ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 807 ความจริงจากปากคนเมา
ตอนที่ 807 ความจริงจากปากคนเมา
แม่เล้าจางและคนอื่นๆ รีบตามไปทันที ก่อนจะมองภาพเบื้องหน้าอย่างกระอักกระอ่วน อยากอยู่ต่อหรือ ก็ไม่ แต่จะให้ทิ้งไปแบบนี้ก็ไม่ได้ พลันรีบเอ่ยกับซย่าโหวถิงอันอย่างกระวนกระวาย
“คุณชายรองเจ้าคะ ทะ ท่าน คือว่า… คุณหนูเจียงที่สี่ ยืนกรานที่จะเข้ามา พวกเราห้ามแล้ว แต่ก็ห้ามไม่อยู่…”
ซย่าโหวถิงอันนวดขมับของเขา สมองของเขายังจับต้นชนปลายไม่ถูก และไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกันแน่
“… อวี่จือ เหตุใดเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่?”
เจียงอวี่จือสั่นสะท้านไปทั้งร่าง ใบหน้าสวยที่แต่เดิมสง่างามบิดเบี้ยวเล็กน้อย
นางยกมือขึ้นชี้หน้าซย่าโหวถิงอันด้วยความโกรธ พลันเอ่ยเสียงเฉียบขาด
“เจ้ายังมีหน้ามาถามข้าว่ามาเหตุใดอีกหรือ? ไม่สำเหนียกตัวเองบ้างเล่าว่าเจ้าทำอันใดลงไปบ้าง!? ซย่าโหวถิงอัน เจ้ายังมียางอายอยู่บ้างหรือไม่!?”
เมื่อได้ยินเจียงอวี่จือเอะอะโวยวายเช่นนั้น ซย่าโหวถิงอันก็พลันรู้สึกไม่พอใจ
ปกติแล้วเขามักจะยอมนางตลอด นางต้องการอันใด เขาก็ทำให้ เมื่อนางอารมณ์เสีย เขาก็ยอมเป็นที่ระบายให้นาง
แต่ตรงนี้มันเป็นที่สาธารณะ การที่นางตวาดด่าทอเขาเช่นนี้ ถือเป็นการไม่ไว้หน้าเขาเลยสักนิด!
เดิมทีซย่าโหวถิงอันก็เมาค้างและไม่สบายตัวอยู่แล้ว แต่สิ่งนี้ทำให้เขาหงุดหงิดมากขึ้น ใบหน้าหล่อฉายแววเย็นชาดุดัน
“โหวกเหวกอันใดของเจ้า! ไม่ได้ดูเลยหรือว่าที่นี่มันที่ไหน!? มันใช่สถานที่ที่เจ้าจะมาโวยวายหรือไม่!?”
อย่างใดเสีย เจียงอวี่จือก็เป็นถึงคุณหนูลำดับสี่ของตระกูลเจียง การที่คุณหนูผู้สูงศักดิ์อย่างนาง มาทำตัวไร้มารยาทเช่นนี้ในหอคอยชุนเฟิงนั้น มีแต่จะทำให้ภาพลักษณ์ของนางดูต่ำลง!
“แล้วข้ามาไม่ได้หรือ? เหตุใด เพราะข้ามาขัดความสุขของเจ้าหรือ!?”
ดูเหมือนเจียงอวี่จือจะเสียสติไปแล้ว นางเถียงเขาฉอดๆ นัยน์ตาของนางแดงก่ำ ใบหน้างามบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ พลางกัดฟันกรอดขณะเอ่ยเถียงเขา!
ซย่าโหวถิงอันหรี่ตาลง พลันเหลือบมองประตู
ไม่นานก็มีคนมามุงดูเหตุการณ์มากขึ้นเรื่อยๆ ราวกับกำลังดูเรื่องน่าขัน
เขาจึงพยายามระงับความโกรธไว้ และพูดว่า
“อวี่จือ เจ้าใจเย็นก่อนเถิด หลังจากปิดประตูแล้วค่อยมาคุยกัน…”
เขาพยายามพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนลง แต่เจียงอวี่จือกลับยิ้มเยาะ เสมือนได้ฟังเรื่องตลก
“ปิดประตูหรือ ให้ข้าปิดประตู เพื่อให้เจ้าเสพสมราคะต่อหรือไร?”
ซย่าโหวถิงอันขมวดคิ้ว
“เพ้อเจ้ออันใดของเจ้า…”
ทว่าพูดยังไม่ทันจบ ก็มีมือนุ่มๆ ของใครบางคนวางลงบนไหล่ของเขา
พร้อมกับเสียงนุ่มรื่นหูของสตรีนางหนึ่งที่ดังมาจากด้านหลัง
“คุณชายรองเจ้าคะ…”
ซย่าโหวถิงอันตกใจจนหันกลับไปมอง!
