ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 843 รู้มากเกินไปแล้ว
ตอนที่ 843 รู้มากเกินไปแล้ว
ตอนที่ซย่าโหวหรงมาถึงที่หน้าประตูบ้านของอีกฝ่าย มันก็เป็นเวลาค่ำแล้ว ซย่าโหวถิงอันกับเสี่ยวเตี๋ยก็กำลังกินข้าวกันอยู่เลย
เหมือนว่าเสี่ยวเตี๋ยนั้นไม่ได้ถนัดในการทำกับข้าว อาหารที่นางทำนั้นก็ค่อนข้างจะกลืนลงคอยากเล็กน้อย
ซย่าโหวถิงอันเป็นคุณชายสูงศักดิ์มาตลอด เวลากินก็มักจะกินของที่ดีที่สุด แล้วเขาจะเคยชินกับอาหารเหล่านี้ได้อย่างใด?
ในตอนแรกเขายังสามารถพาเสี่ยวเตี๋ยออกไปกินร้านอาหารข้างนอกได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป เงินที่มีในตัวของเขาก็เริ่มจะร่อยหรอ
ต้องบอกก่อนว่าตอนที่เขาออกจากตระกูลซย่าโหวมา เขาก็ออกมาตัวเปล่า
อีกทั้งทรัพย์สินที่มีอยู่ในแหวนมิตินั้น ก็ถูกใช้เพื่อการไถ่ตัวเสี่ยวเตี๋ยหมดแล้ว จึงเหลือเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ทั้งสองได้แต่กินอาหารพื้นๆ และใช้ชีวิตผ่านไปหลายวัน
เดิมทีซย่าโหวถิงอันก็รู้สึกอึดอัดอย่างมากแล้ว แต่เมื่อรวมกับเรื่องที่เขาขโมยโอสถเก้าสวรรค์ฟื้นคืนแล้ว ในใจของเขาก็รู้สึกไม่สบายใจตลอดเวลา ทั้งตื่นตระหนก และหวาดผวา
ตอนกลางวันไม่มีสติ ตอนกลางคืนนอนไม่หลับ
แม้ว่าเขาจะนอนหลับเป็นบางครั้ง แต่เขาก็มักจะฝันร้าย
หลังจากที่ทนทุกข์ทรมาน ร่างกายของเขาก็ซูบผอมลง
ในใจของซย่าโหวถิงอันก็รู้สึกเสียใจทุกครั้ง
แม้ว่าบ้านหลังนี้จะสะอาดเรียบร้อย แต่ว่ามันก็ไม่สามารถเทียบกับจวนซย่าโหวได้เลย
ไม่มีคนคอยปรนนิบัติ
เขาคุ้นเคยกับชีวิตที่มีอาหารดีๆ เสื้อผ้าหรูหรา หลังจากได้มาใช้ชีวิตเยี่ยงคนธรรมดาแล้ว นี่มันทรมานกว่าการฆ่าเขาให้ตายเสียอีก
ความจริงแล้วซย่าโหวถิงอันก็มีความคิดที่จะกลับไปยอมรับผิด
แต่ด้านหนึ่งทิฐิก็ค้ำคออยู่ เขากลัวว่าเมื่อเขากลับไปแล้วทุกคนจะหัวเราะเยาะเขา แต่อีกด้านหนึ่งเขาก็เป็นห่วงกลัวว่าเรื่องโอสถเก้าสวรรค์ฟื้นคืนจะถูกเปิดเผยออกมา
ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว เขาว่าเขาใช้ชีวิตต่อไปเช่นนี้จะดีเสียกว่า
แต่ความสงบของเขาก็หายไปอย่างรวดเร็ว!
ตู้ม!
เสียงถีบประตูดังขึ้นมา ซย่าโหวถิงอันและเสี่ยวเตี๋ยก็ตกใจกันอย่างมาก
ทั้งสองคนสบสายตากันไปมา จากนั้นก็ได้ยินเสียงของซย่าโหวหรงดังมาจากด้านนอก น้ำเสียงของเขานั้นเต็มไปด้วยความโกรธแค้น
“ไอ้ลูกบ้า! แกไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ!”
หัวใจของซย่าโหวถิงอันเต้น “ตุบตับ” ขึ้นระรัว!
เขาจะต้องรู้เรื่องโอสถเก้าสวรรค์ฟื้นคืนเม็ดนั้นหายไปแล้วอย่างแน่นอน!
ทันใดนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนด้วยความประหม่า แล้วต้องการจะหนีทันที
เสี่ยวเตี๋ยก็หันมามองทางเขา
“คุณชายรอง คนที่อยู่ด้านนอกนั้น…ใช่ใต้เท้าซย่าโหวหรือไม่? เหมือนว่าเขาต้องการมาหาท่านนะ…”
“บอกไปว่าข้าไม่อยู่!”
ซย่าโหวถิงอันรีบพูดขึ้นหนึ่งประโยค จากนั้นก็หนีออกไปทางหน้าต่างทันที
แต่เขายังไม่ทันได้หนี ที่เอวของเขาก็มีเชือกมารัดอยู่แล้ว!
