ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 904 เจ้ามีคู่หมั้นแล้ว
ตอนที่ 904 เจ้ามีคู่หมั้นแล้ว
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เจียงอวี่เฉิงจะต้องเจ็บปวดกับความทุกข์ทรมานจากไฟที่เผาไหม้อยู่ทุกเช้าค่ำ ไม่มีหยุดหย่อน!
อีกทั้งหยวนตันของเขาก็ถูกทำลายแล้ว เมื่อถูกการทรมานเช่นนี้ เขากลับทำได้เพียงต้องยอมรับความทรมานนี้เท่านั้น!
นางบอกไปแล้วว่า เมื่อนางได้รับความทรมานเช่นนี้ นางก็จะให้คนเหล่านี้ได้รับความทรมานกลับไปเป็นหมื่นเท่าพันเท่าเช่นกัน!
แต่ว่าวันนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น!
เหมือนว่าเจียงอวี่เฉิงจะคิดอันใดขึ้นมาได้ แต่เพราะความเจ็บปวดที่ถาโถม ทำให้เขาต้องขดตัวดิ้นรนอยู่บนพื้น บนพื้นนั้นเต็มไปด้วยคราบเลือด
ใครจะไปคิดเล่าว่าเจียงอวี่เฉิงที่เคยกุมอำนาจสูงสุด ท้ายที่สุดแล้วจะมาอยู่ในจุดตกต่ำเช่นนี้ได้?
ฉู่หลิวเยว่ถอนสายตาออกมา แล้วเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย อยากจะเดินก้าวขึ้นไปด้านหน้า
ฝ่าพระบาทของนางเปื้อนคราบเลือดตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้ แต่ละก้าวที่นางเหยียบย่ำ ดูแล้วน่าตกใจอย่างมาก
สายตาของคนจำนวนไม่น้อยกำลังจับจ้องมาที่นาง
เห็นได้ชัดว่านางมีรูปร่างผอมบาง ไหล่แคบ แต่แรงกดดันที่แผ่กระจายออกมาจากร่างของนางนั้น ไม่มีใครสามารถหยุดยั้งได้!
นางเดินขึ้นไปที่บันไดขั้นที่เก้าทีละก้าว พร้อมมองไปยังซั่งกวนโหยว
“เสด็จพ่อ เรื่องที่เกิดขึ้นภายในวันนี้ไม่ได้มีการปรึกษาท่านมาก่อน ได้โปรดอภัยให้หม่อมฉันด้วย”
แม้ว่าก่อนหน้านี้ชีหานและเจี่ยนเฟิงฉือจะร่วมมือกันแล้ว แต่พวกเขาก็สามารถเดาอันใดได้บางอย่างแต่เรื่องต่อมานั้น นางไม่ได้บอกใครมาก่อนเลยจริงๆ
ซั่งกวนโหยวส่ายหน้า พร้อมโบกมือ
คทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งเหมือนว่าจะได้รับคำสั่งบางอย่าง จึงลอยเข้าไปในมือของเขา
วินาทีต่อมา ซั่งกวนโหยวก็ส่งคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งให้กับฉู่หลิวเยว่
ฉู่หลิวเยว่ตกใจไปเล็กน้อย
“วันนี้ข้าจะขอส่งต่อราชบัลลังก์เทียนลิ่งให้กับเจ้าอย่างเป็นทางการ! นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าคือจักรพรรดินีของเทียนลิ่งคนใหม่แล้ว!”
ฉู่หลิวเยว่อ้าปากค้าง แต่ซั่งกวนโหยวกลับพูดต่อว่า
“ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เจ้าอยากทำอันใดก็ทำได้เลย! ใต้ผืนฟ้านี้จะไม่มีใครทำร้ายเจ้าได้อีกแล้ว!”
เดิมทีตำแหน่งนี้ต้องเป็นของนางอยู่แล้ว
ทั่วทั้งราชวงศ์เทียนลิ่งไม่มีใครเหมาะสมไปมากกว่านางอีกแล้ว!
หลังจากที่ซั่งกวนโหยวรู้ว่าในปีนั้นมันเกิดเรื่องอันใดขึ้น เขาก็รู้สึกเสียใจอย่างมาก
หากเขามอบบัลลังก์นี้ให้นางตั้งแต่เนิ่นๆ ซั่งกวนหว่านและคนอื่นๆ ก็ไม่มีทางละโมบ และอาจจะไม่เกิดปัญหามากมายตามมาเช่นนี้
ในที่สุดนางก็กลับมาอย่างปลอดภัย อีกทั้งยังมีองค์ปฐมกษัตริย์คอยออกหน้า ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อยแน่นอน!
