ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 730 โต้ตอบ
ตอนที่ 730 โต้ตอบ
ภายใต้การนำทางของจู้หง ทุกคนต่างก้าวไปด้านหน้าในทิศทางเดียวกัน
ผู้อาวุโสชิวซีชะงักเล็กน้อย ในที่สุดเขาก็ยอมหุบปากไปแต่โดยดี
ตอนนั้นทุกคนต่างเงียบเสียงลง
จู้หงแบ่งโอสถป้อนให้คนเหล่านั้นตามลำดับ หลังจากนั้นไม่นานระหว่างการเดินทางพวกเขาก็ทยอยตื่นขึ้นมาทีละคน
โชคดีที่อาการบาดเจ็บของพวกเขาทั้งหลายไม่ได้สาหัสมากนัก กอปรกับฤทธิ์ยาของฉู่หลิวเยว่ จึงสามารถทำให้พวกเขาเดินตามทัน
เมื่อผ่านไปสักระยะหนึ่ง ในที่สุดจู้หงก็หยุดฝีเท้าลง และเขาก็ขมวดคิ้วขึ้นอย่างช้าๆ
เพราะว่า…ที่นี่เหลือเพียงแค่ศพไม่กี่ศพที่จมอยู่ใต้น้ำเท่านั้น!
เมื่อดูจากเสื้อผ้า ก็สามารถตัดสินได้ว่าพวกเขาคือทหารม้าทมิฬจริงๆ
แต่คนอื่นๆ นับสิบชีวิตได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว
“ก่อนหน้านี้คนเหล่านั้นล้วนอยู่ที่นี่ทั้งหมด…ตอนนี้เหตุใดเหลือเพียงไม่กี่คนแล้วละ…” จู้หงบ่นพึมพำ
มู่ชิงเห่อมองไปรอบๆ ใบหน้าเย็นชาราวกับมีม่านน้ำแข็งขึ้นมาเกาะอีกชั้น
“กระแสน้ำของโคลนสีดำเหล่านี้เหมือนว่าจะไหลแรงขึ้นมากกว่าเดิม”
ฉู่หลิวเยว่และคนอื่นๆ ไม่เคยมาที่นี่มาก่อน ดังนั้นจึงไม่สามารถเปรียบเทียบได้
แต่คนอื่นที่เหลือรวมถึงเจียงอวี่เฉิงและพวก หลังจากมองโคลนเหล่านั้นอย่างละเอียดแล้ว เขาก็ค้นพบถึงความจริงข้อนี้
“หรือว่า…เพราะสาเหตุนี้จึงทำให้คนเหล่านั้นออกจากตรงนี้ไปได้?” จู้หงคาดเดา “เพียงแต่ไม่รู้ว่าตอนนี้พวกเขาจะเป็นอย่างใดบ้าง…”
ถ้ายังมีชีวิตอยู่ นั่นเป็นเรื่องดีแน่นอน แต่ถ้าตายแล้วล่ะ…
“น่าจะเกิดจากการเคลื่อนไหวของต้นไม้แม่พันธุ์”
มู่ชิงเห่อพูดขึ้น จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นไปมองด้านหน้า
นั่นคือทิศทางที่โคลนสีดำปะทุออกมา
หลังจากหยุดไปสักพักหนึ่ง เขาก็พุ่งตัวออกไปด้านหน้า!
แต่ฉู่หลิวเยว่กลับจงใจชะลอความเร็ว แล้ววิ่งไปด้านข้างของฉินอี
“พี่ใหญ่ฉิน ตราประทับที่เจ้าพูดถึงเมื่อครู่นี้…หมายความว่าอย่างใดกันแน่?”
ฉินอีส่ายหน้าเบาๆ
“ข้ารู้เพียงแค่ด้านล่างมีตราประทับปิดอยู่ แต่ไม่เคยเห็นมันด้วยตาตัวเอง จึงไม่ค่อยมั่นใจมากนัก”
ขณะที่พูด เขาก็เหลือบสายตาไปมองถวนจื่ออย่างไร้เสียง
เขาหมายความว่า…
ถวนจื่ออาจจะรู้อันใดบางอย่าง?
ถวนจื่อกะพริบตาปริบๆ
ฉู่หลิวเยว่จึงมั่นใจมากขึ้น
เหมือนว่าถวนจื่อจะรู้อันใดบางอย่างจริงๆ
“ถวนจื่อ เหตุใดก่อนหน้านี้เจ้าถึงไม่พูดขึ้นมาเลย?”