ก่อนจะเห็นเด็กสาวรุ่นราวสิบห้าสิบหก กำลังกอดผ้าห่มอยู่ข้างกำแพง!
มือข้างหนึ่งของนางจับยึดผ้าห่มไว้แน่น เพื่อปกปิดร่างกายของตน ในขณะที่อีกมือหนึ่งนั้นวางอยู่บนไหล่ของเขาอย่างระมัดระวัง
แขนเรียวขาวอ่อนนุ่มนั้นนวลเนียนดุจรากบัว และมีรอยแดงจางๆ บนกระดูกไหปลาร้าเรียวสวยอยู่ประปราย
สิ่งนั่นคืออะไร แค่มองก็น่าจะรู้อยู่แล้ว!
ซย่าโหวถิงอันตกตะลึง! จนแทบกระโดดลงจากเตียง!
“เจ้าเป็นใคร!?”
ผมสีดำของสาวเจ้ายุ่งเหยิง ทว่ามันกลับขลับให้ร่างเล็กนั่นดูงามน่ามองยิ่งนัก
ผิวพรรณขาวผ่อง ริมฝีปากเล็กแดงเรื่อ รวมทั้งดวงตากลมโตคู่นั้น ที่ยามนี้แพรขนตายาวกำลังสั่นระริก จนคนมองรู้สึกสงสารระคนเอ็นดู
โดยเฉพาะยามที่เห็นว่าดวงตากลมยังคงเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา ซึ่งทำให้ผู้มองลังเลจนพูดไม่ออก
เมื่อได้ยินเช่นนี้ นางก็เบิกตากว้างราวไม่อยากจะเชื่อ กายบางสั่นเล็กน้อย ธารน้ำใสสองสายไหลลงมาบนใบหน้าสวยของนาง
“… คุณชายรองเจ้าคะ เมื่อวาน… ข้าน้อยเพียงเช็ดตัวให้ท่าน เพราะอยากให้ท่านนอนหลับสบาย ตะ แต่ท่านกลับจับมือข้าน้อยไม่ปล่อย… แล้ว… จากนั้นก็…”
นางกัดริมฝีปากแน่น ทั้งละอายใจและโกรธเคือง พลางก้มหน้าลงต่ำไม่พูดต่อ และเอาแต่ปล่อยให้น้ำตาไหลลงมา
แต่ถึงนางจะไม่พูด ทุกคนก็เดาได้อยู่แล้วว่าเกิดอันใดขึ้น
เมื่อเห็นท่าทางเศร้าโศกและน่าสมเพชของเด็กสาว ซย่าโหวถิงอันก็จำต้องกลืนคำตำหนิเหล่านั้นลงไป ตอนนี้เขาพูดอันใดไม่ออกแล้ว
จิตใจของเขากระสับกระส่ายไปหมด
ไม่แปลกตอนเจียงอวี่จือพุ่งเข้ามา นางจะมีปฏิกิริยาเช่นนั้น และไม่แปลกใจที่นางพูดจารุนแรงใส่เขา…
ตอนแรกเขาคิดว่า เป็นเพราะตัวเองเมาค้างในหอคอยชุนเฟิง แต่กลับกลายเป็นว่า…
แต่เหตุใดเขาจำอันใดไม่ได้เลย!
ซย่าโหวถิงอันหันศีรษะไปมองเจียงอวี่จือด้วยความตื่นตระหนก
“อวี่จือ เจ้าฟังข้าอธิบายก่อนนะ มันไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิด…”
เจียงอวี่จือมองไปที่เขาและสาวน้อยบนเตียงด้วยสีหน้าโกรธเคือง
“แล้วเจ้าว่าข้าคิดเช่นไร? ความจริงก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าแล้วมิใช่หรือ ยังจะให้ข้าคิดเช่นไรอีก!? ซย่าโหวถิงอัน ขนาดเรายังไม่ได้แต่งงานกัน! เจ้าก็กล้าเล่นชู้นอกบ้านแล้วอย่างนั้นหรือ! ข้าผิดหวังในตัวเจ้ามาก!”
เหตุผลที่เจียงอวี่จือชื่นชอบในตัวซย่าโหวถิงอันมากๆ เป็นเพราะนิสัยอ่อนโยนและสงบเสงี่ยมวางตัวดีของเขา เขาไม่เคยเป็นเหมือนคนเหล่านั้นในเมืองซีหลิง ที่วันๆ เอาแต่เคล้าสุรานารี และทั้งโง่เขลาไร้ความสามารถ
ทว่าตอนนี้น่ะหรือ?
ไม่นานเรื่องนี้จักแพร่กระจายไปทั่วเมืองซีหลิงเป็นแน่!
