CatNovel
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
Advanced
  • หน้าหลัก
  • แทงหวย24
  • มังงะ
  • นิยายทั้งหมด
  • โดจิน
  • นิยายทั้งหมด
  • จบแล้ว
  • นิยายวาย Yaoi
ตอนก่อน
ตอนต่อไป
สล็อตเว็บตรง

ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 913 ให้หรงซิวของนางได้รู้

  1. Home
  2. ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
  3. ตอนที่ 913 ให้หรงซิวของนางได้รู้
ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ตอนที่ 913 ให้หรงซิวของนางได้รู้

จู่ๆ เด็กชายสิบสามก็เงียบเสียงลงอย่างกระทันหัน พลันชะงักฝีเท้าของตนเช่นกัน ก่อนจะมองดูภาพตรงหน้าด้วยความตกตะลึง

มีคนกางร่มให้ฝ่าบาทแล้ว!

และประเด็นก็คือ เขายังกอดฝ่าบาทด้วย!

อีกทั้งท่าทางใกล้ชิดสนิทสนมเช่นนี้ ทำให้คนที่มองอยู่รู้ได้ทันทีว่า สองคนนั้นต้องมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดาแน่นอน!

“จะจะจะ…เจ้าเป็นใคร!?”

สิบสามอุตส่าห์ตั้งใจมารับฉู่หลิวเยว่กลับวังด้วยความปิติยินดี แต่พอเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว ก็พลอยทำให้เขาอารมณ์ไม่ดีขึ้นมา

ทว่าก่อนที่ฉู่หลิวเยว่จะได้เอ่ยตอบ หรงซิวก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยและพูดเสียงต่ำว่า

“ข้าเป็นคู่หมั้นของเยว่เอ๋อ”

สิบสามเบิกตากว้างด้วยความตกใจพร้อมอ้าปากค้าง

“จะจะจะ… เจ้าเป็นคู่หมั้นของฝ่าบาท!?”

ไม่ใช่ว่าฝ่าบาทเพิ่งจัดการกับเจียงอวี่เฉิงและซั่งกวนหว่านหรอกหรือ เหตุใดจู่ๆ ถึงมีคู่หมั้นมาปรากฏตัวอีกครากัน!?

เนื่องจากสิบสามยังเด็ก จึงไม่มีใครเล่าเรื่องนี้ให้เขาฟัง ดังนั้นเมื่อเห็นอีกฝ่ายแวบแรก เขาจึงรู้สึกตกใจเป็นพิเศษ

แต่ฉู่หลิวเยว่กลับครุ่นคิดว่าเมื่อครู่นี้ สิบสามกำลังจะพูดอันใดต่อ?

เหมือนว่าเขาจะพูดถึง… พระเจ้าหลวง?

แต่ด้วยสติปัญญาระดับคนอย่างหรงซิวแล้ว เพียงแค่หลุดมาประโยคเดียว ก็เกรงว่าคงจับทางและเดาเรื่องตัวตนของนางได้แล้ว!

“เมื่อครู่เจ้าพูดว่า ใครใช้ให้เจ้ามาตามเยว่เอ๋อกลับไปนะ?”

สุดท้ายหรงซิวก็พูดออกมาตรงๆ

ฉู่หลิวเยว่คิ้วกระตุกเป็นพักๆ

สิบสามเตรียมอ้าปากตอบกลับ แต่พอเห็นสัญญาณแปลกๆ จากนัยน์ตาขององค์หญิงใหญ่ของตน เขาจึงปิดปากเงียบ

“คือว่า…หรงซิว ข้ามีเรื่องอยากจะบอกเจ้า…”

เดิมทีฉู่หลิวเยว่ต้องการรอเวลาที่เหมาะสม เพื่อเล่าเรื่องทั้งหมดให้เขาฟัง แต่ก็ดันคิดไม่ถึงว่าคนสองคนที่เพิ่งจะได้มาเจอกันนั้น จะ…

แต่ในเมื่อถึงขนาดนี้แล้ว หากไม่บอกความจริงคงไม่ดีแน่ๆ!

