ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 789 ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ
ตอนที่ 789 ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ
ความแข็งแกร่งนั้นช่างหยั่งลึก อีกทั้งตัวตนที่ลึกลับ และคำกล่าวถึง “ฮูหยิน” ที่หลุดปากออกมาบ่อยครั้ง…
พฤติกรรมนี้เหมือนกับคนที่อยู่เบื้องหลังหอร้อยโอสถ ตามที่เขาเคยตรวจสอบมาก่อนหน้านี้เลยมิใช่หรือ!?
สำหรับคนนอก เย่ว์หลิงคือประมุขของหอร้อยโอสถที่ดูแลควบคุมทุกอย่าง แต่สำหรับผู้ที่มีวิจารณญาณมากพอ จะมองออกว่าแท้จริงแล้ว หอร้อยโอสถนั้นมีเจ้าของตัวจริงอยู่
เพียงแค่ไม่มีใครในซีหลิงเคยเห็นเขาเท่านั้น
แม้แต่เจียงอวี่เฉิงก็ยังไม่เคยเห็น
เขาต้องการพบบุคคลลึกลับผู้นี้หลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีโอกาสเลยสักครา
แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะได้เจอกันที่นี่!
ทว่าดูเหมือนชายชุดดำจะไม่สนใจคำพูดของเขาเลยสักนิด พลันขยับปรายนิ้วเล็กน้อย
สายลมพัดโชยเข้ามา พาดอกบัวพลิ้วไหว
พลันมีค่ายกลโปร่งแสงก่อตัวขึ้น แล้วห่อหุ้มมันไว้!
และในจังหวะที่ซย่าโหวหรงคิดจะเข้าไปใกล้มัน เขาก็สัมผัสได้ถึงลมปราณอันแข็งแกร่งที่แผ่ลงมาจากด้านบน
พวกเขาหันมองหน้ากันอย่างตกตะลึง
เช่นนี้ การเด็ดบัวระบำกลับไปนั้น ก็ยากยิ่งกว่าเดิมเสียแล้ว!
ซ่งหลวนถามอย่างตื่นตระหนก
“องค์ชายใหญ่ พวกเราจักทำเช่นไรดี?”
เจียงอวี่เฉิงได้รับบาดเจ็บสาหัส ดูเหมือนว่าอาการของเขาจะไม่ดีนัก
และคนที่เหลือเองก็อาจไม่ใช่คู่ต่อสู้ของชายชุดดำ
แม้พวกเขาจะรวมพลังกัน ก็เกรงว่าจะเป็นการยากที่จะนำบัวระบำนั้นกลับมาได้
เจียงอวี่เฉิงกัดฟัน มีกลิ่นเลือดรุนแรงระหว่างริมฝีปากและร่องฟันของเขา สายโลหิตพุ่งออกมาระหว่างหน้าอกและช่องท้อง พลันนัยน์ตาของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีดำ
เดิมที่ร่ายกายของเขาก็ยังไม่ได้ฟื้นตัวเต็มที่ และไหนจะมาบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้อีก ยิ่งเลวร้ายเข้าไปใหญ่!
ถ้าคิดถึงความปลอดภัยเป็นหลัก พวกเขาควรจะรีบหนีออกไปให้เร็วที่สุด และเลี่ยงการประมือกับชายผู้นั้น
แต่ทว่า… บัวระบำดอกนั้น…
เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ พลันเอ่ย
“ข้ามิเป็นไร บัวระบำดอกนั้นสำคัญกับฝ่าบาทมาก คงต้องขอร้องให้พวกท่านช่วยจัดการต่อ แล้วนำมันกลับมา…”
ทุกคนล้วนตกใจกับคำพูดของเจียงอวี่เฉิง
“องค์ชายใหญ่ เจ้าคิดดีแล้วหรือ? บัวระบำสำคัญก็จริง แต่ร่างกายของเจ้าไม่ไหวแล้วนะ!”
ซ่งหลวนพูดอย่างกระวนกระวายใจ พลางเหลือบมองชายชุดดำที่อยู่ไกลออกไปจากหางตาอีกครั้ง ด้วยความรู้สึกตึงเครียดในใจ
แขนของเขาก็ยังรู้สึกปวดชาไม่หาย
เขาเริ่มมั่นใจแล้วว่า พลังระดับเขาไม่สามารถต่อกรกับอีกฝ่ายได้
พลังปราณของชายผู้นี้ แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมาในชีวิตเลย!
หากปล่อยให้เรื่องมันเลยเถิดไปมากกว่านี้ล่ะก็…
จากนี้พวกเขาทุกคนได้ฉิบหายกันหมดแน่!
และเจียงอวี่เฉิงจะไม่ยอมสละชีวิตตัวเองเพื่อพวกเขาแน่นอน
แต่บัวระบำดอกนี้ก็สำคัญไม่ต่าง!
เพราะเขาต้องการให้ฝ่าบาทฟื้นขึ้นมา!
หากพลาดดอกนี้ไป ก็ไม่รู้คราวหน้าจักต้องรออีกนานเพียงใด กว่ามันจะโผล่ขึ้นมาอีก!
