ยอดหญิงแห่งวังหลัง - ตอนที่ 23.2
ตอนที่ 23-2 แมวเปอร์เซีย
ขณะนี้หลี่จางเล่อกำลังวางมือลงบนผ้าไหมฮายุนฮ่องที่ส่องประกายวับวาว
และในขณะเดียวกันมือของหลี่ฉางหลูก็ได้เอื้อมมาจับมัน และเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกสองสามครั้ง
แม้ว่าหลี่จางเล่อจะยังคงมีความสงบนิ่ง แต่รอยยิ้มบนใบหน้าของนางได้เริ่มจางหายไปแล้ว
ฮูหยินรองหัวเราะคิกคักด้วยความชอบใจ และกล่าวว่า
“คุณหนูใหญ่ได้รับการดูแลเป็นมาอย่างดีมาโดยตลอด คงจะคุ้นเคยกับสิ่งเหล่านี้แล้ว
แต่น้องสาวของท่านยังเป็นเด็ก เมื่อนางได้พบกับสิ่งที่แปลกใหม่ จึงเกิดความตื่นตาตื่นใจ
ดังนั้นท่านอย่าได้อารมณ์เสียไปเลย
เอาเป็นว่า เพื่อเป็นการปลอบใจ ข้าจะมอบชุดเครื่องประดับที่ทำจากอัญมณีให้กับเจ้า”
จางเล่อมีเครื่องประดับที่ทำจากอัญมณีมากมาย แต่มิมีผ้าไหมที่หายากเช่นนี้มากนัก
ใบหน้าของนางเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความโกรธ แต่มิสามารถกล่าวอันใดออกมาได้
หลี่เว่ยหยางลดสายตาลง และคิดอยู่ในใจว่า ผ้าไหมทั้งหมดนี้ถูกส่งมาในนามของคุณชายใหญ่
แม้ว่ามันควรจะเป็นของทุกคนในครอบครัว
แต่ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่มีคุณค่าทั้งหมดนี้ สมควรจะเป็นของฮูหยินใหญ่ และคุณหนูใหญ่
อย่างไรก็ตาม ในความคิดของเว่ยหยางแล้ว ทั้งฮูหยินรองและคุณหนูรอง ช่างเป็นผู้ที่ไร้ยางอายและหน้าด้านสิ้นดี
ด้วยเหตุนี้มันจึงทำให้หลี่จางเล่อโกรธเคือง แต่ต้องอดทนเอาไว้
ฮูหยินใหญ่กล่าวอย่างมิแยแสว่า
“จางเล่อพวกมันเป็นแค่ผ้าไหม หากเจ้าชอบแบบใด ก็บอกให้พี่ชายใหญ่ของเจ้านำกลับมาอีกสักสองสามผืนก็ยังได้”
แม้จะกล่าวด้วยท่าทีที่มิใส่ใจ แต่คำกล่าวของนางนั้นมีจุดประสงค์ที่จะทำให้ตนเองดูเหนือกว่าฮูหยินรอง
การแสดงออกของฮูหยินรองเปลี่ยนไป และตอบโต้กลับด้วยสายตาที่ดุดันในทันที
บ้านตระกูลหลี่แห่งนี้ ทุกคนต่างก็รับรู้กันดีว่า คุณหนูใหญ่เป็นผู้ที่มีความงดงามราวกับเทพธิดา
และคุณหนูรองเป็นผู้ที่มีเสน่ห์แพรวพราว
ส่วนคุณหนูสี่ และคุณหนูห้านั้นมีความน่ารักและสดใส
แต่เมื่อกล่าวถึงหลี่เว่ยหยางแล้วหลายคนคงจะพอดูออกว่า นางเป็นผู้ที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว
ในขณะเดียวกันนั้นฮูหยินสามซึ่งนั่งอยู่อีกด้านหนึ่งยิ้มเล็กน้อย ขณะที่สายตาของนางหยุดอยู่ที่หลี่เว่ยหยาง
ในขณะนี้หลี่เว่ยหยางเงยหน้าขึ้นจึงได้เห็นสายตาของฮูหยินสาม และทั้งสองคนสบตากัน
หลังจากที่หลี่เว่ยหยางได้ช่วยหมินเต๋อเอาไว้ในครั้งนั้น
ทำให้นางและฮูหยินสามได้พัฒนาข้อตกลงในการเป็นพันธมิตรกันอย่างลับ ๆ โดยปริยาย
