CatNovel
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 911 กางร่มให้เจ้า

  1. Home
  2. ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
  3. ตอนที่ 911 กางร่มให้เจ้า
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ตอนที่ 911 กางร่มให้เจ้า

ทันทีที่ได้ยินเสียงเรียกชื่อ มู่ชิงเห่อก็ถึงกับผงะ พลันตวัดตามองไปยังหญิงสาวที่นั่งอยู่ไม่ไกล

นางนั่งอยู่ตรงนั้นด้วยท่าทีสบายๆ อาภรณ์ของนางนั้นเรียบง่าย แต่กลับมีรัศมีอันสูงส่งแผ่ออกมาจากกายของนางไม่ขาด

ใบหน้าเนียนนวลแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้ม ดวงตาของนางเปล่งประกายราวกับดวงดาว ท่าทีเช่นนั้นช่างเหมือนกับเมื่อหลายปีก่อนไม่มีผิด

อีกทั้งยังเรียกชื่อเขาออกมาโต้งๆ ด้วยน้ำเสียงที่ผ่อนคลาย ประหนึ่งว่าความคับข้องแค้นใจในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานั้น… ล้วนไม่มีอยู่จริง

มือหนาภายใต้แขนเสื้อของมู่ชิงเห่อค่อยๆ กำหมัดแน่น พลันหลุบตาลงต่ำ

“ก็เป็นแค่การไปมาหาสู่กันตามปกติ ฝ่าบาท…ท่านอย่าได้กังวลไปเลย”

หลังจากเอ่ยตอบไปหนึ่งประโยค มู่ชิงเห่อก็ปิดปากเงียบราวกับว่าเขาไม่ต้องการจะอธิบายใดๆ เพิ่มเติม

เจี่ยนเฟิงฉือลังเลไม่กล้าพูดขณะหันมองอีกฝ่าย คิ้วเรียวขมวดมุ่นเล็กน้อย นัยน์ตาของเขาปรากฏร่องรอยของความลังเลใจ

จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่ยอมพูดอันใด…

อันที่จริง เขาเองก็อยากถามอีกฝ่าย ด้วยคำถามแบบเดียวกันกับฉู่หลิวเยว่

ย้อนกลับไปตอนนั้น เมื่อครั้งที่ห้องโถงบรรพชนถูกไฟไหม้ทั้งวันทั้งคืน ถึงตัวเขาจะตื่นตระหนกเพียงใด แต่ก็ยังมุ่งหน้าเข้าวังในทันที แต่มู่ชิงเห่อกลับไปช้ากว่าเขามาก

แม้ว่าเขาจะดูออกว่ามีบางอย่างผิดปกติกับการตายขององค์หญิงใหญ่ ทว่าตั้งแต่ต้นจนจบมู่ชิงเห่อกลับไม่เคยคัดค้านเรื่องนี้เลย

ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นภายหลัง… เจี่ยนเฟิงฉือคงปักใจเชื่อไปแล้วว่าเขาทรยศซั่งกวนเยว่โดยสมบูรณ์

หากกล่าวว่าก่อนหน้านี้เขาเลือกอยู่ข้างเจียงอวี่เฉิงเพื่อปกป้องราชวงศ์ล่ะก็ เช่นนั้นในเมื่อตอนนี้เจียงอวี่เฉิงกับซั่งกวนหว่านโดนลงทัณฑ์ไปแล้ว เหตุใดเขาจึงยังปกปิดมันต่อไปอีก?

เจี่ยนเฟิงฉือไม่เข้าใจเลยจริงๆ

เขาอยากจะช่วยอีกฝ่ายอธิบายเรื่องพวกนี้ แต่ความจริงแล้วเขาแทบไม่รู้อันใดเลย

มู่ชิงเห่อทำหลายสิ่งหลายอย่าง และมีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้เหตุผล ซึ่งถ้าให้คนนอกพูดก็จะมีแต่ทำให้สถานการณ์ซับซ้อนขึ้น

“เจ้าเล่า ว่าอย่างใด?”

