ ล่ะก็…
เช่นนั้นผืนป่าสีเขียวขจีขนาดใหญ่แห่งนี้ก็…
ฉู่หลิวเยว่คิ้วกระตุกไม่หยุด!
เปรี้ยง!
ทัณฑ์สวรรค์สายที่สองฟาดฟันลงมา!
ฉู่หลิวเยว่รีบหันไปมองอย่างว่องไว
แต่แสงฟ้าผ่านั้นเจิดจ้าจนแทบมองไม่เห็นสิ่งใด
พลังของทัณฑ์สวรรค์สายนี้แข็งแกร่งกว่าอันแรกอย่างเห็นได้ชัด!
ฉู่หลิวเยว่หรี่ตา และเห็นอย่างพร่าเลือนว่า สีสันของค่ายกลส่วนล่างได้กระจายตัวอย่างรวดเร็ว และขึ้นไปรวมตัวกันที่ด้านบน!
และสุดท้ายก็รวมตัวกับแสงเจิดจ้านั่น!
มันคงเป็นเพราะสัตว์อสูรตัวนั้นกำลังดูดกลืนพลังจากค่ายกลของตัวเอง เพื่อต้านท้านทัณฑ์สวรรค์สินะ?
จุดโปร่งแสงบนค่ายกลขยายกว้างขึ้น แต่จากมุมมองของฉู่หลิวเยว่แล้ว นางมองเห็นเพียงใบไม้ที่ร่วงหล่นและหินบางก้อนที่อยู่ด้านในเท่านั้น
ทว่านอกจากนี้ก็มองไม่เห็นอันใดอีก
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกผิดหวังอีกครา
สงสัยคงต้องรออีกพักใหญ่ๆ ถึงจะได้เห็นสัตว์อสูรตัวนั้น…
แซกๆ…
จู่ๆ ก็มีเสียงของบางอย่างเคลื่อนไหวอยู่บนพื้นดิน
ฉู่หลิวเยว่หันศีรษะไปมองรากต้นไม้ที่ถูกตัดออกด้วยฝีมือของตน
รากของต้นไม้มีเลือดสดๆ พุ่งออกมา ของเหลวสีแดงสดก็ไหลไปทุกทิศทุกทาง และในไม่ช้าก็เปรอะเปื้อนพื้นที่ขนาดใหญ่ จนกลายเป็นภาพที่ดูน่ากลัวมาก
ดูเหมือนว่าการกระทำของฉู่หลิวเยว่จะไปกระตุ้นมัน
รากนั้นขดงอเล็กน้อย พลันเคลื่อนไหวด้วยความเร็วที่มากกว่าเดิม
รากไม้ที่เหลือถูกลากลงจากหน้าดินทีละราก
ต้นไม้ทั้งต้นสั่นคลอน ขณะถอนรากออกจากพื้นดินจนหมด ราวกับว่ามันกำลังจะหนีไป
ฉู่หลิวเยว่กวาดตามอง พร้อมกำกริชในมือของตนและกำลังจะโจมตีอีกครั้ง แต่ทันใดนั้น นางก็เห็นเศษผ้าที่แขวนอยู่บนรากของต้นไม้
แม้ว่าจะมีคราบสกปรกติดอยู่ แต่ก็ยังเห็นได้ว่าผ้านั้นใหม่และหรูหรามาก
…และมันคือเศษชุดของเจียงอวี่เฉิง!
เขาต้องติดอยู่ข้างล่างแน่ๆ!
เมื่อมองไปที่รอยของเลือดที่เปื้อนบนผ้า ริมฝีปากของฉู่หลิวเยว่ก็โค้งขึ้นราวเย้ยหยัน
ดูเหมือนว่าเจียงอวี่เฉิงที่อยู่ด้านล่าง คงมีสภาพย่ำแย่เป็นแน่…
หรือบางทีเขาอาจถูกรากไม้นี้ดูดกินเลือดไปแล้ว?
สัมผัสของลมหายใจที่คุ้นเคยใกล้เข้ามาทุกที
ฉู่หลิวเยว่จึงแทงกริชใส่รากไม้อีกครั้ง!
รากนั่นบิดขดรุนแรงยิ่งขึ้น!
ทันใดนั้นพื้นดินบริเวณนี้ก็ถูกยกขึ้น!
ก่อนที่ร่างครึ่งตัวของใครบางคนจะโผล่ขึ้นมา!
เขาคือเจียงอวี่เฉิง!
ร่างกายท่อนบนของเขาถูกพันธนาการอย่างแน่นหนาด้วยรากฝอยน้อยใหญ่ของต้นไม้ มีเพียงแขนข้างเดียวที่ยังสามารถขยับได้ และร่างกายท่อนล่างของเขายังคงติดอยู่กับพื้น
ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยเลือด และดูน่าสมเพชมาก
แต่เขายังคงระแวดระวังมาก ซึ่งเมื่อเขาโผล่ขึ้นมาได้ เขาก็ตวัดมีดยาวในมือแล้วฟันไปทางฉู่หลิวเยว่!
ฉู่หลิวเยว่ขยับหลบมันเล็กน้อย พลันเอ่ยอย่างขำขัน
“องค์ชายใหญ่เจียง นั่นท่านกำลังทำอันใดอยู่หรือเพคะ?”
เจียงอวี่เฉิงตั้งสติอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเห็นเด็กสาวที่กำลังพูดและหัวเราะเย้ยหยันเขาอยู่
“ฉู่หลิวเยว่หรือ?!”