ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 808 พบกันอีกครั้ง
ตอนที่ 808 พบกันอีกครั้ง
ที่ด้านนอกประตู มีสายตาหลายคู่กำลังจ้องมองพวกเขาอยู่
เจียงอวี่จือรู้สึกราวกลับมีหนามทิ่มแทงอยู่กลางหลัง นางไม่เคยรู้สึกขายหน้าขนาดนี้มาก่อน!
นางจ้องซย่าโหวถิงอันตาเขม็ง ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ ทุกคำพูดที่เอ่ยออกมานั้น ผ่านราวกับขบเคี้ยวเขี้ยวฟันอย่างโกรธแค้น
“เจ้าพูดเองนะ ซย่าโหวถิงอัน! แล้วอย่ามาเสียใจทีหลังก็แล้วกัน!”
หลังจากพูดจบ นางก็หันหลังกลับและย่ำเท้าออกไปนอกห้องทันที!
ทุกคนหลีกทางให้นางอย่างรวดเร็ว
และเพียงพริบตา เงาของเจียงอวี่จือก็หายลับไปจากหอคอยชุนเฟิง
ทุกคนล้วนเงียบไม่พูดไม่จากันอยู่นาน
สุ่ยหลิวเอ๋อร์กระตุกยิ้มราวคิดไม่ถึง
เพราะมันดีกว่าที่นางคาดไว้เสียอีก
นางส่งข่าวให้เจียงอวี่จือเพื่อหลอกล่อให้อีกฝ่ายวิ่งแจ้นมาที่นี่ เดิมทีนางต้องการให้พวกเขาทะเลาะกัน จนเผลอหลุดเรื่องโอสถเก้าสวรรค์ฟื้นคืนออกมา
แต่คิดไม่ถึงว่าจู่ๆ พวกเขาก็ยกเลิกงานสมรสเช่นนี้?
ส่งผลให้ตอนนี้คนตระกูลซย่าโหวไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องนี้แล้ว
ทว่าหากพวกเขายังต้องการเป็นทองแผ่นเดียวกันกับตระกูลเจียง นอกจากยกเรื่องโอสถเก้าสวรรค์ฟื้นคืนมาต่อรอง ก็เกรงว่าพวกเขาจะไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว
เช่นนี้ก็ยิ่งเข้าทางนางเลย
สุ่ยหลิวเอ๋อร์หันกลับไปมองซย่าโหวถิงอัน
เขายังยืนอยู่ที่เดิม พร้อมใบหน้าที่ดูซีดเซียว และสีหน้าที่ดูซับซ้อนมาก
สุราขวดนี้ ช่างคุ้มค่าเสียจริง
“คุณชายรอง ดูเหมือนคุณหนูเจียงที่สี่จะเสียใจมากเลยนะเจ้าคะ ท่านจะไม่ตามไปง้อนางหน่อยหรือ?”
สุ่ยหลิวเอ๋อร์ทำทีเกลี้ยกล่อมด้วยความเข้าใจ
แต่แล้วความกังวลที่เกิดขึ้นในใจของซย่าโหวถิงอัน ก็พลันหายไปทันที
เขาตอบกลับเสียงแข็ง
“นางจะไปไหนก็เรื่องของนาง เกี่ยวอันใดกับข้ากัน!?”
ชั่วขณะหนึ่ง สีหน้าของสุ่ยหลิวเอ๋อร์เปลี่ยนไป ก่อนจะทำทีหัวเราะพลางเอ่ย
“เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ… ย่อมเป็นไปตามที่ท่านกล่าวมา เช่นนั้น… เหล่าข้าน้อยขอตัวลา และหากต้องการสิ่งใด ท่านสามารถเรียกพนักงานได้ทุกเมื่อเจ้าค่ะ”
พอพูดจบ นางก็หันกลับไปยิ้มให้คนอื่นๆ
“พวกเจ้าไปได้แล้ว!”
เพียงเท่านี้ทุกคนก็กลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง
แต่ในเมื่อเจอหัวข้อสนทนาใหม่ที่ร้อนแรงแบบนี้ ใครมันจะอดใจไม่ซุบซิบนินทาได้กัน?
