ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 813 สำเร็จ
ตอนที่ 813 สำเร็จ
พิธีสมรสระหว่างซย่าโหวถิงอันและเจียงอวี่จือ ได้พังทลายลงเสียแล้ว
หอคอยชุนเฟิงได้เกิดความโกลาหลขึ้น ซย่าโหวถิงอันถูกขับไล่ออกจากจวนไป ส่วนเจียงอวี่จือนั้นกลับถูกหมั้นหมายกับซย่าโหวอวี้ซู่ คุณชายสามแห่งตระกูลซย่าโหวแทน
เรื่องราวได้บานปลายไปไกลจนเหนือความคาดหมายของทุกคน อีกทั้งยังทำให้ผู้คนในเมืองซีหลิงที่กำลังรอดูเรื่องตลกของทั้งสองตระกูลล้วนต่างมึนงงไปตามๆ กัน
ช่างน่าแปลก เรื่องราวมาถึงขนาดนี้แล้ว เหตุใดตระกูลเจียงกับตระกูลซย่าโหวถึงยังจะเกี่ยวดองกันอีกล่ะ!?
ถ้าหากว่าเป็นตระกูลธรรมดาทั่วไป บางทีอาจจะมองหน้ากันไม่ติดแล้วด้วยซ้ำ
แม้ว่าทั้งสองตระกูลนี้ต่างมีอิทธิพลและอำนาจเป็นระดับต้นๆ ไม่ว่าจะทำอันใด ก็จักต้องพิจารณาปัจจัยแต่ละด้านอย่างละเอียด แต่คงไม่ถึงกับขนาดนี้หรอกกระมัง?
จะบอกว่าเป็นเจียงอวี่จือเอง ที่ต้องการเจาะจงไปเลือกคนตระกูลซย่าโหวโดยเฉพาะ!?
หรือว่าเป็นคนตระกูลซย่าโหว ที่รั้งเจียงอวี่จือไว้ไม่ยอมปล่อยไป?
บุคคลภายนอกนั้นไม่มีทางรู้ได้ และทำได้เพียงแค่พูดคุยกันอย่างสนุกปากเวลาว่างหลังอาหารเท่านั้น
…
แต่ไม่ว่าใครจะพูดอันใด พวกเขาต่างก็รู้ดีว่าคนที่เสียเปรียบ และต้องทนทุกข์ทรมานมากที่สุด ก็คือซย่าโหวถิงอัน
เจียงอวี่จือเป็นน้องสาวทางสายเลือดของเจียงอวี่เฉิง ใครบ้างจะไม่อยากสานสัมพันธ์กับพวกเขากัน?
แม้แต่จวนซย่าโหวก็ไม่เว้น
ซย่าโหวหรงนั้นเป็นถึงราชครู เมื่อก่อนเขาจึงไม่จำเป็นต้องให้ความสนใจกับเรื่องราวเหล่านี้มากนัก
แต่ตอนนี้ฝ่าบาทยังคงสลบไสลไม่ได้สติมาเกือบสองปี อำนาจเกือบทั้งหมดจึงตกอยู่ในมือของซั่งกวนหว่านและเจียงอวี่เฉิง
ในบรรดากลุ่มคนหนุ่มสาวแห่งจวนซย่าโหว อัจฉริยะฝึกหัดกลับไม่มีความโดดเด่นอันใด
พวกเขาจึงยิ่งต้องสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับตระกูลเจียง
และการแต่งงานคือสิ่งที่ดีที่สุด
เมื่อก่อนที่ซย่าโหวถิงอันไปไหนมาไหนกับเจียงอวี่จือ ผู้คนล้วนคิดว่าคงใกล้จะมีข่าวดี และทุกคนต่างเกรงใจต่อจวนซย่าโหวยิ่งขึ้น
และสถานภาพของซย่าโหวถิงอัน ก็เพิ่มขึ้นตามกระแสเช่นกัน
และเพียงชั่วข้ามคืนที่ซย่าโหวถิงอันได้ถูกขับไล่ออกจากจวนซย่าโหว และคุณชายสามของตระกูลซย่าโหว กลับได้ขึ้นมาครองตำแหน่งอย่างเงียบๆ
ยังจะมีผลประโยชน์อันใดที่ซย่าโหวถิงอันสามารถเก็บเกี่ยวได้อีกบ้าง?
