ยอดหญิงแห่งวังหลัง - ตอนที่ 38.1
ตอนที่ 38-1 เป็ด
ในช่วงบ่ายวันหนึ่ง หลี่หมินเฟิงตั้งใจที่จะเดินทางไปเยี่ยมหลี่เว่ยหยางด้วยตนเอง
เมื่อเขาเดินมาถึงบริเวณหน้าประตู ได้ไล่แม่นมที่อยู่บริเวณนั้นให้ออกไป
และเขาเห็นสาวใช้ผู้ที่สวมเสื้อสีเขียวกำลังสนทนากับสาวใช้ที่นั่งอยู่ใกล้กันว่า
“จื่อหยาน ตอนนี้เจ้ากำลังเย็บปักอันใดอยู่?” นางเอ่ยถามสาวใช้ผู้ที่นั่งอยู่ด้านข้าง
จื่อหยานยื่นผลงานเย็บปักในมือให้ดูด้วยความภาคภูมิใจ
หลี่หมินเฟิงมีวิสัยทัศน์ที่ดีมาก ดังนั้นเมื่อเขามองจากระยะไกล
จึงเห็นลายปักรูปเป็ดแมนดารินหลากสีคู่หนึ่งกำลังเล่นน้ำอยู่ในสระบัว ซึ่งเต็มไปด้วยดอกบัว
ลวดลายทั้งหมดถูกปักอยู่บนผ้าเช็ดหน้า ทำให้มันดูมีชีวิตชีวาและมีความงดงามมาก
สาวใช้ที่ชื่อจื่อหยานได้กลอกตาไปมา และหัวเราะออกมา
จากนั้นสาวใช้ด้านข้างจึงกล่าวว่า:
“จื่อหยานเจ้าต้องการที่จะแต่งงานหรือ! เช่นนั้นเจ้าควรหาโอกาสบอกกล่าวกับคุณหนูสาม
เพื่อขอให้นางช่วยหาคู่ที่ดีให้เจ้า!”
ใบหน้าของจื่อหยานเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความเขินอายทันที
จากนั้นได้หยิบผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นขึ้นมาตบไหล่ของอีกคนเบา ๆ และกล่าวว่า
“อย่าล้อเล่นเช่นนี้เลย”
จื่อหยานอายุสิบห้าปีแล้ว นางมีใบหน้ารูปไข่ และมีผิวที่ขาวนวล
รอยยิ้มของนางช่างเหมือนดอกบัวที่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้อื่นได้
หลี่หมินเฟิงจ้องมองนางอย่างใจเย็น และได้เกิดความรคิดบางอย่างฉายผ่านเข้ามาในใจของเขา
สาวใช้ตัวน้อยยิ้มกว้างอย่างร่าเริง:
“มิต้องอาย! คุณหนูสามจะต้องหาชายหนุ่มที่ดีให้เจ้าแน่นอน!”
จากนั้นรอยยิ้มของจื่อหยานจึงค่อย ๆ จางหายไป แล้วจึงเปล่งเสียงออกมาอย่างแผ่วเบา:
“คุณหนูสามมิสามารถตัดสินใจอันใดเองได้ แล้วจะช่วยบ่าวผู้นี้ได้อย่างไร…”
จื่อหยานเกิดความรู้สึกว้าวุ่นใจ นางต้องการจะกล่าวอันใดบางอย่าง แต่กลับแสดงสีหน้าเศร้าใจแทนคำกล่าวที่มิสามารถอธิบายได้
แม้ว่าท่านย่าใหญ่จะโปรดปรานคุณหนูสาม แต่นางก็มิได้รับความโปรดปรานจากฮูหยินใหญ่อยู่ดี
และเป็นเรื่องจริงที่คุณหนูสามเป็นเพียงบุตรสาวหยินเหนียงเท่านั้น
หากฮูหยินใหญ่ต้องการให้สาวใช้ผู้นี้แต่งงานกับครอบครัวที่ต้องปากกัดตีนถีบ
ในสถานการณ์เช่นนี้นางจะร้องขออันใดได้อีก
จื่อหยานถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง และรู้สึกหนักใจกับบางอย่างที่มิสามารถกล่าวออกมาได้
แต่ทันใดนั้นเอง นางได้ยินเสียงของผู้ใดบางคนไอขึ้น
พวกนางรีบลุกขึ้นยืน และจ้องมองไปที่ต้นเสียง จึงได้เห็นชายหนุ่มผู้หนึ่งยืนอยู่ตรงหน้านั้น
จากนั้นใบหน้าของจื่อหยานได้เปลี่ยนเป็นสีแดง และรีบเดินเข้าไปแสดงความเคารพเขาทันที:
“คุณชายใหญ่”
“โอ้ เจ้าชื่อจื่อหยานหรือ?”
