ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 98 ล้วนเป็นสิ่งของที่นางชอบ
ยิ่งไปกว่านั้น กล่องไม้เหมยเขียวยังล้ำค่ามาก แต่ฉู่หลิวเยว่กลับเอาไว้ใช้เก็บชาหอมสำหรับแช่เท้าจริงๆ อย่างนั้นหรือ
นี่มันเสียของชัดๆ!
ลู่เฟยเยี่ยนอยากจะถามฉู่หลิวเยว่นักว่าคิดได้ยังไง!
ทว่าพอคำพูดมาติดอยู่ที่ริมฝีปากแล้วกลับเห็นว่าฉู่หลิวเยว่มีสีหน้าเรียบและน้ำเสียงที่สงบเรียบนิ่ง ราวกับว่าเป็นเรื่องปกติไม่คู่ควรแก่การพูดถึงสักเท่าไหร่
ดังนั้นจึงเห็นได้ชัดว่ากลายเป็นนางที่อึกทึกครึกโครมไปเองราวกับคนไม่เคยเห็นโลกกว้างมาก่อน
ลู่เฟยเยี่ยนรู้สึกหงุดหงดเป็นอย่างยิ่งราวกับมีอะไรมาจุกอยู่ที่อกและอึดอัดมาก
นางเป็นถึงคุณหนูใหญ่ตระกูลลู่อันมั่งคั่ง นางเคยเป็นขี้ข้ารองเท้ารองมือผู้อื่นเสียที่ไหนกัน
แค่คิดว่าของที่กำลังถืออยู่ในมือคือชาที่ฉู่หลิวเยว่เอาไว้แช่เท้า นางก็โกรธจนแทบจะอกแตกตายอยู่แล้ว!
“ใครเขาอยากถือของโกโรโกโสของเจ้ากัน…”
ลู่เฟยเยี่ยนก่นด่าแล้วทำท่าจะโยนกล่องไม้แรงๆ!
“คุณหนูลู่โปรดระวังด้วย แม้ของสิ่งนี้จะไม่ได้มีค่ามากมาย แต่หากพังเสียหายก็คงต้องให้คุณหนูลู่ชดใช้”
ฉู่หลิวเยว่กล่าวอย่างสุภาพอ่อนโยน จากนั้นจึงยกมือข้างหนึ่งแล้วกดไปที่กล่องไม้เบาๆ
ลู่เฟยเยี่ยนสัมผัสได้ถึงแรงกดดันหนักหน่วงกดทับลงมาที่มือทันที และไม่สามารถเคลื่อนไหวได้!
นางตกตะลึง
ฉู่หลิวเยว่แข็งแกร่งขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่
ที่สำคัญ หากนางต้องชดใช้จริงๆ ล่ะก็…ลำพังตัวนางเองคงไม่มีปัญญาหาเงินมาชดใช้มากมายขนาดนั้น!
หลังจากดิ้นรนอยู่นาน ในที่สุดลู่เฟยเยี่ยนก็ผ่อนแรงแล้วกัดฟันพูดด้วยความเจ็บใจ
“รู้แล้วน่า! ก็แค่กล่องไม้เหมยเขียวกล่องเดียวจะมีดีอะไร!”
จากนั้นก็มีเสียงซุบซิบนินทาดังมาจากฝูงชน
ถึงอย่างไรของของฉู่หลิวเยว่ก็มีไว้แค่เก็บชาดอกไม้เท่านั้นจะไปเปรียบเทียบอะไรได้
ฉู่หลิวเยว่กลอกตาด้วยความสะใจ
“คุณหนูใหญ่ตระกูลลู่ช่างเป็นผู้รอบรู้เสียจริงๆ”
หลังจากเอ่ยประโยคนี้จบ นางก็หันไปหยิบของออกมาจากรถม้าอีกบางส่วน
“ถ้วยแก้วมณีเจ็ดแสงนี้ช่างบอบบางยิ่งนัก หหากอุณหภูมิสูงหรือต่ำเกินไปก็จะแตกเอาได้ ถือระวังๆ หน่อยก็แล้วกัน”
“นี่ก็พัดหยกสีม่วง ช่วงกลางฤดูร้อนอากาศช่างร้อนอบอ้าวยิ่งนัก ใช้สิ่งนี้พัดให้ลมโชยก็ดีเหมือนกัน”
“อ่อ แล้วหินฝนหมึกนี่เป็นหินฝนหมึกไหมทอง ห้ามใช้มือสัมผัสโดยตรงเด็ดขาด ต้องใช้แผ่นลวดเงินจับเท่านั้น”
ฉู่หลิวเยว่อธิบายข้อควรระวังให้พวกนางฟังอย่างละเอียด
ลู่เฟยเยี่ยนและพวกพ้องที่วางท่าโอ้อวดหยิ่งผยองเมื่อก่อนหน้านี้กลับค่อยๆ มองเหม่อ
เพราะสิ่งของเหล่านี้แทบจะประเมินค่าไม่ได้!
แม้แต่บางคนก็เพิ่งเคยได้ยินชื่อไม่เคยเห็นด้วยซ้ำ!
เมื่อมองดูสิ่งเหล่านั้น ลู่เฟยเยี่ยนซึ่งเดิมทีเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองและไม่เต็มใจอยู่แล้ว ตอนนี้สีหน้าของนางก็ยิ่งบูดบึ้งมากขึ้น
ตอนแรกนางคิดว่าฉู่หลิวเยว่คงจะมีแค่กล่องไม้เหมยเขียวเป็นสมบัติล้ำค่าเพียงชิ้นเดียวเท่านั้น ทว่าตอนนี้ดูแล้วมันไม่ใช่แบบนั้นเลยสักนิด
เมื่อคิดๆ ดูแล้วก่อนหน้านางยังเยาะเย้ยฉู่หลิวเยว่และหาว่านางยากจนข้นแค้นอยู่เลย ลู่เฟยเยี่ยนเอาแต่รู้สึกจุกอก ใบหน้าร้อนผ่าวแล้วต้องการหาที่ระบายด้วยความทนไม่ไหว
แม้แต่คนโง่ก็ยังดูออกว่าใครคือกบในกะลากันแน่!