ซย่าโหวหรง ออกแรงดึงอย่างแรง!
ซย่าโหวถิงอันจึงถอยไปด้านหลัง!
โครม!
ตัวของเขาล้มลงที่ด้านหน้าของซย่าโหวหรงอย่างแรง
“คุณชายรอง…”
เมื่อเห็นดังนั้น เสี่ยวเตี๋ยก็ตะโกนขึ้นมาด้วยความประหม่า ทั้งสองมือเกาะอยู่ที่หน้าประตูแน่น ท่าทางดูลังเลอย่างมาก
สายตาของซย่าโหวหรงมองนางด้วยความเย็นชา
แม่นางคนนี้ดูแล้วเหมือนจะอายุสิบห้าสิบหกเท่านั้น ใบหน้าเล็ก น่าดึงดูดโดยเฉพาะตอนที่ร้องไห้ นางดูน่าสงสารอย่างมาก
ซึ่งแตกต่างจากเจียงอวี่จืออย่างมาก
ก็ไม่น่าแปลกใจที่เจ้าลูกชายชั่วจะคิดกบฏขึ้นมาแบบนี้
“ไสหัวไป!”
ซย่าโหวหรงตวาดเสียงดัง
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อย่าให้ข้าเห็นหน้าเจ้าที่เมืองซีหลิงอีก!”
ร่างของเสี่ยวเตี๋ยหดเล็กลง หยาดน้ำตาร่วงหล่น เหลือบมองซย่าโหวถิงอันด้วยความอาวรณ์
“ข้า…ข้าจะไปก็ได้ แต่…แต่ขอร้อง…ท่านอย่าทำร้ายคุณชายรองเลยนะเจ้าคะ ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของข้าเอง…”
ซย่าโหวหรงขมวดคิ้วมุ่น พร้อมแผ่ปราณเย็นออกมามากกว่าเดิม
ใบหน้าของเสี่ยวเตี๋ยเต็มไปด้วยความหวาดกลัว นางรีบกล่าวลาซย่าโหวถิงอัน จากนั้นก็วิ่งออกไปทั้งน้ำตา
ภายในเรือนนั้นจึงเหลือเพียงสองพ่อลูกเท่านั้น
ซย่าโหวหรงลากเขาเข้ามาในบ้าน จากนั้นก็มองเขา ใบหน้าเต็มไปด้วยความเกรงขาม!
“ท่านพ่อ…”
ในตอนนั้นซย่าโหวถิงอันมีสติเพียงแค่เล็กน้อย เมื่อเห็นการต่อสู้เช่นนี้ เขาก็สามารถคาดเดาอันใดได้หลายส่วนแล้วพร้อมเรียกอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกผิด
“ไม่ต้องมาเรียกข้า!”
ซย่าโหวหรงพูดตัดบทเขา
“บอกมา! โอสถเก้าสวรรค์ฟื้นคืนเม็ดนั้นอยู่ที่ใด!”
ซย่าโหวถิงอันรีบพูดอย่างตื่นตระหนก
“ท่านพ่อ ข้าไม่รู้เรื่อง! ข้าไม่รู้เรื่องจริงๆ!”
เพียะ!
เสียงตบหน้าดังสนั่น!
ซย่าโหวหรงตบหน้าซย่าโหวถิงอันจนอีกฝ่ายล้มไปกองที่พื้น
“พูดมา!”
ซย่าโหวถิงอันไอค่อกแค่กจากนั้นก็กระอักเลือดออกมา แม้กระทั่งฟันยังหลุดออกไปสองซี่
เห็นได้ชัดว่าซย่าโหวหรงลงมือโหดเหี้ยมอย่างมาก!
“ข้า…ข้าไม่รู้จริงๆ…”
ซย่าโหวถิงอันกลืนความคับข้องใจที่อยู่ในท้อง
“สามารถเข้ามาขโมยของได้อย่างไร้เสียง นอกจากเจ้าแล้ว มันจะเป็นใครได้อีก!”
ซย่าโหวหรงขบเขี้ยวฟัน
“มีคนมาช่วยเจ้าด้วยใช่หรือไม่!”
เมื่อคิดไปแล้ว วันที่ของหายน่าจะเป็นวันที่เขาถูกลอบแอบฟังวันนั้น!
บางทีคนที่วิ่งหนีออกไปในตอนนั้น อาจจะเป็นคนที่ล่อเขาออกจากถ้ำ ซึ่งมันสะดวกต่อการให้เจ้าลูกชายโง่นี่ลงมือมากยิ่งขึ้น
ซย่าโหวถิงอันรู้ว่าเรื่องถูกเปิดเผยขึ้นแล้ว ตัวเขาเองก็ไม่สามารถแก้ตัวได้เลย
แต่…ของชิ้นนั้นไม่ได้อยู่ที่นี่จริงๆ
“ท่านพ่อ! ท่านต้องฟังข้าอธิบายนะ วันนั้นข้าคิดจะเข้าไปขโมยโอสถเก้าสวรรค์ฟื้นคืนจริง แต่ว่า ตอนที่ข้าเปิดกล่องขึ้น ก็ถูกคนอื่นแย่งเอาไปแล้ว! จนถึงวันนี้ข้ายังไม่รู้เลยว่าโอสถเม็ดนั้นไปอยู่ที่ใดแล้ว!”