เขาส่ายหน้าเบาๆ
“พลานามัยของฝ่าบาทสำคัญกว่า ขอพวกท่านโปรด…”
ขณะเดียวกัน ชั้นน้ำแข็งในทะเลสาบก็เริ่มแพร่กระจายออกไปเต็มอัตรา
ชายในชุดดำมองลงไป ดวงตาของเขากระตุกเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ
ดูเหมือนใกล้จะได้เวลาแล้วสินะ…
แต่เขาไม่อยากให้คนพวกนี้ เห็นภาพที่กำลังจะเกิดขึ้น
พอคิดได้เช่นนั้น เขาก็เงยหน้ามองกลุ่มของเจียงอวี่เฉิง
ก่อนจะขยับมือเบาๆ แล้วลูกกลมพลังปราณก็ลอยขึ้นมา
ลูกกลมนั้นพุ่งลอยออกไป! และในชั่วพริบตา มันก็แผ่ขยายออก กลายเป็นตาข่ายขนาดใหญ่!
“ถอยเร็ว!”
เจี่ยนชูเย่ตัดสินใจอย่างเด็ดขาดและถอยกลับโดยไม่ลังเล!
แต่ยิ่งพวกเขาเร่งความเร็วมากเท่าไร เจ้าสิ่งนั้นก็ยิ่งตามมาเร็วขึ้นกว่าเดิม!
เพียงพริบตาเดียว พวกเขาก็ถูกตาข่ายนั่นล้อมไว้เสียแล้ว!
พลันตาข่ายสีดำก็ควบแน่นกลับไปเป็นลูกกลมอีกครั้ง ก่อนจะถอยร่นไปทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว!
สายตาของพวกเจียงอวี่เฉิงถูกปิดกั้น และตกอยู่ในความมืดมิดทันที!
…
หลังจากผ่านไปเนิ่นนานจนนับชั่วยามไม่ได้ ในที่สุดความมืดมิดเหล่านั้นสลายไป
พลังปราณโดยรอบหายไปอย่างว่องไว
และสุดท้ายพวกเขาก็สามารถมองเห็นโลกภายนอกได้ดังเดิม แต่กลับกลายเป็นว่าตอนนี้ พวกเขาถูกขับไล่ออกมาจากแดนภังคะเสียแล้ว!
เจี่ยนชูเย่อ้าปากค้าง
“สรุปแล้วเจ้านั่นเป็นใครกันแน่ ถึงทำเรื่องเช่นนี้ได้?”
กว่าพวกเขาจะเดินทางเข้าไปในแดนภังคะได้ ยังต้องเปลี่ยนถ่ายคนขึ้นค่ายกลเคลื่อนย้ายตั้งสองรอบ
แต่ชายชุดดำคนนั้นกลับ ถีบหัวส่งพวกเขาออกมาที่นี่ได้อย่างสบายๆ!?
แม้แต่เจี่ยนชูเย่ก็ยังทำไม่ได้
และความจริงก็แทบไม่มีใครในราชวงศ์เทียนลิ่งทำแบบนี้ได้!
อวี้ฉือซงโพล่งออกทันควัน
“ถึงคนผู้นั้นจะไล่เราออกมา แต่กลับไม่ฆ่าเรา”
แม้ซ่งหลวนและเจียงอวี่เฉิงจะได้รับบาดเจ็บ แต่จนแล้วจนรอด เขาก็ยังไว้ชีวิตพวกเรา
ซ่งหลวนนั้นยังดี แต่เจียงอวี่เฉิงนี่สิ หรือเป็นเพราะก่อนหน้านี้มีประโยดใดไม่เข้าหูเขา อีกฝ่ายถึงลงมือเช่นนั้น
แต่ท้ายที่สุด เขาก็จงใจยอมปล่อยให้อวี้ฉือซงรอดชีวิต
มิเช่นนั้น หากผู้ที่แข็งแกร่งอย่างเขา คิดอยากจะฆ่าเจียงอวี่เฉิงขึ้นมา เขาคงทำไปตั้งนานแล้ว
ซย่าโหวหรงถอนหายใจยาวเหยียด
“โชคดีจริงๆ…”
ใบหน้าของเจียงอวี่เฉิงซีดเผือด ทว่าแววตาของเขากลับมืดมนนัก
โชคดีหรือ?
มันน่าดีใจตรงไหนกัน?
นี่เขาต้องคุกเข่าขอบคุณชายชุดดำที่ทำร้ายเขาปางตาย แต่ไม่ฆ่ากันอย่างนั้นหรือ!?
เกิดมายี่สิบปี ยังไม่เคยรู้สึกสมเพชตัวเองขนาดนี้มาก่อนเลย!
สำหรับคนอื่นอาจจะมองว่าฝ่ายนั้น ยอมรามือปล่อยพวกเขาไปแล้ว เลยวางใจง่ายๆ
แต่เจียงอวี่เฉิงไม่คิดเช่นนั้น
สิ่งนี้จะทำให้เขารู้สึกเสียใจ! โมโห! และเกลียดชัง!