อีกไม่นานละครน้ำเน่าในหอคอยชุนเฟิงเรื่องนี้ ก็จะแพร่กระจายไปทั่วเมืองซีหลิง!
สุ่ยหลิวเอ๋อร์โบกมือให้เด็กสาวในห้อง
“เสี่ยวเตี๋ย มานี่สิ”
เด็กสาวผู้มีนามว่าเสี่ยวเตี๋ย กัดฟันแน่น แล้วค่อยๆ ลุกขึ้นมาใส่เสื้อผ้าเงียบๆ
เมื่อเดินมาหยุดอยู่ข้างซย่าโหวถิงอัน นางก็ค่อมตัวลงแล้วหลุบตามองต่ำ
เธออวยพรร่างกายของเธอ ลดคิ้วของเธอและมองตา
“เหตุการณ์ในวันนี้เป็นเพราะเสี่ยวเตี๋ยผู้เดียว ไม่ใช่ความผิดใครอื่นเลยเจ้าค่ะ”
ซย่าโหวถิงอันเองก็รู้ดีว่าเรื่องนี้ ตนเองก็มีส่วนผิดอยู่มาก และไม่แปลกที่เด็กสาวตัวเล็กๆ จะหัวเสีย ยิ่งได้ยินสิ่งที่นางพูด เขาก็ยิ่งรู้สึกสมเพชตัวเองในใจ
เสี่ยวเตี๋ยพูดต่อ
“คุณชายรองและคุณหนูเจียงที่สี่นั้นเป็นคู่สร้างคู่สมที่สวรรค์สร้างมาให้ครองคู่ แต่กลับถูกคนอย่างเสี่ยวเตี๋ยทำลายความสัมพันธ์ของพวกท่าน เป็นเสี่ยวเตี๋ยเองที่ไม่หักห้ามใจ และเสี่ยวเตี๋ยยินดีไปที่จวนตระกูลเจียงเพื่อสารภาพผิด… ขอเพียงคุณหนูเจียงที่สี่ให้อภัย จะให้เสี่ยวเตี๋ยทำอันใดก็ยอมเจ้าค่ะ”
เมื่อเห็นอีกฝ่ายยอมผ่อนปรนให้กันขนาดนี้ ซย่าโหวถิงอันก็ยิ่งไม่สบายใจ
และพอนึกถึงความเย่อหยิ่งและอวดดีของเจียงอวี่จือเมื่อครู่ก่อน เขาก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมาอีกครั้ง
นี่ขนาดยังไม่แต่งนะ!
ถ้าแต่งกันไปไม่รู้อนาคตจะเกิดอันใดขึ้น!
“เจ้าจะไปจวนตระกูลเจียงเหตุใด!? อยู่ที่นี่แล้วรอเงียบๆ ก็พอ!”
ซย่าโหวถิงอันครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วหยิบแหวนเฉียนคุนออกมา
“ตั้งแต่วันนี้เจ้าจะต้องไปอยู่กับข้า แต่เจ้าไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในจวนซย่าโหว ข้าจะให้คนหาเรือนเล็กๆ ให้เจ้า จากนั้น เจ้าก็จะเข้าไปอยู่นั่น”
เสี่ยวเตี๋ยตกใจระคนยินดียิ่ง นางคุกเข่าลงทันที ทว่าไม่กล้าแม้แต่จะตอบกลับไป
แต่ซย่าโหวถิงอันยังยืนยันคำเดิม เขาโยนแหวนเฉียนคุนให้นางแล้วเดินออกไปอย่างเร็ว
เขาต้องรีบกลับไปอธิบายเรื่องนี้ให้ท่านพ่อฟังโดยเร็ว!
ว่าจะเขาไม่แต่งงานแล้ว!
หลังจากที่ซย่าโหวถิงอันจากไป สุ่ยหลิวเอ๋อร์ก็เดินไปข้างหน้าแล้วพยุงเสี่ยวเตี๋ยขึ้นมา พลางยิ้มกริ่ม
“ลำบากเจ้าแล้ว เสี่ยวเตี๋ย”
เสี่ยวเตี๋ยยืนขึ้น ดวงตาคู่สวยฉายแววแน่วแน่ดุดัน เสียจนน่าฉงนว่าความอ่อนโยนเมื่อครู่ก่อนนั้นหายไปไหนกัน?