ซย่าโหวถิงอันรีบเล่าเหตุการณ์วันนั้นให้ฟังอีกรอบ
“…ถ้ามันอยู่ในมือของข้าจริง ข้าคงกินมันไปตั้งนานแล้ว ท่านพ่อ สิ่งที่ข้าพูดนั้นเป็นความจริงนะขอรับ!”
เมื่อฟังซย่าโหวถิงอันอธิบายเสร็จ หัวใจของซย่าโหวหรงก็เย็นเยียบยิ่งขึ้น
ถ้าสิ่งที่เขาพูดเป็นเรื่องจริง เช่นนั้นในวันนั้นก็มีคนจงใจเข้าไปที่ห้องหนังสือของเขาจริง อีกทั้งฉวยโอกาสแย่งของสิ่งนั้นไปแล้วด้วย
แต่เรื่องที่น่ากลัวที่สุดก็คือ…ซย่าโหวถิงอันมองไม่เห็นหน้าตาของอีกฝ่ายเลย! และไม่มีเบาะแสแม้แต่น้อย!
หากต้องการตามหาคน เท่ากับต้องงมเข็มในมหาสมุทรแล้ว
แต่สิ่งที่เจียงอวี่เฉิงต้องการ คือต้องส่งสิ่งของกลับไปอย่างไร้รอยขีดข่วนภายในหนึ่งวัน!
ซย่าโหวหรงหน้ามืด จนเกือบจะล้มลงไปแล้ว
“ท่านพ่อ!”
เมื่อซย่าโหวถิงอันเห็นดังนั้น ก็รีบไปพยุงเขาทันที
“ไอ้ลูกโง่! เจ้ารู้หรือไม่ว่าสิ่งที่เจ้าทำนี้มันเรื่องใหญ่ขนาดไหน!”
โอสถเก้าสวรรค์ฟื้นคืนหายไปแล้ว หากเจียงอวี่เฉิงรู้เขา ตระกูลของพวกเขาต้องตายยกครัวแน่นอน!
อย่าพูดเรื่องที่เขาจะปกป้องซย่าโหวถิงอันเลย หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป แม้กระทั่งชีวิตของเขาเองก็ยากจะปกป้อง
โอสถเก้าสวรรค์ฟื้นคืนเป็นมรดกที่สืบทอดในราชวงศ์เทียนลิ่ง หากตกอยู่ในมือคนใดคนหนึ่ง มันจะต้องเกิดอันตรายอย่างมากแน่นอน!
เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายนั้นจับตามองพวกเขามาหลายแล้ว! และต้องการใช้โอสถเก้าสวรรค์ฟื้นคืน…
ทันใดนั้นเองสมองของซย่าโหวหรงก็สว่างวาบขึ้นมา!
บนโลกนี้ ใครกันที่ยึดมั่นกับของชิ้นนี้มากที่สุด? และยอมทุ่มเทวันเวลาเพื่อจะแย่งมันมา?
ต้องบอกก่อนว่า เขาได้มาจากมือขององค์หญิงใหญ่เมื่อสองปีที่แล้ว
ความคิดเพ้อเจ้อเกิดขึ้นในสมองของเขา จนทำให้ตัวของซย่าโหวหรงสั่นสะท้านอย่างอดไม่อยู่
ซย่าโหวถิงอันที่อยู่ด้านข้าง เมื่อเห็นปฏิกิริยาของเขาเช่นนี้ หัวใจของเขาก็ดำดิ่งลง
เหมือนว่า…เรื่องนี้มันจะร้ายแรงกว่าที่เขาจินตนาการเอาไว้มาก…
ในตอนนี้ซย่าโหวถิงอัน ยังคิดว่าเขาเป็นห่วงเรื่องเจียงอวี่เฉิง ดวงตากลอกไปมา ราวกับกำลังคิดอันใดบางอย่าง
เขาขยับเข้าไปใกล้อีกฝ่าย แล้วกระซิบเสียงเบาว่า
“ท่านพ่อ ความจริงแล้วท่านเป็นห่วงเรื่องเจียงอวี่เฉิงอยู่ใช่หรือไม่? เดิมทีท่านไม่ต้องคิดมากขนาดนั้น! เรื่องขององค์หญิงใหญ่ในปีนั้น เจียงอวี่เฉิงก็มีส่วนเกี่ยวข้อง เขาต้องหนีไม่รอดแน่! หากมีไม้ตายนี้ เขาต้องไม่กล้าทำอันใดท่านแน่นอน”
ซย่าโหวหรงหันมองทางเขา แล้วถามอย่างตกใจ
“เจ้าไปรู้เรื่องอันใดมา?!”