ดูเหมือนฉู่หลิวเยว่จะไม่แปลกใจกับคำตอบของมู่ชิงเห่อนัก นางยักไหล่และมองไปที่เจี่ยนเฟิงฉือแทน

เจี่ยนเฟิงฉือใจเต้นไม่เป็นจังหวะ

“คือ… เมื่อก่อนมันก็เป็นแค่การทะเลาะกันแบบเด็กๆ เท่านั้น พอลองคิดดูดีๆ ความจริงพวกข้าก็ไม่ได้ขัดแย้งแค้นเคืองกันปานนั้น…”

ฉู่หลิวเยว่ยิ้มรับ แต่ดวงตาของนางคมกริบราวมองทะลุทุกสิ่งอย่าง

คำพูดของเจี่ยนเฟิงฉือติดอยู่ในลำคอของเขา จนตอบอันใดออกไปไม่ได้

เขาเหลือบมองมู่ชิงเห่ออย่างอดไม่ได้

แต่มู่ชิงห่อกลับก้มศีรษะลง ไม่รู้เลยว่าเขากำลังคิดอันใดอยู่

ทว่าไม่นานเขาก็เงยหน้าขึ้นอีกครั้งและพูดอย่างใจเย็น

“วันนั้นฝ่าบาททรงส่งสารขอความช่วยเหลือไปสามครั้ง ใช่หรือไม่?”

ฉู่หลิวเยว่ค่อยๆ ยืดนั่งตัวตรง สายตาของนางจับจ้องที่เขา

มู่ชิงเห่อเอามือข้างหนึ่งไพล่หลังแล้วกำหมัดช้าๆ แต่สีหน้าของเขากลับยังสงบนิ่ง

“ทั้งสามข้อความนั้นถูกข้าขัดขวางไว้ทั้งหมด”

“เป็นข้า ที่ขัดขวางทางรอดสุดท้ายของท่านในวันนั้น”

…

ยามนี้ก็ย่างเข้ากลางเดือนมิถุนายนแล้ว และอากาศค่อนข้างร้อนอบอ้าว

ผู้คนมากมายสัญจรไปมาตามท้องถนนที่ดูคึกครื้นรื่นหูรื่นตา

หรงซิวเดินอยู่บนถนนเพียงลำพัง เพราะเขาสวมชุดคลุมที่มีหมวกคลุมศีรษะและปิดกลั้นลมปราณไว้ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ดึงดูดความสนใจของใคร

คนรอบข้างส่วนใหญ่ยังคงพูดถึงเรื่องของนาง

หรงซิวเดินไปข้างหน้าเรื่อยๆ พลางลอบฟังบทสนทนาของผู้คนรอบตัวเขาไปด้วย

ทุกครั้งที่ได้ยินคนเหล่านั้นประหลาดใจและกล่าวชื่นชม ริมฝีปากบางสีแดงเรื่อของเขาก็จะยกโค้งขึ้นเล็กน้อย

แต่ไหนแต่ไรมา ไม่ว่านางต้องการจะทำอันใด นางก็จะทำมันได้สำเร็จเสมอ

ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากช่วย แต่พอคิดถึงจุดจบของเรื่องนี้แล้ว เขาก็รู้สึกว่าให้นางทำมันเองจะดีกว่า

การปล่อยให้นางได้ชิงสิ่งที่สูญเสียไปคืนมาด้วยตัวเองนั้น ย่อมเป็นการดีที่สุด

การแก้แค้นของนางเท่านั้น ที่จะสามารถลบล้างความเจ็บปวดทั้งหมดที่นางเคยได้รับได้อย่างสมบูรณ์

และเขาก็จะคอยยื่นมือให้นางเรื่อยๆ ตราบเท่าที่นางต้องการ

แน่นอนว่ามีดเล่มนั้นจักต้องเร็วพอ

ทว่าในขณะที่เขากำลังจมอยู่กับความคิด ก็พลันรู้สึกถึงความมืดรอบตัวที่บังเกิดขึ้น

เขาเงยหน้ามอง ก่อนจะพบว่าท้องฟ้าที่เคยสดใสเมื่อครู่ก่อน ได้ถูกเมฆดำปกคุลมจนมืดมิดในทันใด

ไม่นานเม็ดฝนก็ตกลงมาโดนหน้าผาก

เย็นเฉียบ

เดิมที่เขากำลังมุ่งหน้าไปยังหอร้อยโอสถ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเพียงเดินมาได้ครึ่งทาง สภาพอากาศจักเปลี่ยนไปเช่นนี้

สักพักหนึ่งฝนก็เริ่มตกหนัก

บรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่ตั้งแผงขายของ ต่างก็พากันรีบเก็บข้าวของและจากไป

ละอองน้ำสีใสค่อยๆ ก่อตัวขึ้นบนทางเท้าที่ปูด้วยแผ่นหินสีเทา

ระหว่างสวรรค์และโลกมีเพียงม่านฝนกั้นขวางไว้

ขนงเรียวของหรงซิวขดม้วนเข้าหากัน ดวงตาเฉี่ยวคมดุจเหยี่ยวทอประกายลึกล้ำ

ทันใดนั้นเขาก็หันหลังกลับและเดินไปทางอื่น

จากนั้นร่างสูงเพรียวของชายหนุ่มก็หายวับไปในสายฝนอย่างรวดเร็ว

…

หลังจากที่ฉู่หลิวเยว่เดินออกจากจวนตระกูลมู่เพียงลำพัง นางก็เดินไปตามถนนอย่างไร้จุดหมาย

ในใจของนางยังคงนึกถึงสิ่งที่มู่ชิงเห่อพูดเมื่อครู่

เขายอมรับมัน

เขาบอกว่าเขาทำอย่างนั้น

เขายังพูดอันใดอีกนะ?