เมื่อเห็นท่าทางเดือดพล่านของเจียงอวี่จือ ซย่าโหวถิงอันก็รู้ทันทีว่านางกำลังโกรธ ดังนั้นเขาจึงรีบสวมเสื้อผ้าแล้วเดินไปหานาง
“อวี่จือ เจ้าช่วยฟังข้าอธิบายก่อนเถิดนะ…”
เพี้ยะ!
แต่ขณะที่มือของเขากำลังสัมผัสตัวเจียงอวี่จือ นางก็ปัดมือเขาออกทันที!
“อย่าได้มาจับมือข้า!”
ใบหน้าของเจียงอวี่จือแดงก่ำ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดทีละคำ
“ซย่าโหวถิงอัน ทั้งข้า และชื่อเสียงตระกูลเจียงของข้า ต้องอับอายขายขี้หน้าเพราะการกระทำของเจ้า! ถ้าเจ้าชอบทำอันใดเช่นนี้นัก เจ้าก็ทำไปเลย! การแต่งงานในครั้งนี้…ข้าขอยกเลิก!”
ใบหน้าของซย่าโหวถิงอันร้อน ราวกับถูกตบหน้ากลางสาธารณชนถึงสองครั้ง
ปกติเขาสามารถทนนิสัยดื้อรั้นเอาแต่ใจของเจียงอวี่จือได้
ให้รับผิดแทนเขาก็ทำ ให้ร้องขอความเมตตาเขาก็ยอม
ขอเพียงสามารถเกลี้ยกล่อมให้นางอยู่ในโอวาทได้ ไม่ว่าอันใดเขาก็ยอมทำ
แต่การที่นางพูดเช่นนี้ต่อหน้าสาธารณชนนั้น ไม่ต่างจากการฉีกหน้าเขาแล้วกระทืบซ้ำเลย!
นี่นางใช้เรื่องงานสมรสมาบีบเขาใช่หรือไม่?
ทันใดนั้น ความแค้นในใจที่สั่งสมมานานของซย่าโหวถิงอัน ก็ระเบิดออกมาทันที!
สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นเย็นชาอย่างรวดเร็ว พลันโพล่งออกมาโดยไม่คิด
“ยกเลิกก็ยกเลิก! เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าหรือไร! ข้าทนกับเจ้ามามากเกินพอแล้ว!”
สิ้นเสียงตวาดกร้าว ทั่วทั้งห้องก็ถึงกับเงียบกริบ
เจียงอวี่จือตกตะลึง ใบหน้าของนางซีดเผือด
นางแค่ต้องการระบายความโกรธในใจ และเผลอพลั้งปากยกเลิกงานมงคลไป เพียงเพราะอารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น
เพราะนางรู้ว่าซย่าโหวถิงอัน กลัวว่านางจะพูดเช่นนั้นมากที่สุด
เดิมทีนางแค่ต้องการขู่เขา แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะตอบกลับมาตรงๆ เช่นนี้!
แล้วเขายัง พูดว่าอันใดอีกนะ?
ทันใดนั้น เจียงอวี่จือก็รู้สึกราวกับหัวใจสลาย
ร่างของนางซวนเซไปมาและเกือบจะล้มลงกับพื้น
แต่ก็มีคนเข้ามาพยุงนางจากด้านหลัง และพูดเบาๆ
“คุณหนูสี่ ท่านไม่เป็นไรนะเจ้าคะ?”
เจียงอวี่จือมองย้อนกลับไปด้วยความงุนงง ก่อนจะเห็นใบหน้าที่สวยงามเคลื่อนเข้าสู่สายตา
สุ่ยหลิวเอ๋อร์
เจียงอวี่จือผลักอีกฝ่ายออกไปทันทีด้วยความรังเกียจ
หอคอยชุนเฟิงนี้มีแต่สิ่งโสมม!
แหล่งซ่องสุมของโสเภณีชั้นต่ำ!
แต่ดูเหมือนสุ่ยหลิวเอ๋อร์จะไม่สนใจ นางแค่ยิ้มและมองไปที่ซย่าโหวถิงอัน
“ดูเหมือนคุณชายรองจะยังไม่สร่างจากฤทธิ์ของสุราเมื่อวานนะเจ้าคะ และท่านอาจไม่รู้ว่าความจริงจากปากคนเมานั้น คือสิ่งที่ทำร้ายจิตใจคนได้มากที่สุด?”
เจียงอวี่จือเจ็บแปลบอีกคราประหนึ่งถูกมีดแทงทะลุอก
ความจริงจากปากคนเมา!
สิ่งที่ซย่าโหวถิงอันพูดล้วนมาจากใจของเขาหรือนี่!?