ความสงสารในแววตาซั่งกวนโหยว หัวใจของฉู่หลิวเยว่ก็อุ่นวาบ ดวงตาร้อนผ่าว
นางเงียบไปสักพัก ในที่สุดก็รับคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งมาทั้งสองมือ
ในตอนนั้นเองคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งก็เปล่งแสงเรืองรอง แล้วพุ่งตัวออกไปเหนือชั้นฟ้า!
แรงกดดันมหาศาล!
นางคุกเข่ากราบกราน!
“ยินดีด้วยที่องค์หญิงใหญ่ได้ขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดิ!”
ท่ามกลางการนองเลือด ผู้หญิงคนนั้นได้ก้าวผ่านความตาย และกลับมาอีกครั้ง!
หน้าอกของฉู่หลิวเยว่ เหมือนว่าจะมีอารมณ์พลุ่งพล่าน
ในตอนนี้ ข้าคือจักรพรรดิ…ของทั่วดินแดนเทียนลิ่ง!
…
ในวันนั้น เดิมทีควรจะเป็นวันอภิเษกสมรสและราชาภิเษกขององค์หญิงสาม
แต่เมื่อข่าวจากในเมืองประกาศออกมา กลับทำให้ทุกคนล้วนตกใจอย่างมาก เมืองซีหลิงเกิดความวุ่นวายเสียยกใหญ่
ที่แท้การตายขององค์หญิงใหญ่ในปีนั้น เป็นเพราะซั่งกวนหว่านและเจียงอวี่เฉิงทำร้าย!
ส่วนองค์จักรพรรดิที่สลบไสลไปสองปีนั้น ก็เป็นพวกเขาที่ลงมือ!
และในคืนนั้นที่สำนักชงซูเก๋อโดนโจมตีและได้รับความเสียหายอย่างหนัก เจียงอวี่เฉิงนี่แหละคือคนที่บงการอยู่เบื้องหลัง!
และที่สำคัญไปมากกว่านั้น…องค์หญิงใหญ่ยังไม่ตาย
หลังจากที่เปิดโปงเรื่องราวในอดีตทั้งหมดนั้น ทั่วทั้งราชวงศ์เทียนลิ่งก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง!
จวนซย่าโหวและตระกูลเจียงโดนล้างบางทั้งตระกูล!
เจียงอวี่เฉิงและซั่งกวนหว่านกลายเป็นตัวขยะไม่สามารถบำเพ็ญเพียร กระดูกหักทั้งร่าง และถูกคุมขังเอาไว้!
ส่วนรองแม่ทัพทหารม้าทมิฬ มู่ชิงเห่อ ถูกปลดออกจากตำแหน่งและกักบริเวณอยู่ในตระกูลมู่!
นอกจากนี้ยังมีคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกเขาก็ถูกขุดรากถอนโคนจนหมด!
สามารถกล่าวได้ว่า การต่อสู้ทั้งหมดต่อจากนี้ เป็นการใช้เลือดล้างราชวงศ์เทียนลิ่งเลยทีเดียว!
ในวันเดียวกันนั้นเอง องค์หญิงใหญ่ก็ได้รับการสถาปนาเป็นจักรพรรดิอย่างเป็นทางการ!
เพียงแค่ชั่วข้ามคืนท้องฟ้าของเมืองเทียนลิ่งก็ได้เปลี่ยนไปแล้ว!
…
เพราะว่าเรื่องนี้ โลกภายนอกจึงรู้สึกตกตะลึงอย่างมาก
แต่เพราะว่าองค์หญิงใหญ่นั้นมีบารมีสูงมากอยู่แล้ว ดังนั้นหลังจากที่ประชาชนได้รู้เรื่องนี้ ทุกคนจึงทำใจยอมรับได้อย่างเรวดเร็ว
ความจริงแล้วในสายตาของคนหลายคน การที่องค์หญิงใหญ่กลับมา และขึ้นครองราชย์นั้น ย่อมดีกว่าจะให้ซั่งกวนหว่านครอบครองบัลลังก์
เพียงแต่พวกเขาคิดไม่ถึงว่า ฉู่หลิวเยว่…คือองค์หญิงใหญ่
เพราะว่าไม่ได้สงสัยเรื่องเส้นชีพจรของนางเลย แต่เป็นเพราะว่าองค์ปฐมกษัตริย์ออกหน้าให้ จึงไม่มีใครกล้าพูดอันใดพล่อยๆ อีก
…ทั้งราชวงศ์เทียนลิ่งคือผู้ที่สร้างมันขึ้นมาก็คือองค์ปฐมกษัตริย์ แล้วใครจะกล้าเถียงเขาเล่า?