อ่า ใช่แล้ว เขาบอกว่าเดิมทีเขาเป็นคนของเจียงอวี่เฉิง

ฉะนั้นจริงๆ แล้วการทรยศของเขา ก็ไม่ถือว่าเป็นการทรยศเสียทีเดียว

เพราะเดิมที…

เขาตั้งใจทำเช่นนี้อยู่แล้ว!

ภาพจำนวนนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นในจิตใจของนาง

ฉู่หลิวเยว่สูดหายใจเข้าลึกๆ สายลมหอบหนึ่งค่อยๆ ก่อตัวขึ้น ในขณะที่ท้องนภาก็มืดลงอย่างรวดเร็ว

นางเงยหน้าขึ้นมองทันควัน

ร้อนอบอ้าว แห้งกรัง แต่กลับเย็นเยียบ

นางลืมไปแล้วว่าหลังจากได้ยินคำพูดเหล่านั้น นางทำสีหน้าเช่นไรออกไป และตอบเขากลับไปว่าอย่างใด

แถมยังไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าตัวเองออกมาจวนตระกูลมู่เยี่ยงไร

แต่จู่ๆ นางก็สัมผัสได้ถึงความอ่อนนุ่มของบางสิ่ง

มันคือถวนจื่อที่นั่งยองๆ บนไหล่ของนาง พลางถูใบหน้าคลอเคลียนางเบาๆ

ฉู่หลิวเยว่ส่ายหัว

“ถวนจื่อไม่ต้องห่วง ข้าไม่เป็นไร”

นางยังคงให้ความหวังตัวเอง เพราะเชื่อว่าบางที…

แต่ทว่าในโลกนี้ คนเราไม่สามารถใช้คำว่า “บางที” ได้บ่อยขนาดนั้น

ฉู่หลิวเยว่ทอดสายตาไปยังท้องนภาที่พรั่งพรูไปด้วยหยาดน้ำฝน

มันก่อตัวขึ้นในพริบตาเดียว ก่อนล่วงหล่นลงมาเชื่อมต่อฟ้าดินด้วยเส้นสายนับไม่ถ้วน

ฉู่หลิวเยว่ขยับเท้าของตน เตรียมจะกลับไปยังวังหลวง แต่ทันใดนั้นก็รู้สึกถึงลมปราณเย็นเยือก ที่พุ่งตรงออกมาจากม่านฝนในระยะไกล!

นางเงยหน้าขึ้นทันที! เสียงระฆังดังเตือนในใจ!

พลันมีกลุ่มแสงสีน้ำเงินม่วงพุ่งผ่านอากาศ! ทะลุม่านฝนเข้ามาต่อหน้านาง!

สองเท้าขยับออกเตรียมตั้งรับการจู่โจม ทว่าขณะจะลงมือ จู่ๆ นางก็สัมผัสได้ว่ามีคนเข้ามาประกบจากข้างหลัง แล้วจับเอวของนางไว้!

ตามมาด้วยกระบี่สีเงินที่พุ่งออกมาพร้อมแสงเจิดจ้า! มันเข้าปะทะกับกลุ่มแสงนั้นอย่างดุเดือด!

ค่ายกลโปร่งใสปรากฏขึ้นคลุมร่างของนางไว้ และคลื่นความผันผวนทั้งหมดก็ถูกปิดกั้นไว้ด้านนอก!

กลิ่นหอมเย็นที่คุ้นเคยกระทบเข้ามาในโสตประสาท หัวใจของฉู่หลิวเยว่เต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ

นางหันศีรษะไปทันควัน ก่อนจะเห็นว่ารัศมีอันสูงส่งและท่าทางเจ้าเล่ห์ของคนที่พุ่งเข้ามา ลมปราณของเขาทรงพลังชวนให้ตกตะลึง และเขาคือหรงซิว!

“ระ…หรงซิว? เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างใด?”

ฉู่หลิวเยว่เบิกตากว้าง

หรงซิวกระชับกอดนางแน่นขึ้น มืออีกข้างถือร่มสีดำ เสียงของเขาทุ้มต่ำระคนเกียจคร้าน

“ฝนตกแล้ว ข้าเลยมากางร่มให้เจ้า”

————————————————————–

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 911 กางร่มให้เจ้า"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์