การแสดงออกของหลี่หมินเฟิงเรียบเฉยมาก เมื่อเขาจ้องมองเข้าไปในดวงตาของสาวใช้ผู้นี้
ใบหน้าของจื่อหยานเปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างน่าประหลาดใจ และส่งเสียงออกมาเบา ๆ :
“ใช่แล้ว บ่าวคือจื่อหยาน เป็นสาวใช้คนสนิทของคุณหนูสาม?”
เดิมทีเขาตั้งใจจะมาหาหลี่เว่ยหยาง แต่ตอนนี้เขาได้เปลี่ยนใจแล้ว
หมินเฟิงอมยิ้ม ขณะที่กล่าวว่า
“ที่ข้ามาที่นี่ก็มิมีอันใดมาก
เพียงแค่เมื่อวานนี้ ข้าได้ทำพัดหล่นหายใกล้กับบริเวณนี้
จึงต้องการมารบกวนให้น้องสามช่วยส่งสาวใช้ออกไปค้นหา”
จื่อหยานหัวเราะออกมาเบา ๆ และกล่าวว่า:
“เรื่องแค่นี้ เดี๋ยวบ่าวจะออกไปช่วยค้นหาเอง มิทราบว่าคุณชายทำพัดหล่นหายที่ใด”
“คิดว่าน่าจะอยู่บริเวณสนามหญ้าใกล้กับประตูทางเข้าโน้น” หลี่หมินเฟิง
กล่าว
จากนั้นหลี่หมินเฟิงและจื่อหยานจึงเดินออกไปพร้อมกัน
เมื่อเห็นดังนั้นแล้ว สาวใช้ที่สนทนาอยู่กับจื่อหยานเมื่อครู่จึงขมวดคิ้วขึ้น และรีบร้อนวิ่งเข้าไปด้านในทันที
ในตอนนี้หลี่เหว่ยหยางนั่งอยู่ในห้อง และกำลังสนทนาอยู่กับโม่ฉู โดยสาวใช้กล่าวว่า
“แม้ว่าผู้อาวุโสหลี่จะใช้ชีวิตอย่างพอเพียง แต่ท่านใส่ใจในเรื่องของอาหารเป็นอย่างมาก
ตัวอย่างเช่นเมื่อทานปลา ท่านมักจะชอบทานตาของปลา
หากกล่าวถึงไก่ ท่านก็จะทานแต่ส่วนของอกไก่
เมื่อทานปลาทะเล ท่านจะเลือกทานเฉพาะตรงกระเพาะอาหาร ซึ่งเป็นส่วนที่มีไขมันน้อยที่สุด
แต่ท่านจะมีความสุขกับการเคี่ยวเป็ดมากที่สุด เพราะท่านมีเคล็ดลับพิเศษในการปรุง
ซึ่งแตกต่างจากทุกครัวเรือนที่ใช้ในการปรุง
เครื่องในของเป็ดจะถูกล้าง เพื่อทำความสะอาดก่อน
จากนั้นจึงวางมันลงในโถกระเบื้องดินเผา และเคี่ยวเป็นเวลาสามวันด้วยไฟอ่อน เพื่อให้เนื้อนุ่มและกรอบ
นอกจากนี้เป็ดทั้งตัว ยังต้องแยกตีนเป็ดออกจากส่วนอื่น
เอากระดูกออกแล้วแช่ในเครื่องเทศและดอกแมกโนเลีย ข้ามิสามารถอธิบายได้ถูกว่า กลิ่นนั้นมันหอมมากเพียงใด”
หลี่เว่ยหยางพยักหน้า
การนำเป็ดมาจากเมืองที่อยู่ห่างไกล แม้ว่ามันจะมิมีอันใดมาก แต่นับว่าเป็นการเอาใจท่านย่าใหญ่อย่างหนึ่ง
เพราะสิ่งที่นางชอบมีอยู่สองอย่าง
หนึ่งชอบที่จะดื่มน้ำชา
และสิ่งที่สองคือ ชอบที่จะทานเป็ด
จากสิ่งที่หมินเฟิงทำ มันทำเห็นได้ชัดว่า เขาเป็นผู้ที่ใส่ใจในรายละเอียด
ในขณะนี้มีสาวใช้ตัวน้อยผู้หนึ่งกำลังแอบมองพวกนางอยู่หลังประตู
หลี่เว่ยหยางเหลือบตาของนางไปยังทิศทางของสาวใช้ผู้นั้น
และจ้องมองไปยังผ้าม่านที่กำลังเคลื่อนไหว ทำให้หญิงสาวผู้นั้นเกิดความรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก
จากนั้นได้ยินเสียงของโม่ฉูตะโกนออกไปว่า:
“ผู้ใดแอบอยู่ตรงนั้น คุณหนูอนุญาตให้เข้ามาได้!”