ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ - บทที่ 154
ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 154
เซียวท่าอุกินอาออกมา “นั่นมันแป้งที่หมอดูลวงโลกเถาเต๋อใช้ใส่แผลให้อาเจี๋ยนี่?”
“เถาเต๋อ?” มูหรงเจี๋ยพอได้ยินคำนี้ ก็ลืมตาที่ดูเย็นชาขึ้นมา แล้วมองไปที่เซียวท่า
เซียวท่ากล่าว “ตอนที่ท่านยังไม่รู้สึกตัว ไท่เฟยได้เรียกตัวนักพรตเถาเต๋อเข้ามารักษาท่าน และเขานำผงแป้งชนิดนี้มาทาบนบาดแผลของท่าน จากนั้นอาการของท่านก็แย่ลงอย่างน่าตกใจ”
จื่ออานกล่าว “อาการของท่านไม่สู้ดีมาโดยตลอด แต่หลังจากที่ทาผงแป้งชนิดนี้ลงไปแล้ว แผลก็อักเสบจนเป็นหนองภายในสองชั่วยาม ข้าเลยสงสัยว่าผงแป้งชนิดนี้มีพิษ”
“เถาเต๋อ!” มู่หรงเจี๋ยเอ่ยชื่อนั้นเบา ๆ “คนของอารามฝูเต๋อใช่ไหม?”
“ใช่ ท่านก็รู้จักด้วยเหรอ?” เซียวท่ามองเขาด้วยความประหลาดใจ “ข้าไปสืบเรื่องคนผู้นี้ทีหลัง และพบว่าเขามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับไท่เฟยมานานแล้ว คนผู้นี้ปิดบังเจตนาร้ายไว้ คราวนี้ไท่เฟยถูกเขาแหกตาเข้าให้แล้ว”
มู่หรงเจี๋ยไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่สีหน้าของเขาแลดูมืดหม่นมาก
จื่ออานเพียงสนใจแต่ผงแป้งเท่านั้น ไม่ใด้มองไปทางเขา ในทางกลับกันเซียวท่ามองไปที่มู่หรงเจี๋ย และเห็นว่าสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเป็นดูไม่ได้ในทันที และกล่าวถาม “เกิดอะไรขึ้น? รู้สึกเจ็บที่บาดแผลเหรอ?”
มู่หรงเจี๋ยหายใจออก จากนั้นก็หายใจเข้าลึก ๆ อีกครั้งนึง แล้วกล่าวอย่างใจเย็น “ไม่เป็นอะไร ข้าแค่ง่วงนิดหน่อย”
“ท่านนอนสิ ข้าจะเคี่ยวซุปให้ท่าน จากนั้นจะปลุกให้ท่านลุกขึ้นมาดื่ม “เซียวท่าพูด โดยคิดว่าเขาจะหัวเราะเยาะแม่ทัพผู้สง่างามที่ต้องกลายมาเป็นพ่อครัว เขาไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะหลับตาลงเบา ๆ โดยไม่พูดล้อเลียนเขาเลยสักคำ
“ดูเหมือนจะง่วงแล้วจริง ๆ” เมื่อเซียวท่าเห็นดังนั้นก็เดินย่องอย่างเงียบ ๆ ไปหยิบอาหารออกมา จากนั้นก็พูดกับจื่ออาน “พวกเราออกไปกินข้างนอกกันเถอะ”
จื่ออานหยิบผ้าเช็ดหน้าและเดินเข้าไปในห้องครัว เธอโยนผ้าเช็ดหน้าลงไปในเตาที่ยังมีไฟอยู่ และหลังจากที่ล้างมือจนสะอาดแล้วจึงเข้ามากินอาหาร
“ท่านโยนผ้าเช็ดหน้าไปแล้วเหรอ? ตรวจพบรึยังล่ะว่ามันคืออะไร?” เซียวท่ากล่าวถาม
“ตีฉุ่ยเหลียนเป็นพืชชนิดหนึ่งที่มีพิษ” จื่ออานไม่ได้พูดละเอียดมากนัก แต่สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
ตอนแรกนางเดาว่าผงแป้งที่นักพรตผู้นั้นมอบให้จะมีองค์ประกอบของแร่ธาตุที่ใช้ในการปรุงยาอายุวัฒนะ แต่นึกไม่ถึงเลยว่าจะใช้ตีฉุ่ยเหลียน เพราะมันมีพิษ ถูกผิวหนังก็จะทำใหเปื่อยเน่า อาการหนักตั้งแต่แผลที่ผิวหนังจนถึงตาย มู่หรงเจี๋ยที่กำลังบาดเจ็บสาหัส ถูกใส่ตีฉุ่ยเหลียนลงบนบาดแผลอีก จะทำให้ผิวเปื่อยเน่าแล้วก็อักเสบ เมื่อเข้าสู่กระแสเลือดย่อมจะเป็นอันตรายต่อชีวิต
เถาเต๋อไม่กล้าทำเช่นนี้ ถ้าเขาอยากจะได้ความไว้วางใจจากไท่เฟยแล้วล่ะก็ เขาจะใช้ยาบางตัวเท่านั้น ซึ่งจะเจ็บเล็กน้อยแต่ไม่ถึงตาย เพราะว่าเขาไม่กล้าสังหารผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิของราชวงศ์นี้ เขาจะต้องมีสักกี่หัวถึงจะพอให้ตัด?