หรงซิวหลุบตามองนาง สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความลำบากใจ พร้อมรอยยิ้มบางที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลา

นี่เป็นเพราะนางไม่เคยนึกถึงจิตใจของเขาและไม่ยอมบอกความจริงทั้งหมดให้เขารู้สินะ?

“หือ?”

หรงซิวพึมพำออกมาเบาๆ เสียงทุ้มต่ำเชิงย้อนถามเป็นนัยนี้ ราวกับเป็นเสียงที่เปล่งออกมาจากส่วนลึกของจิตใจ มันสื่อถึงหัวใจของนางจนใจเต้นระรัว ก่อนจะทะลุผ่านแก้วหูออกไป

ทั้งชัดเจนและน่าลุ่มหลง

ฉู่หลิวเยว่หน้าแดงเล็กน้อย แต่ก็เอื้อมมือไปจับมือเขาไว้อย่างนุ่มนวลและมั่นคง พร้อมสอดประสานนิ้วของตนลงไป

“เจ้ามากับข้าหน่อย”

…

ณ ถนนลิ่วอวิ๋น

ภายในจวนฉู่

สายฝนเริ่มซาลงแล้ว และมีแอ่งน้ำน้อยใหญ่เจิงนองอยู่บนพื้นในลานบ้านที่เงียบสงบ

หยดน้ำที่หยดลงมาจากชายคาอย่างต่อเนื่อง ร่วงหล่นลงไปในแอ่งน้ำจนเกิดเป็นระลอกคลื่นเล็กๆ

อากาศหลังฝนตกนั้นชุ่มฉ่ำชวนให้รู้สึกสดชื่น

สิบสามยืนรออยู่นอกประตูอย่างกระวนกระวาย พลางมองไปยังประตูที่ปิดอยู่เป็นครั้งคราวอย่างไม่ละสายตา

ฝ่าบาทกับชายผู้นั้นเข้าไปตั้งนานแล้ว ทว่าจนป่านนี้ก็ยังไม่ออกมา

หากฟังจากที่ฝ่าบาทพูดแล้ว ดูเหมือนว่าฝ่าบาทอยากจะอธิบายอันใดบางอย่างให้กับอีกฝ่ายหรือ?

หากแต่สถานะของฝ่าบาทนั้นสูงส่งและเด็ดขาดยิ่งนัก เมื่อใดกันที่ฝ่าบาทจักต้องเป็นฝ่ายอธิบายให้คนอื่นฟังมากมายเช่นนี้?

อีกทั้ง… ที่สำคัญก็คือ บุรุษผู้นั้นเป็นคู่หมั้นของฝ่าบาท!

สิบสามเกาหัวแกรกๆ ด้วยความงุนงง

ก่อนหน้านี้พวกพี่เจ็ดเองก็ไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้มาก่อน…

ตัวเขาเติบโตขึ้นในเมืองซีหลิง และเขาแน่ใจว่าชายคนนั้นไม่ใช่คนจากซีหลิงแน่นอน

อย่างใดเสีย เมื่อพิจารณาจากลมปราณรอบๆ ตัวอีกฝ่ายแล้ว เขาเองก็ไม่ควรประมาท…

สิบสามมองเข้าไปข้างในอีกครั้ง แล้วเกาหัวอย่างจนปัญญา

…

“… และนี่คือสิ่งที่ข้าอยากบอกกับเจ้า”

ภายในห้องโถง ฉู่หลิวเยว่และหรงซิวนั่งหันหน้าเข้าหากัน

ฉู่หลิวเยว่บรรยายเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของตน ตั้งแต่ครั้งในอดีตจนถึงปัจจุบัน

“ข้าคือฉู่หลิวเยว่ที่เติบโตมาในแคว้นเย่าเฉิน และก็เป็นซั่งกวนเยว่แห่งราชวงศ์เทียนลิ่งเช่นกัน”

นางมองไปที่หรงซิวและพูดอย่างจริงจัง

“ก่อนหน้านี้ ข้าบอกเจ้าแค่ว่าศัตรูของข้าอยู่ที่ซีหลิง แต่ไม่ได้อธิบายเรื่องทั้งหมดให้เจ้าฟัง นั่นเพราะ… ในตอนนั้น ยังไม่แน่ใจว่าตัวเองจะทำสำเร็จหรือไม่”