นี่เป็นสิ่งที่ฮูหยินใหญ่มิสามารถล่วงรู้ได้อย่างแน่นอน
ฮูหยินใหญ่รู้เพียงแค่ว่า หญิงสาวทั้งสองคนนั้นประมาทจึงทำให้แผนการในครั้งนั้นเกิดความล้มเหลว
เป็นเพราะพวกนางมิได้ตรวจสอบให้แน่ชัดว่าร่างนั้นยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ก่อนที่จะนำศพไปทิ้งลงไปในสระน้ำ
และคงเชื่อว่า หมินเต๋อโชคดีจึงสามารถรอดพ้นจากความตายได้โดยมิรู้ว่า เว่ยหยางเป็นผู้ช่วยชีวิตเขาเอาไว้
ตอนนี้ในห้องเต็มไปด้วยผ้าไหมที่มีความงดงามและวิจิตรตระการตา มันยากที่จะละสายตาจากพวกมันไปได้
แม้แต่คุณหนูสี่ หลี่ฉางเซี่ยวผู้ซึ่งโดยปกติแล้วมีนิสัยที่เรียบง่าย ยังอดมิได้ที่จะเลือกดูผ้าไหมจำนวนมากเหล่านั้น
มีเพียงหลี่เว่ยหยางเท่านั้น ที่ยังคงนั่งอยู่ในที่ของตนเอง โดยมิขยับร่างแม้แต่น้อย
ทันใดนั้นท่านย่าใหญ่ได้กล่าวขึ้นว่า
“เว่ยหยาง เหตุใดจึงนั่งเฉยอยู่ รีบไปเลือกดูว่าเจ้าชื่นชอบผืนใด”
หลี่เว่ยหยางยืนขึ้นและกล่าวว่า
“เว่ยหยางขอบคุณท่านย่า”
นางจึงหยิบผ้าไหมปักดิ้นทองขึ้นมาเพื่อตรวจดู
แต่ทันใดนั้นเอง ได้มีสายลมแรงจากด้านนอกพัดผ่านเข้ามา และตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของสาวใช้
และเว่ยหยางรู้สึกได้ในทันทีว่า มีบางอย่างที่แหลมคมกำลังเกาะอยู่บนรองเท้าของตนเอง
จึงรู้สึกประหลาดใจและก้าวถอยหลังโดยสัญชาตญาณ
มันเป็นแมวเปอร์เซียที่มีขนปุกปุยสีขาวราวกับหิมะ ซึ่งมีตาข้างหนึ่งเป็นสีฟ้า และตาอีกข้างหนึ่งเป็นสีเหลือง
และขณะนี้มันกำลังมองมาที่เว่ยหยางอย่างหยิ่งผยอง
มือเรียวงามของหลี่จางเล่อได้เอื้อมลงไปอุ้มแมวเปอร์เซียตัวนั้น
“มันทำให้เจ้าตกใจหรือไม่น้องสาม? นี่คือแมวนำโชคที่พี่ชายใหญ่ส่งมาให้ข้า ดูสิมันงดงามหรือไม่?”
แน่นอนว่าหลี่เว่ยหยางรู้จักแมวตัวนี้ดีเป็นพิเศษ
ในช่วงชีวิตก่อนหน้านี้ มันเป็นสัตว์เลี้ยงที่หลี่จางเล่อรักมากที่่สุด และมันได้เข้าไปอยู่ในวังหลวงพร้อมกับเจ้านายของมัน
มิเพียงแต่เย่อหยิ่งและจองหอง แต่มันยังเคยใช้กรงเล็บข่วนมือน้อย ๆ ของบุตรชายอันเป็นที่รักของเว่ยหยางจนเลือดไหล
ซึ่งทำให้นางมิมีวันลืมสิ่งนั้นได้ และในเวลานี้หลี่จางเล่อกำลังกอดแมวตัวนั้น และกล่าวออกมาว่า
“น้องสาม แมวนำโชคของข้าชอบอาบแดดในสวนดอกไม้ แต่มันมิชอบคนแปลกหน้าเท่าใดนัก
จะเป็นการดีกว่า หากเจ้าจะพยายามอยู่ให้ห่างมันเอาไว้”
ภายใต้แขนเสื้อนั้น มือของหลี่เว่ยหยางกำหมัดแน่น แต่กลับมีรอยยิ้มที่สดใสเกิดขึ้น
“พี่ใหญ่มันเป็นแมวที่น่ารักมาก!”
เว่ยหยางกล่าวออกมา ขณะที่แผนการบางอย่างได้เกิดขึ้นแล้วในสมองที่เฉียบคมนั้น