ยอดหญิงอันดับหนึ่ง - ตอนที่234แม้จะช้าไปแต่ก็ยังไม่สายเกิน(2)
แต่คิดไม่ถึงว่าในยามปกติเยี่ยนอ๋องผู้นี้จะถูกพี่สามของเขาให้ท้ายส่งเสริมจนเกินไปขนาดนี้! ไม่คิดเลยว่ากระทั่งเรือนของสนมในจวนก็กล้าเข้าไปตามอำเภอใจได้!
อวิ๋นหว่านชิ่นสีหน้าเคร่งขรึม ฉิงเสวี่ยเอ่ยขึ้นว่า “แต่ก็ดีนะเพคะ เราก็จะได้ทูลรายงานขึ้นไป! มิใช่ว่าพระสนมเอกมักจะปกป้องแม่นางสกุลหันนั่นหรือไร ให้นางได้ตาสว่างว่าพระสนมที่นางถูกพระทัยเป็นคนอย่างไร! แม่นางสกุลหันยังจะคิดอยากเป็นสนมอีกหรือไม่ เรียกได้ว่าจบเห่แล้ว! วันแรกก็ทำเรื่องผิดผีงามหน้าเช่นนี้!”
เจินจูพยักหน้าหงึกหงักอย่างแรง
อวิ๋นหว่านชิ่นเอ่ยว่า “จะจับชู้ต้องจับให้ได้ทั้งคู่ หากพวกเจ้าไปจับคาหนังคาเขาเสียแต่ตอนนั้นยังพอนับได้ แต่ยามนี้เขาออกไปแล้ว พวกเจ้าค่อยมารายงาน ใครจะมายอมรับกัน”
“โอ๊ย!” ฉิงเสวี่ยตบศีรษะตัวเองอย่างร้อนรน “โทษที่บ่าวสองคนเอาแต่ลังเล หากรู้แต่แรกเช่นนี้ คงไม่สนอันใดทั้งนั้น น่าจะตัดสินใจให้เด็ดขาดเสียแต่ตอนนั้น ให้คนบุกเข้าไปเลยก็คงดี!”
“นั่นสิ เรามัวแต่ห่วงเรื่องความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของเยี่ยนอ๋องกับองค์ชายสาม ไม่รู้ว่าควรจะทำให้เป็นเรื่องใหญ่ดีหรือไม่” เจินจูเสียดายไม่สิ้น นี่เป็นโอกาสที่ดีมากๆ ที่จะจัดการแม่นางสกุลหันให้ออกไปจากจวน คิดไม่ถึงว่าจะทำให้เหนียงเหนียงพลาดมันไปแล้ว!
อวิ๋นหว่านชิ่นเห็นพวกนางหงุดหงิดจึงเอ่ยว่า “พวกเจ้าระงับไม่ตัดสินใจทำก็ถูกแล้ว หากรายงานขึ้นไป แม้ว่าแม่นางหันจะจบเห่ ชื่อเสียงของเยี่ยนอ๋องจะเสื่อมเสียไปด้วยจนหมดสิ้น แต่ก็ยังต้องได้รับโทษจากฮ่องเต้ เกรงว่าจะยิ่งส่งผลกระทบต่ออนาคต เยี่ยนอ๋องเป็นมือซ้ายมือขวาของท่านอ๋อง ตัดมือซ้ายขวาของท่านอ๋องทิ้งเพื่อเรื่องของแม่นางหัน ไม่ว่าอย่างไร ก็ยังคงเป็นจวนฉินอ๋องที่เสียเปรียบอยู่ดี”
ทั้งคู่ทราบว่าเหนียงเหนียงกำลังปลอบใจ แต่ก็ยังโทษตัวเองอยู่ดี
ชูซย่ามองทั้งคู่ “เอาล่ะ หากแม่นางหันทำเรื่องไม่งามขึ้นจริงๆ เกรงว่าต่อไปนางเองคงได้อยู่อย่างกังวลจนอกสั่นขวัญแขวน เพราะกลัวว่าเรื่องจะแดง ไหนเลยจะยังกล้าคิดอยากครอบครององค์ชายสามอีก จากท่าทางยากลำบากที่นางเข้าจวนมาในวันนี้ ต่อให้อยู่ที่จวนต่อ ก็เป็นแค่การเลี้ยงดูคนเกียจคร้านเท่านั้น ไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อเหนียงเหนียงสักนิด คนในจวนมีตั้งมากตั้งมายเพียงนี้ เพิ่มมาอีกสักคนยังจะกลัวอันใดอีก นี่ก็ดึกมากแล้ว พวกเจ้ากลับไปเถิด”