“แต่ตอนนี้ทุกอย่างลงตัวแล้ว ข้าเลยอยากหาโอกาสคุยกับเจ้า แต่ไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นวันนี้”

ฉู่หลิวเยว่สูดหายใจเข้าลึก

“หรงซิว นี่คือ… ตัวจริงของข้า”

พอพูดจบนางก็เงียบเสียงลง และรอการตอบกลับจากหรงซิวเงียบๆ

แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงก็คือ ใบหน้าของหรงซิวกลับนิ่งเฉยไม่แม้แต่จะตกใจกับสิ่งที่นางพูดไปเลยสักนิด และมีเพียงความรู้สึกเห็นอกเห็นใจปรากฏขึ้นระหว่างคิ้วและดวงตาของเขา

เขาเอื้อมมือไปบีบมือนางแน่น พลางใช้ปลายนิ้วถูหลังมือบางเบาๆ สองสามครั้ง

“เจ็บหรือเปล่า?”

ฉู่หลิวเยว่ชะงัก

“กระไรหรือ?”

“ไม่ว่าจะเป็นการเผาตัวเองในวันนั้น หรือทุกสิ่งที่เกิดขึ้นตามมา… เยว่เอ๋อของข้า คงต้องทนทุกข์ทรมานมากเลยใช่หรือไม่?”

หรงซิวมองนางด้วยดวงตาที่ลึกล้ำ

เขาเฝ้ารอให้นางเล่าทุกอย่างด้วยตัวเอง แต่สำหรับนางแล้ว มันคงไม่ต่างจากการสะกิดบาดแผลที่ยังไม่ปิดสนิทดีจนบาดแผลมันเปิดอีกครั้งเลย

เมื่อได้รู้ว่านางผ่านความเจ็บปวดทรมานมานักต่อนัก สำหรับเขาแล้ว มันแทบไม่ใช่ความทรมานที่คนธรรมดาจะทนได้เลย

ฉู่หลิวเยว่ตกตะลึง พลันร้อนผ่าวในตา

“หรงซิว เจ้า… เจ้าไม่โกรธที่ข้าโกหกเจ้าหรือ?”

แม้ว่านางจะไม่ได้ตั้งใจหลอกลวง แต่สุดท้ายนางก็ซ่อนความลับไว้มากมาย

แต่หรงซิวเขา… ไม่ถือโทษโกรธนางสักนิดเลยหรือ?

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หรงซิวก็ส่ายหัวเบาๆ พลางแย้มยิ้มบาง และถอนหายใจ

“มันสายเกินไปที่จะเสียใจแล้ว และเจ้าเจ็บปวดเพียงนี้ จะให้ข้าโกรธเจ้าลงได้เยี่ยงไร?”

ฉู่หลิวเยว่ไม่คิดว่าหรงซิวจะมีปฏิกิริยาเช่นนี้

ผ่านไปครู่หนึ่ง หรงซิวก็ขยับเข้ามาใกล้และเช็ดหยดน้ำตาออกจากหางตาของนาง

“สัญญากับข้า ถ้าในอนาคตเกิดอันใดขึ้น ก็อย่าแบกไว้คนเดียว ข้าอยู่นี้ตรงเสมอ”

พลันความวิตกกังวลและความรู้สึกผิดก่อนหน้านี้ทั้งหมด ก็พลันมลายหายไปทันที และกลายเป็นความคับแค้นใจที่พรั่งพรูออกมาแทน

ราวกับชุดเกราะหนักถูกถอดออกไปจากร่าง เพียงพริบตาร่างกายของนางก็ผ่อนคลายขึ้นกว่าเก่า

ความทุกข์ทรมานและความเจ็บปวดที่นางเคยประสบในอดีตนั้น ดูเหมือนจะกลายเป็นสิ่งที่มีค่าแก่การกล่าวถึงแล้ว

สวรรค์ประทานความเจ็บปวดและหายนะแก่นาง แต่ก็ประทานความอดทนให้นางด้วยเช่นกัน

ฉู่หลิวเยว่หลับตาลงและฝังใบหน้าไว้บนไหล่ของเขา พร้อมเอ่ยเสียงอู้อี้

“ข้าสัญญา”

…

จากนั้นก็มีเสียงเคาะประตูจากข้างนอก

ตามมาด้วยเสียงที่ฟังดูประหม่าของสิบสาม

“องค์หญิงขอรับ? ฝนหยุดตกนานแล้ว พวกเรากลับวังก่อนดีกว่านะขอรับ?”