ดังนั้นหลังจากการถกเถียงหลายครั้ง ก็ไม่มีใครกล้าคัดค้าน การโต้เถียงทุกอย่างก็สงบลงเช่นนี้
สำหรับเจียงอวี่เฉิงและซั่งกวนหว่านสมรู้ร่วมคิดลอบสังหารองค์หญิงใหญ่ ดังนั้นจึงทำให้มีคนตำหนิและสาปแช่งมากมาย
แน่นอนว่าเนื้อหาเหล่านั้น เจียงอวี่เฉิงและซั่งกวนหว่านไม่มีทางได้รู้แน่นอน
ซั่งกวนหว่านถูกกักบริเวณอยู่ที่ตำหนักฮวาหยาง ส่วนเจียงอวี่เฉิง…หลังจากเห็นทุกคนในตระกูลเจียงถูกฆ่าตายด้วยตาของตนเองแล้ว เขาก็ถูกส่งไปที่ตำหนักฮวาหยาง เพียงแต่ว่าไม่ได้อยู่ที่ห้องเดียวกันเท่านั้น
…สุดท้ายแล้วก็เป็นสามีภรรยากัน ฉู่หลิวเยว่คิดว่าจะให้แยกจากกันมันก็คงจะไม่ดีเท่าไร ให้เป็นนกยวนยางที่ทุกข์ระทม ก็นับว่าไม่เลว
…
คนในวังหลวง จัดการเรื่องนี้เป็นเวลากว่าสามวันสามคืน
จนในที่สุดกลิ่นคาวเลือดที่คละคลุ้งอยู่ทั่วทุกสารทิศถึงได้หายไปในเวลาต่อมา
แต่เรื่องบางอย่าง นางก็มอบหมายให้สิบสามผู้พิทักษ์เยว่ไปจัดการ ส่วนตัวนางก็ไปดูราชกิจจำนวนมากอย่างรวดเร็ว
เพราะว่าเกิดความเปลี่ยนแปลงที่เร็วมาก อีกทั้งมันยังเกี่ยวข้องกับหลายสิ่ง ดังนั้นเรื่องที่นางต้องจัดการนั้นมีจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว
โชคดีที่นางเคยทำมาก่อนหน้านี้แล้ว ตอนนี้นางจึงรู้สึกว่าไม่ยากเท่าไรนัก หลังจากนั้นไม่นานนางก็สามารถจัดการได้อย่างเรียบร้อย
หลังจากนางอ่านสาสน์ฉบับสุดท้ายเสร็จ นางก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
ในตอนที่นางกำลังจะออกจากประตู นางกลับเห็นว่าซั่งกวนโหยวอยู่ด้านนอกประตู ท่าทางเหมือนลังเลอันใดบางอย่างอยู่
“เสด็จพ่อ ท่านมาได้อย่างใดเพคะ?”
เมื่อได้ยินเสียงนั้นซั่งกวนโหยวก็หันกลับมามอง
หลังจากพักผ่อนมาแล้วหลายวัน สีหน้าของซั่งกวนโหยวก็ดูดีขึ้นไม่น้อย
แต่ท่าทางของเขาในตอนนี้เหมือนว่ากำลังลังเลอันใดบางอย่าง
“คือว่า…เยว่เอ๋อ พ่อมีเรื่องหนึ่ง อยากจะมาถามเจ้า”
“เสด็จพ่อพูดมาเถิด” ฉู่หลิวเยว่หัวเราะ
เรื่องอันใดกันนะถึงทำให้เสด็จพ่อมีปฏิกิริยาเช่นนี้ได้?
ถ้าพูดตามหลักความเป็นจริง ตอนนี้เขาไม่ควรจะมีเรื่องกังวลอันใดสิถึงจะถูกต้อง
ซั่งกวนโหยวกระแอมไอหนึ่งครั้ง แล้วมองฉู่หลิวเยว่อย่างระมัดระวัง หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่งเขาก็ถามขึ้นมาว่า
“คือว่า…ได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้เจ้าอยู่ที่แคว้นเย่าเฉิน และมีคู่หมั้นแล้วอย่างนั้นหรือ?”
————————————————————–