ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 755 อธิบาย
ตอนที่ 755 อธิบาย
เป็นประโยคคำถามที่โพล่งออกมาอย่างเย็นชา ราวกับหนามแหลมคมที่พุ่งทะลวงความเงียบงันเข้ามา!
ซั่งกวนหว่านหันขวับ มองไปยังทิศทางของเสียง พลันคิ้วขมวด
เจ้าของประโยคนั้น คือทหารม้าทมิฬในชุดเกราะพร้อมรบ
ทั้งหน้าทั้งตัวของเขาโชกไปด้วยเลือด ขณะเดียวกันก็จับจ้องมองนางตาเขม็ง แววตาของเขาเย็นเยียบและคมกริบราวกับมีด แถมยังเต็มไปด้วยความโกรธที่กำลังจะปะทุออกมา!
สีหน้าตกใจของซั่งกวนหว่านเปลี่ยนเป็นเย็นชาขึ้นมาทันที
“พื้นเพเจ้านั้นเป็นใคร กล้าดีอย่างใดถึงถามข้าแบบนี้?”
เป็นแค่ทหารม้าทมิฬชั้นต่ำแท้ๆ ใครกันที่ยุให้เขากล้าพูดกับนางด้วยกิริยาวาจาเช่นนี้!?
แม้แต่เสนาบดีตำแหน่งสูงๆ ในราชสำนักยังไม่กล้าดูหมิ่นนางเช่นนี้เลย!
นายทหารคนนั้นยืดคอขึ้นแล้วพูดต่อว่า
“ข้า นายพลชั้นต่ำของกองทหารม้าทมิฬ เถียนจ้วงจ้วงขอรับ! ข้าน้อยมิได้ว่าร้ายท่านองค์หญิง มันเป็นแค่คำถามเท่านั้น! ชุดเกราะศักดิ์สิทธิ์ทองแดงเป็นชุดเกราะขององค์หญิงใหญ่เมื่อครั้นยังมีชีวิตอยู่ และมันรอดปลอดภัยจากการต่อสู้หลายต่อหลายคราโดยไม่ถูกทำลาย! แต่วันนี้เมื่อองค์หญิงสามทรงนำมันออกมาใช้ มันกลับถูกทำลายทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ผ่านสมรภูมิใดๆ เลย! การที่มันถูกทำลายโดยไร้เหตุเช่นนี้ องค์หญิงสามขอรับ ท่านไม่คิดจะอธิบายหน่อยหรือ?”
ซั่งกวนหว่านเย้ยหยันด้วยความโกรธ
องค์หญิงใหญ่หรือ?
ซั่งกวนเยว่ตายจนไม่รู้จะตายอย่างใดแล้ว และตอนนี้อำนาจทุกอย่างของราชวงศ์เทียนลิ่งก็ตกอยู่ในกำมือนาง ซั่งกวนหว่านเป็นที่เรียบร้อย!
ในเมื่อซั่งกวนเยว่ตายไปแล้ว แค่เอาโล่ของนางมาใช้จะเป็นอันใด?
อย่าว่าแต่นายทหารม้าทมิฬผิวดำแคระแกร็นนี่เลย ต่อให้เป็นคนทั้งราชวงศ์เทียนลิ่ง ก็ไม่มีสิทธิ์ถามนางเช่นนี้!
“มันก็แค่ชุดเกราะ เหตุใดข้าต้องอธิบายให้เจ้าฟังด้วย?”
นางเหลือบมองเถียนจ้วงจ้วงด้วยแววตาทิ่มแทง ก่อนจะหันไปพูดกับมู่ชิงเห่อเสียงเรียบ
“รองแม่ทัพมู่ นี่คือนายทหารที่เจ้าเลือกมาหรือ? รู้สึกจะไร้สำนึกเกินไปหรือเปล่า?”
สำหรับคนที่อยู่ในสภาพปางตายเช่นนี้ นางไม่จำเป็นจะต้องลงมือด้วยตัวเองด้วยซ้ำ
เพียงเพราะพูดออกไปเช่นนั้น มู่ชิงเห่อก็จะจัดการเขาเอง!