ความจริงแล้วเขาไม่อยากขัดหรอก แต่ที่วังเองก็ยังมีคนรอนางอยู่!

ฉู่หลิวเยว่ค่อยๆ สงบสติอารมณ์ และผละตัวเองออกมาจากอ้อมแขนของหรงซิว

เกือบลืมไปเลยว่าสิบสามยังรออยู่ข้างนอก

“มีบางสิ่งที่ข้าอยากจะบอกเจ้า แต่ดูเหมือนว่าวันนี้คงจะไม่ได้”

หรงซิวปัดไรผมที่ค่อนข้างยุ่งเหยิงของนางไปด้านหลัง และลูบใบหน้าของนางเบาๆ

ฉู่หลิวเยว่ช้อนสายตามองเขา พลันมีแสงสีขาวสว่างวาบขึ้นในหัวของนาง

นางแอบสัมผัสได้ว่าเหมือนหรงซิวอย่างจะบอกบางอย่างที่สำคัญมากให้นางรู้

และ… เป็นไปได้ว่ามันอาจจะเป็นเรื่องที่เขาคือ “บุตรแห่งสวรรค์” เมื่อคราก่อน!

แต่เพราะสิบสามกำลังกดดันนางอยู่ การอยู่ที่นี่นานเกินไปอาจไม่สะดวกนัก

ฉู่หลิวเยว่จึงทำได้เพียงพยักหน้าตอบกลับ

“เช่นนั้นคืนนี้เจ้าก็พักอยู่ที่นี่เถอะ พรุ่งนี้ค่อย…”

นางหยุดชะงักไปนิด พลันตวัดสายตาขึ้นมองไปยังหรงซิวอีกครั้ง

“ที่จริง ก่อนหน้านี้ท่านพ่อเคยบอกข้าว่า… ท่านอยากเจอเจ้า”

หรงซิวเข้าใจและกดจูบเบาๆ ตรงหว่างคิ้วของนาง

“เช่นนั้นพรุ่งนี้ข้าจะเข้าไปสวัสดีพ่อตาเอง”

ฉู่หลิวเยว่หน้าแดงเรื่อ ก่อนจะถามด้วยความกังวลเล็กน้อย

“พรุ่งนี้จะดูเร็วไปหรือเปล่า?”

เรื่องแบบนี้มันควรต้องใช้เวลาเตรียมตัวก่อนมิใช่หรือ…

หรงซิวหรี่ตาคมประดุจหงส์ฟ้าลงเล็กน้อย แววตาของเขาแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มเอ็นดู

ดูเหมือนว่าฮูหยินของเขาจะไม่ค่อยเชื่อในตัวบุรุษของนางเลยนะ

“เช่นนั้นก็…หลังจากนี้สามวัน”

————————————————————–

ตอนก่อน
ตอนต่อไป

ความคิดเห็นทั้งหมดของ "ตอนที่ 913 ให้หรงซิวของนางได้รู้"

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

*

*

  • อ่านนิยาย
  • แทงหวย24

© 2020 cat-novel.com
เว็บอ่านนิยาย นิยาย pdf เว็บ “cat-novel.com” เว็บอ่านนิยายสนุกๆ เพลิดเพลินไปกับนิยายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น นิยายวาย, นิยายจีน, นิยายรัก, แฟนตาซี, กำลังภายใน, ผจญภัย สุดยอดวิชากำลังภายใน อัพเดททุกวัน พร้อมรองรับการอ่านบนมือถือ คอมพิวเตอร์ ไอแพด หรือแท็บเล็ต อ่านได้ตลอดเวลา ไม่มีโฆษณา อ่านนิยายฟรีต้อง เว็บ ”cat-novel.com”
นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์