ทั้งคู่รู้สึกดีขึ้นมานิดหน่อย จึงลากลับไป
ภายในห้องเงียบสงัด แม้ชูซย่าเพิ่งจะปลอบใจฉิงเสวี่ยกับเจินจูไปหยกๆ แต่ก็มีบางคำพูดที่อดใจไว้ไม่อยู่ “เหนียงเหนียงมักจะคำนึงถึงองค์ชายสามเสมอเลย”
นางหยิบตำราขึ้นมา ทำเพียงแค่แย้มยิ้ม “วันนี้เขาก็มิได้ไปเรือนถังจู ก็นับว่าคำนึงถึงข้าเช่นกัน”
แม้จะรู้ว่าเขากับหันเซียงเซียงไม่เกิดความรู้สึกใดกันขึ้นได้ แต่วันรับสนมอย่างเป็นทางการเช่นนี้ หากในใจไร้ซึ่งความรู้สึกใดล่ะก็ ไม่มีทางเช่นกัน
เห็นเขาขนาดวันนี้ยังไม่เข้าห้องของนาง อารมณ์อันเงียบเหงาตลอดทั้งคืนจึงได้ปลอดโปร่งขึ้นมาเล็กน้อย
“ไหนเลยจะคำนึงถึงท่านเจ้าคะ แม้ว่าจะออกจากเรือนถังจูมา แต่ก็มิได้มาหาท่านเช่นกันนะเจ้าคะ ยามนี้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยแล้วด้วย” ชูซย่ายู่ปาก
ก็จริง ถ้าเขาอยู่ในจวนนี้มีสองที่ที่เขาจะอยู่ ไม่เรือนฮั่นม่อ ก็เรือนหลักซึ่งเป็นที่พักของพวกเราทั้งคู่แห่งนี้
ยามนี้ไปไหนเสียแล้วเล่า
อวิ๋นหว่านชิ่นสงสัยอยู่ครู่หนึ่ง อารมณ์หดหู่อย่างยากจะอธิบาย หรือจะไปสะสางราชกิจ
นี่มันช่าง…
สนมนางหนึ่งนับว่าเป็นอันใดได้ ยามนี้นางนับว่ากระจ่างแจ้งแล้ว ราชกิจต่างหากที่เป็นศัตรูหัวใจของนางอย่างแท้จริง
รออยู่อีกสักพัก สีฟ้าราตรีเข้มขึ้นกว่าเดิม ไร้ซึ่งท่าทีที่เขาจะมายังเรือนหลักแล้ว
อวิ๋นหว่านชิ่นจึงไม่คิดเรื่องของเขาอีก เรียกชูซย่าให้ออกไปเอาน้ำให้ตน ล้างหน้าผลัดอาภรณ์ ชุดที่ใส่ต้อนรับพระสนมเอกเมื่อครู่ยังมิได้ผลัดเปลี่ยนไป
ชูซย่าขานรับแล้วออกไป
ครู่ต่อมา เทียนเผาไหม้ไส้ที่เหลือไปหมดแล้ว อวิ๋นหว่านชิ่นเหนื่อยล้าอยู่เล็กน้อย ยังไม่ทันจะเห็นคนเข้ามาก็วางตำราลง “ชูซย่า”
ไร้ซึ่งเสียงตอบรับ นางเอ่ยเรียกอีกครั้ง จึงได้ยินเสียงขานรับจากชูซย่าอย่างรีบร้อน อีกฝ่ายสาวเท้าเข้ามาด้วยสีหน้าตระหนก “เหนียงเหนียง แย่แล้วเจ้าค่ะ มีเรื่องที่ร้านเซียงหยิงซิ่วต้องให้เหนียงเหนียงจัดการ”
ร้านเซียงหยิงซิ่วรึ ยามนี้เปิดกิจการครึ่งวัน พักครึ่งวันแล้ว และไม่มีการหมุนเวียนกระแสเงินและสินค้าของกิจการใหญ่ใด จะเกิดเรื่องใดขึ้นได้กัน อวิ๋นหว่านชิ่นฉงน “เกิดอันใดขึ้นรึ”