ทุกคนต่างคิดว่าซย่าโหวถิงอันได้เสียสติไปแล้ว
…
“คุณชายรองเจ้าคะ”
ณ เรือนหลังหนึ่งภายในเมืองซีหลิง ซย่าโหวถิงอันเอนกายนอนอยู่บนเตียงในห้อง ใบหน้าและร่างกายของเขาเต็มไปด้วยรอยบาดแผล ใบหน้าเดิมที่หล่อเหลานั้น ตอนนี้แทบจะบวมเปล่งเป็นก้อนกลมๆ
เสี่ยวเตี๋ยเดินเข้ามาพร้อมจานที่ประคองไว้ ในนั้นประกอบไปด้วยขวดหยกและผ้าพันแผลต่างๆ
“คุณชายรอง ให้ข้าเปลี่ยนยาให้ท่านเถิด”
เสี่ยวเตี๋ยนั่งลงข้างเตียง คิ้วเรียวคู่หนึ่งขมวดกันเล็กน้อยบนใบหน้าอันมีเสน่ห์ของนาง ราวกับว่านางเป็นห่วงเขายิ่งนัก
เดิมทีซย่าโหวถิงอันไม่ต้องการให้ใครมาพบเจอเขาในสภาพเช่นนี้ แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ต้องการคนที่ดูแลเขาจริงๆ
เขาจับมือเสี่ยวเตี๋ยแล้วพูดออกไปตามความรู้สึก
“เสี่ยวเตี๋ย ตอนนี้ข้าเห็นชัดแล้วว่า เจ้าเป็นคนเดียวที่ปฏิบัติต่อข้าด้วยความจริงใจ”
หลังจากที่เขาถูกไล่ออกจากจวนซย่าโหว เขาก็ไม่มีที่ไป เขาวางแผนที่จะไปพักที่บ้านสหายบางคนชั่วคราว แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครเปิดประตูต้อนรับเขาสักคน
เขาไปที่หอคอยชุนเฟิงด้วยความสิ้นหวัง
ผู้คนจากหอคอยชุนเฟิงได้บอกที่อยู่ของเสี่ยวเตี๋ยให้กับเขา และเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องมาที่นี่
และคิดไม่ถึงว่า เสี่ยวเตี๋ยนั้นไม่ได้รังเกียจรูปร่างหน้าตาของเขาเลยแม้แต่น้อย แต่กลับดูแลเขาด้วยหัวใจอย่างสุดความสามารถ
แต่เพื่อนเก่าเหล่านั้นกลับไม่มีใครมาเยี่ยมเลยสักคน
ซย่าโหวถิงอัน รู้สึกว่าเขามีประสบการณ์กับความรู้สึกผ่านร้อนผ่านหนาวมามากพอแล้ว
เสี่ยวเตี๋ยยิ้มเล็กน้อย
“นี่เป็นสิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยควรจะทำ คุณชายรองอย่าได้รังเกียจเสี่ยวเตี๋ยเลย”
ขณะพูด นางก็ค่อยๆ ดึงมือออกมาหยิบขวดยาอย่างใจเย็น
“อาการบาดเจ็บบนร่างกายของท่านดีขึ้นมากแล้ว หากพักฟื้นอีกสักหน่อยคงจะหายสนิทเจ้าค่ะ”
ซย่าโหวถิงอันกลับไม่ได้สนใจการเคลื่อนไหวของนาง ได้แต่พยักหน้าเบาๆ
อาการบาดเจ็บบนร่างกายของเขาดูค่อนข้างสาหัส แต่อันที่จริงซย่าโหวหรงไม่ได้ต้องการที่จะฆ่าเขา
อย่างใดพวกเขาก็เป็นพ่อลูกกัน
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ดวงตาของซย่าโหวถิงอันเต็มไปความเศร้าโศก
ไม่กี่วันมานี้ จิตใจเขาเริ่มสงบลง และรู้สึกว่าตนเองนั้นใจร้อนเกินไป
แต่เขาไม่อยากยอมรับความผิดนี้
เพราะเขาไม่อยากจะทนกับเจียงอวี่จือและไม่อยากรู้สึกอึดอัดใจอีกต่อไป
เสี่ยวเตี๋ยถอนหายใจเบาๆ และได้แนะนำว่า
“คุณชายรองเจ้าคะ การที่ท่านออกมาอาศัยอยู่ข้างนอกนั้น มันไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหา ท่านราชครูเป็นบิดาผู้ให้กำเนิดแก่ท่าน ทำให้กระดูกที่หักนี้เชื่อมต่อกับเส้นเอ็นเป็นกายนี้ขึ้นมา! เมื่อท่านฟื้นตัวดีขึ้นเมื่อไรกลับไปยอมรับผิดแก่ท่านราชครูเถิดนะ เจ้าคะ?”