“คุณหนูหลิวเอ๋อร์มิต้องกังวลเจ้าค่ะ ซย่าโหวถิงอันผู้นั้นมิได้เอาเปรียบข้า”
นางเองก็ไม่อยากเสียสละตัวเองขนาดนั้น
สุ่ยหลิวเอ๋อร์หัวเราะและพูดว่า
“ข้าเข้าใจในส่วนของเจ้าดี เพียงแต่ หลังจากนี้ข้าคงต้องรบกวนเจ้ามากกว่าเดิม”
เสี่ยวเตี๋ยตัดสินใจ
“เพื่อฝ่าบาท ข้าจะฝ่าไฟและน้ำ ข้าจะไม่ลังเล!”
“เพื่อองค์หญิงใหญ่แล้ว ต่อให้บุกน้ำลุยไฟ ข้าก็จะทำเจ้าค่ะ!”
…
ละครปาหี่ที่เกิดขึ้นในหอคอยชุนเฟิงแพร่กระจายไปทั่วซีหลิงอย่างรวดเร็ว
เมื่อซย่าโหวถิงอันกลับมาที่จวน เขาก็พบกับบรรยากาศขมุกขมัว
คนรับใช้ทั้งหมดยืนตัวสั่นมองเขาด้วยสีหน้าแปลกๆ
พอเห็นแบบนี้แล้ว ซย่าโหวถิงอันก็รู้ได้ทันทีว่า ครอบครัวของเขาคงรู้เรื่องข่าวนั่นแล้ว
ซึ่งเขาเองก็อยากรู้เหมือนกันว่า มีอันใดรอเขาอยู่
ทว่าเขาตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่า เขาจะไม่ยอมอ่อนข้อให้พวกตระกูลเจียงเด็ดขาด!
งานสมรสนี่ ต่อให้เจียงอวี่จือยินดีจะไปต่อ แต่เขาไม่เอาด้วยแล้ว!
“เจ้ายังมีหน้ากลับมาอีกหรือ!”
แต่ยังไม่ทันที่ซย่าโหวถิงอันจะได้ขยับไปไหน สายตาก็เหลือบไปเห็นซย่าโหวหรงที่กำลังเดือดดาล ย้ำเท้าเข้ามาหาเขาอย่างเร็วไว
หัวใจของเขากระตุกวูบ พลันรีบอ้าปากเพื่ออธิบาย
“ท่านพ่อ ท่านฟังข้า…”
เพี้ยะ!
ซย่าโหวหรงฟาดมือลงบนใบหน้าของบุตรชายฉาดใหญ่!
ซย่าโหวถิงอันซวนเซแล้วล้มลงกับพื้น
“เจ้าทำให้ข้าโกรธมาก!”
ซย่าโหวหรงโกรธจนเลือดขึ้นหน้า หน้าอกของเขาสั่นอย่างรุนแรง
ไอ้ลูกเวรนี่!
เขาคว้าคอเสื้อของซย่าโหวถิงอันแล้วลากเข้าไปในห้องทรงงาน!
ซย่าโหวถิงอันอ้าปากพะงาบๆ ราวต้องการชี้แจง แต่เพราะถูกกำคอเสื้อไว้แน่น เขาจึงพูดไม่ออก ชายหนุ่มหายใจลำบาก ใบหน้าแดงก่ำ
โครม!
ซย่าโหวหรงโยนเข้าลงบนพื้น!
ซย่าโหวถิงอันเจ็บเหมือนกระดูกจะหัก
“ท่านพ่อ ข้า——”
“เจ้ามันน่าผิดหวังสิ้นดี!”
ซย่าโหวหรงชี้นิ้วสั่นๆ ไปยังปลายจมูกของเขา แล้วด่าทออย่างแรง
“จงรู้ไว้เสียว่าเพราะเจ้า ครั้งนี้เราถึงต้องยกโอสถเก้าสวรรค์ฟื้นคืนให้คนอื่น! เหตุใดข้าถึงให้กำเนิดลูกชายที่ไร้ประโยชน์อย่างเจ้ากัน!?”