ฉู่หลิวเยว่ถามอีกฝ่ายในใจ
ถวนจื่อซบศีรษะลงที่ซอกคอของนาง
…เพราะว่ามันไม่อยากให้นางเข้าไป!
มันอยู่ที่นี่มาตั้งนาน มันสามารถเดาอันใดบางอย่างออกได้อยู่แล้ว
เกรงว่าตราประทับนั้นจะไม่ใช่ของที่ควรยุ่งเกี่ยวเสียเท่าไร
ตอนแรกมันก็ไม่อยากให้ฉู่หลิวเยว่ลงมาที่นี่เสียด้วยซ้ำ
ดังนั้นมันจึงไม่ยอมพูดอันใดมาตลอดทาง
ฉู่หลิวเยว่ลูบหัวของมันเบาๆ สีหน้าของนางก็ผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย
ตอนนี้ถวนจื่อได้กลายเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์แล้ว สิ่งที่ทำให้มันหวาดกลัวเช่นนี้ คงไม่ธรรมดาเลย
แล้วก็ซั่งกวนหว่าน…
นางรู้สึกว่ามีอันใดบางอย่างผิดปกติไป
ในเมื่อมาถึงขนาดนี้แล้ว กลับก็กลับไม่ได้ ก็คงต้องมีแต่เดินหน้าต่อไปเท่านั้น!
คนกลุ่มนี้ก็ยังต้องเดินหน้าต่อ
…
พวกเขาเดินทางเร็วมาก หลังจากเดินทางมาครึ่งชั่วยาม ในที่สุดก็ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวจากด้านหน้า
มู่ชิงเห่อรีบวิ่งไปด้านหน้าทันที จากนั้นก็เห็นเงาคนกลุ่มหนึ่งรางๆ!
ทหารม้าทมิฬจริงๆ ด้วย!
แต่คนจำนวนนี้เหมือนว่าจะมีมากกว่าที่จู้หงพูดถึงหลายเท่าทีเดียว!
เมื่อมองดูอย่างละเอียด เกรงว่าจะมีคนมากกว่าร้อยคน!
ขณะที่มู่ชิงเห่อกำลังจะก้าวเข้าไป ทันใดนั้นเขาก็พบว่ารอบตัวของนายทหารกลุ่มนั้นมีรากไม้รัดแน่นเต็มไปหมด!
โดยเฉพาะคนที่อยู่ด้านนอกสุด เต็มไปด้วยบาดแผล และกำลังจะหมดลมหายใจ
หลายคนในกลุ่มนั้นถึงกับหมดสติไป
ไม่รู้ว่าแค่หมดสติไป หรือว่า…
รากไม้เหล่านั้นเหมือนกำลังต้องการแยกพวกเขาออกจากกัน แต่นายทหารเหล่านั้นให้ตายอย่างใดก็จะพยายามเกาะกันเป็นกลุ่ม! อีกทั้งก็ยังต่อสู้กับรากไม้เหล่านั้นอย่างต่อเนื่อง!
เมื่อมองเห็นสถานการณ์เช่นนี้แล้ว ก็รู้สึกอนาถใจเล็กน้อย
ทุกคนที่เดินตามมาเงียบเสียงลงทันที เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์นี้แล้วก็ยากที่จะซ่อนความตกใจเอาไว้
ใบหน้าของมู่ชิงเห่อเย็นชาจนน่ากลัว เขารีบพุ่งตัวไปด้านหน้าทันที
“รองแม่ทัพมู่ ถ้าบุกเข้าไปในตอนนี้เกรงว่าจะไม่เหมาะสม?”
ทันใดนั้นฉู่หลิวเยว่ก็พูดขึ้นมา
มู่ชิงเห่อหันหน้ากลับไปมอง แววตาคมกริบราวมีด
“เจ้าอยากพูดอันใดกันแน่?”