ซย่าโหวถิงอันไม่ได้พูดอันใด
ก่อนจะพูดออกไป เขาต้องปฏิเสธมันอย่างแน่นอน
แต่ในช่วงไม่กี่วันมานี้ เขาตระหนักได้ว่าหากไม่มีตระกูลซย่าโหวที่คอยสนับสนุน เขาคงจะรู้สึกอึดอัดใจไปจนตายแน่นอน
และเขายังไม่อยากสูญเสียทุกสิ่งที่เขาเคยเป็นเจ้าของ เพียงเพราะเจียงอวี่จือ
เสี่ยวเตี๋ยหยุดชะงักและกล่าวโดยไม่ได้ตั้งใจ
“ท่านอย่าได้เป็นกังวล วันนี้ข้าน้อยได้ยินคนข้างนอกพูดว่า คุณชายสามได้หมั้นหมายกับคุณหนูเจียงที่สี่แล้ว และคงจะสมรสกันอีกในไม่ช้านี้…”
“อันใดนะ!?”
ซย่าโหวถิงอันเบิกตากว้าง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกสุดแสนจะเหลือเชื่อ
เจียงอวี่จือที่ชอบซย่าโหวถิงอันมาโดยตลอด ถึงคราวที่ลูกนางสนมผู้ต่ำต้อยนั้นได้เข้ามาแทนที่เขาตั้งแต่เมื่อไรกัน! ?
ในบรรดาพี่น้องร่วมตระกูลซย่าโหว คนที่เขาเกลียดที่สุดก็คือ ซย่าโหวอวี้ซู่!
เวลาเพียงไม่กี่วัน นึกไม่ถึงว่ามีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้น! ?
เสี่ยวเตี๋ยปิดปากด้วยความตกใจ
“นะ… นี่… ท่านไม่ดีใจหรือ?”
ซย่าโหวถิงอันก็ไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเขานั้นรู้สึกอย่างใด
เจียงอวี่จือสามารถแต่งงานกับใครก็ได้ แต่ไม่ใช่กับคนในตระกูลซย่าโหวนี้!
เรื่องนี้มันจะพาเขาจบที่ไหนกันแน่! ?
ซย่าโหวถิงอันกำหมัดแน่น และสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
ที่ท่านพ่อทำเช่นนี้ เพื่อวางแผนที่จะทิ้งตำแหน่งไว้ให้ซย่าโหวอวี้ซู่ล่ะสิ!?
ซย่าโหวถิงอันนั้นเป็นคนที่โปรดปรานที่สุดเสมอมา ทุกสิ่งทุกอย่างจึงได้มาง่ายเกินไป
จนกระทั่ง ได้มารู้ว่าของเดิมที่เคยเป็นของเขา กลับถูกคนอื่นกำลังจะแย่งไป ภายในใจยิ่งไม่มีทางที่จะยอมรับมันได้
“เรื่องนี้มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไร?”