ลู่เฟยเยี่ยนยังเป็นถึงขนาดนี้ ผู้อื่นก็ไม่ต้องเอ่ยถึง
ส่วนหญิงสาวคนอื่นๆ ก็สติหลุดลอยกันไปหมดแล้ว พวกนางยืนถือของนิ่งค้างไม่กล้าขยับเขยื้อน เพราะเกรงว่าจะทำข้าวของพังเสียหาย
เพราะพวกนางชดใช้ไม่ไหวนี่นา!
คนรอบข้างที่รอดูเรื่องตลกก็ตกใจไปตามๆ กัน
จะว่าไป…ฉู่หลิวเยว่นี่ก็ฟุ่มเฟือยเหมือนกันนะ
ไหนบอกว่านางกับฉู่หนิงตัดขาดจากตระกูลฉู่ไปแล้วมิใช่หรือ
หากว่ากันตามหลักการ พวกเขาสองคนพ่อลูกควรใช้ชีวิตอย่างกระเบียดกระเสียรนี่นา กระนั้นดูท่าทางยามนี้…พวกเขายังดูใช้ชีวิตหรูหรายิ่งกว่าลูกหลานตระกูลขุนนางใหญ่เสียอีก!
แม้แต่ไป๋เชินก็ยังมองข้าวของพวกนั้นอยู่หลายครั้งอย่างอดมิได้ แล้วก็ได้แต่อ้าปากพะงาบๆ
“ไม่รู้จริงๆ ว่าเสี่ยวหลิวเยว่จะมีสิ่งของเยอะแยะขนาดนี้”
แล้วสิ่งของพวกนี้ไม่ใช่ว่ามีเงินแล้วจะหาซื้อมาได้
สมบัติบางชิ้น ต่อให้เขาอยากได้มาครอบครองก็ไม่มีหนทางหาซื้อมาได้หรอกนะ!
ฉู่หลิวเยว่คลี่ยิ้มโดยไม่เอ่ยสิ่งใด
หากเป็นเมื่อก่อนฉู่หลิวเยว่จะมีข้าวของพวกนี้ได้อย่างไร ต่อให้เป็นตระกูลฉู่ก็คงไม่สามารถใช้เงินมือเติบได้ถึงขนาดนี้
อันที่จริงนางหยิบเอาสิ่งของพวกนี้มาจากในหีบใบนั้นที่คุณชายรองเหยียนนำมามองให้
ของใช้เล็กๆ น้อยๆ กลับดึงดูดความสนใจจากผู้คนได้มากเลยทีเดียว หากพวกเขารู้ว่าในบ้านของนางยังมีมากกว่านี้อีกเยอะแล้วที่นางหยิบมายังไม่ถึงหนึ่งในสิบส่วนเลยก็ไม่รู้ว่าคนพวกนี้จะทำหน้ากันยังไง
เดิมทีที่นางเห็นบรรดาของขวัญที่คุณชายรองเหยียนส่งมาให้เยอะแยะมากมานั้นยนางก็ตกใจมากพอแล้ว คิดไม่ถึงว่าหลังจากเปิดหีบออกมาจะมีสิ่งที่น่าประหลาดใจรอนางอีกนับไม่ถ้วนในนั้น
ของทุกชิ้นในหีบไม่มีสมบัติชิ้นไหนที่ไม่ล้ำค่าเลย
ซึ่ง ‘วัตถุโบราณล้ำค่า’ ที่วางขายในเจินเป๋าเก๋อตามปกติยังมิอาจเทียบกับสิ่งของพวกนี้ได้เลย
เพราะเหตุนี้จึงทำให้ฉู่หลิวเยว่ต้องเริ่มสืบทรัพย์สินและเบื้องลึกเบื้องหลังของเจินเป่าเก๋อใหม่อีกครั้ง
เป็นเวลาหลายวันแล้วนับตั้งแต่ที่องค์หญิงสี่ประสบอุบัติเหตุ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบข่าวใดๆ ว่าฝ่าบาทจะลงอาญาเจินเป่าเก๋อหรือไม่
เริ่มจากเรื่องพวกนี้ก็สามารถคาดเดาเหตุการณ์ต่างๆ ได้มากมาย
เจินเป่าเก๋อช่างลึกลับกว่าที่นางคิดเอาไว้เยอะ
อดีตชาติของนางคือองค์หญิงรัชทายาทแห่งฟ้าลิขิต สิ่งที่เคยเห็นข้าวของที่เคยใช้ล้วนเป็นสิ่งที่ดีที่สุด อันที่จริงมูลค่าของสิ่งเหล่านี้ไม่อาจทำให้นางหวั่นไหวเลยสักนิด
ทว่าว่าของพวกนี้มัน…
ตั้งแต่ถ้วยน้ำชาไปจนถึงหมึกที่ใช้เขียนอักษรหรือตลอดจนกล่องไม้เหมยเขียวที่เอาไว้เก็บชาดอกไม้นั้นล้วนเป็นสิ่งของที่นางชื่นชอบและโปรดปรานทั้งนั้น
ข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างล้วนเป็นไปตามที่นางชอบอย่างประจวบเหมาะ