ทว่าภาพที่วาดฝันไว้กลับไม่เกิดขึ้น
มู่ชิงเห่อไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ ออกมา ทว่าสันกรามของเขากลับเกร็งนูนขึ้นมา ราวกับชั้นน้ำแข็งที่เย็นเยียบ
“สิ่งนี้เป็นของมีค่าประจำพระวรกายขององค์หญิงใหญ่ครั้งยังมีชีวิตอยู่ องค์หญิงสามอาจจะไม่ทราบว่ามันมีค่าต่อกองทัพทหารม้าทมิฬ…มากเพียงใด ยามนี้ของสิ่งนั้นถูกทำลายไปแล้ว สุดท้ายถึงท่านจะไม่ได้ตั้งใจ แต่อย่างใดเสียก็ช่วยอธิบายให้ทุกคนเข้าใจด้วยเถิด”
ซั่งกวนหว่านหน้าตึงขึ้นมาทันที
“มู่ชิงเห่อ!? นี่เจ้าหมายความว่าอย่างใด!”
ต้องการให้นางอธิบาย หรือขอโทษขอโพยอย่างนั้นหรือ?
เพียงเพราะชุดเกราะศักดิ์สิทธิ์ทองแดงชุดเดียวเนี่ยนะ!?
มู่ชิงเห่อสบตากับนางโดยตรง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความแน่วแน่
แสดงว่าเขาจะไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปแน่นอน!
ซั่งกวนหว่านตัวสั่นด้วยความโกรธ
จู่ๆ ชุดเกราะศักดิ์สิทธิ์ทองแดงก็แตกสลาย นางเองก็ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้เยี่ยงไร!
ยังไม่ทันจะได้เสียใจกับการกระทำของตัวเอง นางกลับต้องมาชี้แจงให้คนพวกนี้ฟังอีกหรือ?
น่าขันยิ่งนัก!
นางตวัดสายตามองเจียงอวี่เฉิงอย่างหงุดหงิด
นั่นเพราะมู่ชิงเห่อเป็นคนของเขา!
แต่เจียงอวี่เฉิงนั้นใจลอยวิญญาณออกจากร่างไปแล้ว ไม่รู้เลยว่าเขากำลังคิดอันใดอยู่
ซั่งกวนหว่านตะโกนเรียกถึงสองครั้ง เขาถึงดึงสติกลับคืนมาได้ แต่ยังคงมีร่องรอยความกังวลหลงเหลืออยู่ ระหว่างคิ้วและดวงตาของเขา
น้อยครั้งที่ซั่งกวนหว่านจะเห็นเขาเป็นแบบนี้ พลันร้อนใจขึ้นมาทันที
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ คือเรื่องชุดเกราะศักดิ์สิทธิ์ทองแดงต่างหาก!
หลังจากที่เจียงอวี่เฉิงได้สติ เขาก็ขมวดคิ้วมุ่น แล้วหันไปมองซั่งกวนหว่าน
เกราะศักดิ์สิทธิ์ทองแดงถือเป็นสมบัติล้ำค่าอันทรงพลังยิ่ง ก่อนหน้านี้มันยังดีๆ อยู่เลย แต่เหตุใดพอมันไปอยู่บนตัวของซั่งกวนหว่าน กลับแตกสลายอย่างรวดเร็วเช่นนั้น?!
ซั่งกวนหว่านที่ถูกเขามองแบบนั้น ก็ยิ่งโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ
แต่เมื่อตระหนักได้มามีคนมากมายกำลังมองอยู่ จึงทำได้เพียงข่มความโกรธนั่นไว้ในใจ
เจียงอวี่เฉิงที่ยังเห็นแก่หน้านาง จึงไม่ได้พูดอันใดต่อ และเลือกพูดโน้มน้าวมู่ชิงเห่อแทน
“องค์หญิงสามเพิ่งจะประสบเหตุการณ์เสี่ยงตายมา และนางก็ยังตกใจอยู่ ถึงชุดเกราะศักดิ์สิทธิ์ทองแดงจะสำคัญเพียงใด แต่ก็ไม่สำคัญเท่าชีวิตของนาง พวกเจ้าคือทหารม้าทมิฬ สิ่งสำคัญอันดับแรกคืออันใด พวกเจ้าย่อมรู้ดี! อย่าลืมหน้าที่หลักของพวกเจ้าสิ!”