ซย่าโหวถิงอันถามด้วยความเศร้าหมอง
เสี่ยวเตี๋ยถอยหลังไปครึ่งก้าวด้วยความประหม่า และพูดอย่างลังเลว่า
“ดู… ดูเหมือนว่าจะเป็นวันนั้น หลังจากที่ท่านได้ออกจากจวนซย่าโหวไป… นอกจากนี้ ยังมีข่าวลือว่าจวนซย่าโหวได้แสดงความเสียใจและสินสอดทองหมั้นเจ้าสาวมากมายยิ่งนัก…”
คิ้วของซย่าโหวถิงอันกระตุกอย่างรุนแรง!
…โอสถเก้าสวรรค์ฟื้นคืน!
พวกเขาคงวางแผนที่จะนำเจ้าสิ่งนี้คืน!
ในใจของซย่าโหวถิงอันยิ่งรู้สึกเกลียดชัง
เดิมทีเขาวางแผนที่จะเก็บสิ่งนั้นไว้สำหรับตัวเอง!
ตลอดเวลาที่ผ่านมา พรสวรรค์ในการฝึกหัดของเขานั้นไม่มีอันใดพิเศษเลย
ด้วยเหตุนี้ ผู้คนในจวนซย่าโหวจึงไม่ค่อยพอใจเขาทั้งต่อหน้าและลับหลัง
เขารอคอยมานานและอดทนต่อความอึดอัดใจที่มากมายนี้ เพียงเพื่อโอสถเก้าสวรรค์ฟื้นคืน!
แต่ตอนนี้…หมดสิ้นกันแล้ว!
เขาดึงผ้าห่มขึ้น และจะลุกขึ้นเพื่อเดินออกไปยังข้างนอก!
แต่หลังจากที่ก้าวไปได้สองก้าว ขาและเท้าของเขากลับอ่อนแรงและล้มลงไปกับพื้น
เสี่ยวเตี๋ยรีบเข้าไปประคองเขาทันที
“คุณชายรอง ท่านไม่…”
“หลีกไป!”
ซย่าโหวถิงอันผลักนางออกไป! จากนั้นเขาก็ฝืนบังคับตัวเองให้ลุกขึ้นยืนและเดินกะโผลกกะเผลกออกไปด้านนอก!
เขากำลังจะไปเอาโอสถเก้าสวรรค์ฟื้นคืน กลับมา!
สิ่งนั้นเป็นของเขา!
ใครหน้าไหนก็ไม่สามารถแย่งชิงไปได้!
ส่วนทางด้านหลังของเขา เสี่ยวเตี๋ยมองดูซย่าโหวถิงอันที่ค่อยๆ จากไป พร้อมเผยยิ้มน้อยๆ ออกมาทีละน้อย
…
ขณะคลื่นใต้น้ำกำลังโหมกระหน่ำใส่เมืองซีหลิง แต่ทางฝั่งป่าหมอกมายากลับเงียบสงบ
แม้แต่ฝั่งของกลุ่มใต้ดินเอง ก็ยังสงบสุขดี
หลังจากคุยกันแล้ว พวกของตู๋กูโม่เป่าต่างก็เริ่มรอคอยอยู่ข้างๆ เช่นเดียวกับหรงซิว
เมื่อเหตุการณ์เป็นถึงเช่นนี้แล้ว มันก็คงเปล่าประโยชน์ที่จะพูดอันใดอีก
อย่างใดนังหนูก็จำไม่ได้แล้ว
แล้วเขาจะทำอันใดได้อีก
และคงทำได้เพียงปล่อยใจไปตามกาล
เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ
หลังจากเวลาผ่านไปไม่รู้เท่าไร เบื้องหน้าของฉู่หลิวเยว่ก็ได้ปรากฏกายเนื้อของอินทรีสามตา ในที่สุดมันก็สามารถคืนร่างได้อย่างสมบูรณ์
พรึบ…
จู่ๆ มันก็สยายปีกออก!
เสียงร้องนั้นดังก้องอยู่ในอากาศอย่างชัดเจน!
วี๊ดด!