ต้องมีคนส่งเสริมเขา!
จื่ออานไม่ได้เดาว่าเป็นใคร ในใจนางมีคนที่สงสัยอยู่ แต่ก็ไม่อาจแน่ใจได้
เพราะว่ามันไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย
นางหิวมากจนกินอะไรไม่ลงเลย นางกินไปเพียงสองสามคำและดื่มซุปไปนิดหน่อย แล้วจึงหยุดกิน
เซียวท่าเห็นนางไม่กิน ก็เลยหยุดกินตาม แล้วจึงถามว่า “ท่านอ๋องจะดีขึ้นใช่ไหม?”
จื่ออานเงยหน้าขึ้นมองเขา “ปัญหาเรื่องที่เสียเลือดมากจนเกินไปได้รับการแก้ไขแล้ว แต่แผลยังอักเสบรุนแรงอยู่ เขาจะมีไข้สูงอย่างต่อเนื่องในคืนนี้ ข้าจะเขียนเทียบยา และท่านก็ช่วยไปซื้อยากลับมาให้ข้าสักหน่อย”
“หนักมากเลยเหรอ?” เซียวท่าคิดว่าเขาฟื้นฟื้นขึ้นมาก็จะไม่เป็นอะไรแล้ว แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเขาจะยังไม่พ้นขีดอันตราย
“สองวัน แผลของเขาจะเริ่มเป็นหนอง ข้าต้องการจะล้างหนองออกจากแผลเพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อที่รุนแรง และบาดแผลจะต้องได้รับการรักษาอีกครั้ง”
นางไม่ได้พูดตรง ๆ ว่าร้ายแรงหรือไม่ อันที่จริงนางเองก็ยังรู้สึกไม่มั่นใจ เพราะว่าตอนนี้นางไม่มีแม้แต่น้ำยาฆ่าเชื้อ นางเพียงใช้วิธีดั้งเดิมในการฆ่าเชื้อและลดการอักเสบเท่านั้น
หลังจากที่นานเขียนเสร็จแล้วก็ยื่นให้เซียวท่า เขาหยิบมันมามองดู “เฉินฉือฮุย, จินหยินฮวา, เหลียนเฉียว, ซานชี, ไปฺ๋เย่า, หยูซิงเฉาเกิน, หวงเหลียน… สุราซานฉือจิน ท่านจะเอามาทำอะไร?”
“ดื่ม!”
จื่ออานยังคงเขียนอยู่ ไม่สิ คราวนี้ไม่ใช่การเขียน แต่เป็นการวาดภาพ นางวาดมีดหลายชนิด และทั้งหมดก็ค่อนข้างหนาอย่างเห็นได้ชัด นางต้องการสร้างชุดมีดผ่าตัดและใช้เมื่อจำเป็น
หน้าที่นี้ส่งมอบให้เซียวท่าดีที่สุด เขาเป็นผู้บัญชาการทหารสามารถหาช่างทำอาวุธที่ยอดเยี่ยมที่สุดได้