ใช่ว่าคำพูดเหล่านี้จะไร้น้ำหนัก
และถ้าเป็นเมื่อก่อน มู่ชิงเห่อจะไม่โต้ตอบแน่นอน
แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมแล้ว
มู่ชิงเห่อเอ่ยเสียงเรียบทั้งที่สีหน้ายังคงไร้การเปลี่ยนแปลง
“องค์ชายใหญ่ขอรับ เป็นเพราะพวกข้าคือทหารม้าทมิฬ ถึงได้ยืนกรานขอคำชี้แจงสำหรับเรื่องนี้ แม้ข้าจะไม่ถาม แต่พวกเขาก็จะถามท่าน จนกว่าจะได้คำอธิบายที่สมเหตุสมผล”
เจียงอวี่เฉิงขมวดคิ้วและมองไปยังกองทัพทหารม้าทมิฬรอบๆ ตัว
ก่อนจะเห็นเหล่าทหารที่ไม่รู้ว่าไปจับกลุ่มกันยามใด กระทั่งรวมตัวกันอยู่ตรงบริเวณหนึ่ง และกำลังจ้องมองมาทางเขาตาไม่กะพริบ!
ท่าทางของพวกเขาดื้อรั้นและเอาจริงเอาจัง เสมือนเถียนจ้วงจ้วงเมื่อครู่ก่อนไม่มีผิด!
หากซั่งกวนหว่านไม่ยอมอธิบาย พวกเขาจะไม่ยอมไปไหนทั้งนั้น!
บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด
และเงียบงันราวไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิต
เมื่อเป็นเช่นนี้ ซั่งกวนหว่านก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติ ร่องรอยของความตื่นตระหนกปรากฏขึ้นในดวงตาของนาง
“พวกเจ้าคิดจะทำอันใด!? ต่อต้านข้าไปก็ไม่มีวันสำเร็จหรอก!”
มู่ชิงเห่อเอ่ยต่อ
“องค์หญิงสามทรงตรัสเกินความ พวกเขาก็แค่ต้องการคำอธิบายจากท่าน”
คำอธิบาย?
คำอธิบายบ้าบออันใด!?
ตั้งแต่ซั่งกวนหว่านเข้ามามีอำนาจในการปกครอง นางไม่เคยรู้สึกผิดหวังขนาดนี้มาก่อนเลย!
เมื่อก่อนคนพวกนี้เชื่อฟังนางยิ่งกว่าอันใด แต่พอเกราะศักดิ์สิทธิ์ทองแดงพังทลาย พวกเขากลับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือในทันที!
จองหองอวดดีเป็นที่สุด!
ฉินอีที่อยู่ไกลออกไป มองดูฉากนี้ด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน
คนที่เติบโตในเมืองซีหลิงที่มีแต่เสื้อผ้าสวยหรูและอาหารรสเลิศรายล้อมอย่างซั่งกวนหว่านจะไปเข้าใจได้อย่างใด ตลอดเวลาที่ผ่านมา อำนาจทางการทหารไม่เคยอยู่ภายใต้การควบคุมของราชวงศ์เลย!
เมื่อก่อนตอนองค์หญิงใหญ่ออกศึก จะต้องสูญเสียทหารม้าทมิฬไปกี่คน นางเคยรับรู้บ้างหรือไม่?
มองผิวเผิน ย่อมเข้าใจว่าอำนาจทางการทหารเป็นของมู่ชิงเห่อ
แต่ความจริงแล้วเป็นขององค์หญิงใหญ่ต่างหาก!
โดยทั่วไปแล้ว จะไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้ แต่วันนี้ซั่งกวนหว่านได้ทำลายชุดเกราะศักดิ์สิทธิ์นั่น มันไม่ต่างจากการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของพวกเขาเลย!
และแน่นอนว่าพวกเขาย่อมไม่ปล่อยนางไปง่ายๆ!
ซั่งกวนหว่านกำหมัดแน่น พร้อมกัดฟันกรอดจนฟันแทบบิ่น!
ซั่งกวนเยว่ตายไปตั้งนานแล้ว แต่นางก็ยังถูกอิทธิพลของเจ้าตัวกดขี่ทับถมใส่กันอยู่ตลอด!
นางขึ้นเสียงอย่างเกรี้ยวกราด
“ก็แค่เศษซากทองแดงไร้ค่า พังแล้วก็คือพัง! จักต้องชี้แจงอันใดอีก!”
ทันทีที่สิ้นเสียงตวาด ไอจิตสังหารก็ปรากฏขึ้นทั่วทุกที่!
“ระวังคำพูดด้วย! องค์หญิงสาม!”