“จริงๆ ก็มิใช่เซียงหยิงซิ่ว…เป็นทางด้านน้ำพุร้อนเจ้าค่ะ ท่านไปดูก็จะรู้” ชูซย่าเอ่ยตะกุกตะกัก
ปกติชูซย่าจะใจเย็นและนิ่งเป็นส่วนใหญ่ ยากนักที่นางจะมีท่าทีเช่นนี้ อวิ๋นหว่านชิ่นขมวดคิ้ว “เกิดเรื่องใดกันแน่”
“คนมาส่งข่าวก็มิได้เอ่ยอย่างกระจ่างแจ้งเช่นกันเจ้าค่ะ บอกแค่ว่าเป็นเรื่องด่วน ให้เชิญเถ้าแก่ไปดู”
ในหัวอวิ๋นหว่านชิ่นปรากฏเป็นความคิดที่ไม่ค่อยดีนัก กิจการสำคัญ และจะรอให้ถึงวันรุ่งขึ้นก็มิได้ จึงไม่สนใจจะล้างหน้าผลัดผ้า นางลุกพรวดขึ้นเดินนำชูซย่าออกเรือนไป
รถม้าเคลื่อนบดแผ่นหินมรกตบนถนนหลวง บ่อน้ำพุร้อนเมาเหยี่ยนตั้งอยู่ชานเมือง ก่อนที่ประตูเมืองจะปิดลงเพราะห้ามเข้าออกในยามวิกาล รถม้าของจวนอ๋องก็ออกจากเมืองไป
ยังเดินทางไปไม่ไกลเท่าใดนัก ได้ยินเพียงเสียงประตูเมืองที่ปิดลง อวิ๋นหว่านชิ่นเลิกม่านขึ้น หันหน้ากลับไปพลางทอดถอนใจ “เมืองงดเข้าออกแล้ว อีกเดี๋ยวคงต้องหาทางกลับเข้าไป”
ชูซย่าโพล่งขึ้นว่า “อย่าใจร้อนไปเจ้าค่ะ”
อย่าใจร้อนไปรึ อวิ๋นหว่านชิ่นมองนางอย่างสงสัย คราก่อนตอนไปบ้านสวน สาวใช้นางนี้เร่งนางแล้วเร่งนางอีกให้รีบกลับจวน วันนี้นิสัยกลับเปลี่ยนไปเสียแล้ว
ในขณะที่กำลังคาดเดาอยู่นั้น รถม้าก็ใกล้น้ำพุร้อนเข้าไปทุกทีแล้ว
ชานเมืองที่ฟากฟ้าราตรีสีเข้มสนิทยิ่งสวยและเงียบสงบมากขึ้น คลอเคล้าไปกับเสียงน้ำจากธรรมชาติเอื่อยไหล คล้ายกับอยู่ต่างโลก
อวิ๋นหว่านชิ่นลงจากรถ วิ่งตรงเข้ามายังทางเข้า ชูซย่ารีบพยุงนางไว้แน่น
ไร้ซึ่งเงาของผู้ดูแลที่อยู่เฝ้าประจำ อวิ๋นหว่านชิ่นกำลังคิดจะไปยังอาคาร ก็ถูกชูซย่าคว้าไว้ แล้วชี้ไปด้านหน้า “เหมือนจะบอกว่าเป็นสระทางนั้นนะเจ้าคะ”
สาวใช้นางนี้ สายตาแปลกประหลาด ไม่เหมือนท่าทีหลบลี้หนีหน้าเมื่อครู่สักนิด ซ้ำยังมีรอยยิ้มลึกซึ้งบางอย่างปรากฏขึ้นมาอีกด้วย
อวิ๋นหว่านชิ่นคล้ายจะเดาอันใดบางอย่างออก แต่ก็ไม่รีบร้อน ทิ้งสาวใช้เอาไว้ เดินเลียบทางสายเล็กที่เปียกลื่นไปอย่างช้าๆ เพียงลำพัง
เป็นสระกลีบประทุมที่เคยมากับเขาครานั้น ยิ่งเดินเข้าใกล้เท่าใด ไอร้อนก็ยิ่งโถมเข้าหามาเท่านั้น ภายในอากาศมีกลิ่นพิเศษเฉพาะลอยอวล
กลิ่นนี้…คล้ายกลิ่นของวัตถุดิบยา
ชื่ออู่จยา[1]หยินหย่างฮั่ว[2]ตังกุย[3]ถั่งเช่า[4]…
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสมุนไพรที่ใช้เสริมความอบอุ่นทั้งสิ้น