ฉู่หลิวเยว่ยิ้ม แล้วชี้ไปทางรากไม้ที่กำลังเลื้อยพันอยู่
“ขอเพียงแค่จัดการสิ่งนั้นให้ได้ ก็สามารถช่วยพวกเขาได้แล้ว ไม่เช่นนั้นถ้าเข้าไปช่วยเฉยๆ จะเสียแรงเปล่า”
มู่ชิงเห่อจ้องหน้าฉู่หลิวเยว่ครู่หนึ่ง ความโกรธและใจร้อน ค่อยๆ ลดลงไปเรื่อยๆ
ฉู่หลิวเยว่พูดได้ถูกต้อง สถานการณ์ในตอนนี้ต้องใช้ความคิด ไม่สามารถใช้แต่กำลังอย่างเดียวได้
เมื่อครู่มู่ชิงเห่อบุ่มบ่ามมากเกินไป เขาใจร้อนจนเกือบจะพุ่งเข้าไปแล้ว
“เจ้ามีวิธี?”
ฉู่หลิวเยว่พยักหน้า
“มี”
…
รากเส้นหนึ่งลอยผ่านไป
ซั่งกวนหว่านยกมือขึ้น แล้วลูบรากไม้นั่นเบาๆ
ของเหลวสีแดงไหลลงสู่ฝ่ามือของนางอย่างรวดเร็ว! จากนั้นมันก็เข้าไปในเปลวเพลิงสีเขียวที่อยู่ในตันเถียนของนาง!
พลังเหล่านั้นก็ออกจากเปลวเพลิงสีเขียวแล้วกระจายไปตามแขนขาของซั่งกวนหว่าน
นางสามารถสัมผัสได้ว่าเส้นชีพจรของตัวเองกำลังฟื้นฟู ซั่งกวนหว่านถอนหายใจออกมายาวๆ
นางรู้สึกพลังเต็มเปี่ยมอีกครั้ง…มันจึงทำให้นางมีความรู้สึกดีอย่างมาก!
นางจำไม่ได้แล้วว่านางรอคอยวันนี้มานานขนาดไหน!
ขอเพียงแค่ยืนหยัดในช่วงเวลาหนึ่ง กลืนกินพลังให้มากพอ นางก็จะสามารถฟื้นพลังกลับมาสมบูรณ์ดังเดิมได้!
ซั่งกวนหว่านสะบัดให้รากไม้ออกไป แล้วมองดูมือทั้งสองข้างของตัวเอง
ผิวหนังของนางค่อยๆ กลับสู่สีปกติที่มีเลือดฝาดดั่งเช่นตอนแรกแล้ว
นางเชื่อว่าอีกไม่นาน นางจะสามารถ…
ทันใดนั้นสีหน้าของซั่งกวนหว่านก็เปลี่ยนสีไปทันที หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงอย่างรุนแรง จากนั้นขาทั้งสองข้างก็อ่อนแรง แล้วคุกเข่าลงกับพื้นทันที!
เกราะศักดิ์สิทธิ์ทองแดงกระแทกกับแท่นหินจนส่งเสียงอู้อี้ออกมา!
ดวงตาของซั่งกวนหว่านกำลังจะระเบิด!
แผนการที่นางวางเอาไว้อย่างรอบคอบถูกคนทำลายแล้ว!
คนพวกนั้นมีมากกว่าร้อยคน!
เดิมทีนางคิดว่าถ้าทำครั้งนี้สำเร็จ นางก็จะสามารถหายเป็นปกติได้แล้ว!
แต่คาดไม่ถึงว่าจะมีคนมาขวางทางนาง!
พลังที่อยู่ระหว่างหน้าอกและช่วงท้องของนางระเบิดขึ้น จนเกือบจะฉีกอวัยวะภายในของนางทั้งหมด!
นางกระอักเลือดออกมาทางปากไม่หยุด หลังจากนั้นไม่นานนางก็ล้มลงไปบนพื้น
และยังล้มไปบนตำแหน่งเกราะศักดิ์สิทธิ์ทองแดงอีกด้วย
“ใครกัน! ข้าจะสับมันให้เป็นหมื่นๆ ชิ้น!”
ซั่งกวนหว่านตะโกนด้วยเสียงแหบแห้ง! แววตาแดงก่ำ สายตาเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง!
ทันใดนั้นความว่างเปล่าที่อยู่ตรงหน้านางก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง!
หลังจากนั้นก็มีลำแสงหลากสีส่องผ่านลงมา!
เปลวเพลิงสีแดงชาดกลุ่มหนึ่ง ห่อหุ้มด้วยปราณที่มหาศาล ก่อนจะโจมตีไปที่ระหว่างคิ้วของนาง!