…
ณ ป่าหมอกมายา
วันเวลาผ่านไปแต่ละวัน
แต่ก็ยังไร้วี่แววของการเปลี่ยนแปลงภายในป่าลึก
หลังจากที่วันนั้นเชียงหว่านโจวบอกว่าฉู่หลิวเยว่ใกล้จะออกมาแล้ว ทุกคนก็ล้วนตั้งหน้าตั้งตารอด้วยความยินดี
แต่สุดท้ายแล้ว หลังจากรอแล้วรออีก นางก็ยังไม่ออกมา
พวกเขาจึงทำได้เพียงรอต่อไป
อย่างใดก็ตาม ในช่วงที่รอพวกของมู่หงอวี่ทั้งสามคนก็ไม่ลืมที่จะฝึกฝน และด้วยคำแนะนำฉินอีกับพี่เหลยสี่ ทักษะของพวกเขาก็ก้าวหน้าขึ้นอย่างมาก
โดยเฉพาะเชียงหว่านโจวที่เห็นการพัฒนาชัดเจนที่สุด
เดิมทีฉินอีอยากเห็นตราประทับในร่างกายของเขาอีกครั้ง แต่หลังจากวันนั้น มันก็ไม่ปรากฏอีกเลย
แม้ว่าเขาจะรู้สึกเสียใจเล็กน้อย แต่ฉินอีก็ยืนยันว่าจะเขาจะไปบังคับเชียงหว่านโจวให้แสดงมันออกมา
ไว้รอให้องค์หญิงใหญ่เสด็จออกได้ ค่อยพูดเรื่องนี้กันอีกทีก็ยังไม่สาย
เพราะสุดท้ายเชียงหว่านโจวย่อมเชื่อฟังคำสั่งของนาง
รอหลังจากจัดการทุกสิ่งที่นี่เสร็จเมื่อไร ค่อยแก้ปัญหาเหล่านี้ทีละเล็กทีละน้อยจะดีกว่า
…
ในตอนกลางคืน ค่ำคืนแห่งรัตติกาลนั้นมืดสนิทและเงียบสงบ พระจันทร์เต็มดวงลอยเด่นพร้อมส่องแสงเรืองรองอยู่บนท้องนภายามราตรี
และไม่นาน จันทราสีนวลก็ถูกย้อมเป็นสีแดงฉานทีละน้อย!
เกิดเสียงดังกรอบแกรบเหนือพื้นทะเลทราย
“ถึงเวลาที่รอคอยแล้ว…ถ้าครานี้ยังไม่ได้พบนังหนูอีกละก็ เกรงว่าข้าคงแกขึ้นกว่าเดิมเป็นแน่…”
เสียงของหลานเซียวยังคงฟังดูรื่นรมย์
“พวกเรารีบไปกันเถอะ… เอ๋? ลำดับห้า พี่เป่าเล่า?”
“ข้าก็ไม่รู้… เมื่อครู่เขายังอยู่ตรงนี้อยู่เลย…”
แต่จู่ๆ หลานเซียวก็ขึ้นมาได้ พลันกรีดร้อง
“… เจ้านั่นวิ่งไปก่อนแล้วแน่เลย! ไอ้เจ้าเด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม!”
…
ที่ใต้ดิน
บริเวณด้านหน้าของฉู่หลิวเยว่ พลังของสายโลหิตในโครงกระดูกครึ่งหนึ่ง ถูกทำให้หลอมหลวมเข้ากันและควบแน่นเป็นไข่มุกโลหิต!
และร่างของอินทรีสามตา ก็เปลี่ยนรูปแปลงรูปลักษณ์ไปแล้วเกือบครึ่ง!
ดวงตาของฉู่หลิวเยว่จับจ้องอย่างไม่ลดละ หัวใจของนางบีบแน่นราวถูกบางอย่างจับยึดไว้อย่างแน่นหนา
แต่ขณะที่นางกำลังจะลงมือในขั้นตอนถัดไป จู่ๆ ก็มีเสียงเหมือนทารกดังเข้ามาในหูของนาง
“นังหนูเยว่เออร์!”
หัวใจของฉู่หลิวเยว่เต้นไม่เป็นจังหวะ เสียงนั่นอีกแล้ว!
นางเงยหน้าขึ้นทันที!