เขาโตมาพร้อมศักดิ์ศรีค้ำคอ ไม่ว่าจะเกิดอันใดขึ้น เขาจะไม่มีวันยอมแพ้
แต่วันนี้เขากลับถูกคู่ต่อสู้บดขยี้เสียจนไม่เหลือชิ้นดี เช่นนี้แล้วจะให้เขาใจเย็นอยู่ได้อย่างใด?
ความจริงแล้วชายชุดดำผู้นั้น ไม่ได้เห็นหัวพวกเรามาตั้งแต่แรกแล้ว!
พอคิดถึงตรงนี้ เขาก็ยิ่งโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ จนกระอักเลือดออกมา
ซ่งหลวนถามออกไปราวไม่แน่ใจ
“ชะ… เช่นนั้นตอนนี้พวกเราจะทำอย่างใดต่อ? องค์ชายใหญ่ เหมือนว่าร่างกายของเจ้าจะไม่ไหวแล้วนะ… ”
และยิ่งได้ยินแบบนั้น เจียงอวี่เฉิงก็ยิ่งโมโหโกรธา
ถึงครั้งก่อนเขาจะทำไม่สำเร็จก็ไม่เป็นไร แต่ครานี้เป็นครั้งที่สองแล้ว อีกทั้งยังพาผู้แข็งแกร่งเหล่านี้มาด้วย แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับไร้ประโยนช์สิ้นดี!
แล้วฝ่าบาทเล่า?
งานอภิเษกสมรสของเขากับซั่งกวนหว่านใกล้เข้ามาทุกที
หากฝ่าบาทยังคงหลับใหลอยู่เช่นนี้…
“เมื่อครู่เจ้าพูดว่า ชายผู้นั้นมาจากหอร้อยโอสถหรือ?”
ทันใดนั้น อวี้ฉือซงก็โพล่งขึ้นมา
…
หลังจากส่งคนเหล่านั้นออกไปแล้ว ชายชุดดำก็ยกเท้าขึ้นและเดินไปข้างหน้า ก่อนจะหยุดยืนนิ่งอยู่หน้าบัวระบำ
เขาก้มศีรษะแล้วหลุบตามองต่ำ ดวงตาที่แต่เดิมเย็นชาและเฉยเมย อ่อนแสงลงราวกำลังละลายชั้นน้ำแข็งที่ห่อหุ้มบัวระบำไว้ ส่งผลให้เกิดระลอกคลื่นความผันผวนในอากาศเล็กน้อย
“ที่เจ้าหายไปพักใหญ่ เป็นเพราะถูกเจ้านั่นรังแกหรือเปล่า?”
เสียงของเขาทุ้มต่ำ พร้อมรอยยิ้มจางๆ ที่ปรากฏตรงมุมปาก
เขาพูดพลางสะบัดแขนเสื้อของตัวเองเบาๆ
ชั้นน้ำแข็งแตกออกทันที
บัวระบำโยกพลิ้วไปตามสายลมอีกครั้ง
ก้านของมันสะท้อนแสงแพรวพราว
แต่เมื่อมองดีๆ แล้ว จะเห็นว่าแท้จริงมันคือเส้นใยที่บางกว่าเส้นผม ที่มารวมตัวกันแล้วพันรอบก้านของมันต่างหาก
ชายชุดดำขยับนิ้วเล็กน้อย
จากนั้นเส้นใยก็แตกกระจายปลิวว่อน พลันตกลงบนฝ่ามือของเขา กระจุกกันเป็นก้อนยุ่งเหยิง
พอมองแบบนี้ ก็แทบมองไม่เห็นเลยว่ามันมีสีเขียว
และจู่ๆ ก็มีเปลวไฟสีทองผุดขึ้นมาในมือเขา!
พลันกระจุกเส้นใยเหล่านั้นก็ถูกเผาทันที!
ชายหนุ่มเอ่ยอย่างเกียจคร้าน
“แค่รังแกฮูหยินของข้าก็เกินพอแล้ว แต่นี่ยังกล้าหลอกหลวงกันอีก ช่างไร้ยางอายเกินคน”
แผ่นน้ำแข็งในทะเลสาบเริ่มแตกสลายทีละน้อย
และก้อนน้ำแข็งเล็กๆ ที่ลอยอยู่บางส่วนเองก็เริ่มละลายอย่างช้าๆ
ผืนน้ำบนทะเลสาบกระจกเปล่งประกายระยิบระยับ ท่ามกลางความสงบเงียบ
แต่ทันใดนั้น ก็มีเสียงคำรามดังขึ้นทำลายความสงบของที่นี่
กรรร์!
เสียงนั่นดังกึกก้องสะท้านทั่วทั้งผืนป่าและขุนเขา และแผ่กระจายออกไปไกลเสียจนจะถึงสรวงสวรรค์!
ชายชุดดำเงยหน้าขึ้น
หึ ดูเหมือนว่าผลลัพธ์จากการฝึกของสัตว์บางตัวในช่วงนี้ จะออกมาน่าประทับใจสุดๆ