ยาลูกกลอนห้ามเลือดต้องใช้สมุนไพรเหล่านี้มาเป็นวัตถุดิบเพื่อปรับสมดุล โดยการแช่สมุนไพรที่เป็นวัตถุดิบเหล่านี้ในน้ำพุร้อน ก็จะไม่ไปทำลายฤทธิ์ยาของลูกกลอนห้ามเลือด
อวิ๋นหว่านชิ่นกระจ่างแจ้งในทันใด หัวใจเต้นแรงตึกตัก นางยกมือขึ้นแหวกม่านบานสุดท้ายออก ในชั่วขณะที่ก้าวเท้าเข้าไปนั้นก็ตะลึงงัน อีกทั้งยังมีความเบิกบานใจท้วมท้นทรวงทีละนิด
สีแดงสดดั่งเปลวเพลิง ปูพรมอยู่ในสระน้ำพุร้อน หนาเตอะราวกับผ้าห่ม แต่ละดอกเบ่งบานอิ่มเอิบ กลีบดอกนั้นทั้งสดและนุ่มจนทำให้น้ำค้างแข็งตัวจากการเด็ดถอน
มันคือกุหลาบแห่งแดนตะวันตก ดูเหมือนว่าจะส่งมาภายในคืนนั้นโดยรักษาความสดเอาไว้
การแต่งหน้าแดงก่ำและอาภรณ์สีชาดของนางในคืนนี้เข้ากับกุหลาบที่อบจนแดงไม่น้อยกำลังสะท้อนกับนภากว้างได้อย่างลงตัว
ในสระมีบุปผา ริมฝั่งมีเทพธิดา
ด้านข้างของสระ เงาร่างสูงใหญ่เงาหนึ่งขยับไหว แววตาร้อนแรงค่อยๆ ลุกโชน
นางยังไม่ทันหลุดจากภวังค์ก็สัมผัสได้ถึงความร้อนที่เข้ามาใกล้ทางด้านหลัง แขนแกร่งคู่หนึ่งโอบกอดตนไว้ เอ่ยเสียงทุ้มต่ำใต้ตุ้มหูนาง “ชอบหรือไม่”
“ท่านยังจำได้หรือเจ้าคะ” นางหักใจละสายตาออกจากดอกกุหลาบเหล่านั้นมิได้เลย
“ข้าไม่เคยชอบของพวกนี้จากซีหยางเลย แต่ว่า ความหมายอุปมาของดอกไม้ชนิดนี้ดี มงคลยิ่ง”
นึกไม่ถึงว่าเขาจะยังจดจำความหมายของดอกกุหลาบซีหยางเอาไว้ คงเพราะความหมายของดอกไม้นี้คือนิรันดร์
“แม้จะช้าไปสักหน่อย แต่ก็ยังไม่สายเกิน” เขาก้มศีรษะลงอีกครั้ง
นางย่อมเข้าใจในความของคำว่า ‘ช้า’ และเห็นได้ชัดเจนแจ่มแจ้งว่าเขาได้วางแผนเอาไว้ทั้งหมดแล้ว สีหน้านางจึงพลันร้อนผ่าว “วันนี้หรือเจ้าคะ” กระทั่งเกริ่นกันก่อนสักหน่อยก็ไม่มี
———————————————
[1] ชื่ออู่จยา สมุนไพรที่ช่วยลดไขมันได้ค่อนข้างดี บํารุงหยิน เสริมไต สร้างสารน้ำดับกระหาย
[2] หยินหย่างฮั่ว บำรุงไต เสริมหยาง เพิ่มความรู้สึกทางเพศ และขจัดสิ่งกีดขวางการไหลเวียนของพลังหยาง เสริมเส้นเอ็นและกระดูก
[3] ตังกุย บำรุงเลือด ช่วยการไหลเวียนของเลือด ทำให้ประจำเดือนสม่ำเสมอ ระงับปวด ทำให้ลำไส้ชุ่มชื้นและช่วยระบาย
[4] ถั่งเช่า รักษาอาการไอเรื้อรัง เหงื่อออกมากผิดปกติ อาการปวดเมื่อยเอว เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ภาวะไตอักเสบเรื้อรัง เสริมบำรุงร่างกาย เพิ่มภูมิคุ้มกัน ขจัดความเหนื่อยล้า