ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ - บทที่ 221
ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 221
ใต้เท้าเหลียงเมื่อเจออ๋องหลี่ ในใจร้องตะโกนว่าไม่ได้การแล้ว
มหาเสนาบดีเซี่ยเชิญอ๋องหลี่นั่ง อ๋องหลี่มองไปยังที่นั่ง แล้วมองไปยังฮูหยินผู้เฒ่า “ฮูหยินผู้เฒ่า ท่านควรแยกแยะสถานะต่ำสูง ถึงท่านจะเป็นผู้อาวุโสของจวนมหาเสนาบดี แต่องค์หญิงทรงประทับอยู่ด้วย ที่นั่งของท่านควรจะสละให้องค์หญิง”
ใบหน้าของฮูหยินผู้เฒ่าดูเย็นชาขึ้น แต่มิอาจไม่หลีกเลี่ยงได้ จึงให้ชุ่ยหยูช่วยประคองลุกขึ้น มหาเสนาบดีเซี่ยลุกขึ้นเพื่อที่ให้นางได้นั่งลง
แต่อ๋องหลี่กลับชี้ไปที่ที่นั่งของมหาเสนาบดีเซี่ยพร้อมกล่าว “ฮูหยินผู้เฒ่ามิอาจนั่งตรงนี้ได้ ตรงนี้เป็นที่นั่งขององค์รัชทายาท ราชครูท่านลุกขึ้นจากตรงนี้ นี่เป็นที่นั่งของข้า ท่านเชิญไปนั่งทางนั้น”
การเคลื่อนย้ายครั้งนี้ใช้เวลาถึงหนึ่งก้านธูป โดยมิมีผู้ใดกล้าคัดค้าน องค์รัชทายาทมิได้นั่งในทันที แต่เมื่อเจอกับสายตาของท่านอ๋อง จำต้องนั่งลงด้วยตัวสั่น เจ็บจนน้ำตาซึม
ราชครูเหลียงเมื่อเจออ๋องหลี่ยังคิดที่จะหนี จึงกล่าว “ท่านอ๋อง เรื่องราวค่อนข้างสำคัญ เริ่มไต่สวนคดีก่อนเถิด พ่ะย่ะค่ะ”
อ๋องหลี่กล่าวอย่างไม่พอใจ “กฎมารยาทก็สำคัญ ไต่สวนคดีมิต้องทำตามกฎมารยาทหรือ? ไม่มีมารยาทยิ่งไม่มีกฏหมาย
เจ้าสวรรค์ บิดามารดา อาจารย์ ก็ต้องทำตามกฏนี้เหมือนกัน…”
“พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องทรงจัดการเลย” เหลียงไท่ฟู่โดนคำตำหนิจากท่านอ๋องจนหน้าเขียวคล้ำ จนไม่กล้าหยุดท่านอ๋อง
“ดี ถึงแม้เสด็จอาจะมีอายุน้อยกว่าข้า แต่มีลำดับความอาวุโสกว่า มิอาจมองข้ามได้” อ๋องหลี่ยังมิอาจหยุดคำพูดได้ อยากพูดอะไรต้องพูดให้จบถึงจะรู้สึกสบาย
อ๋องหลี่จัดการเรียบร้อยแล้ว ถึงได้มองเห็นใต้เท้าเหลียงนั่งอยู่มุมนึงจึงกล่าวว่า “ใต้เท้าเหลียง คดีไต่สวนเป็นอย่างไร?”
ใต้เท้าเหลียงจึงนำคำพูดเมื่อครู่ของฮูหยินหลิงหลงพูดออกมาจนหมด แล้วจึงสรุป “ท่านอ๋อง ท่านใส่ใจในเรื่องของมารยาท ดังนั้นฮูหยินหลิงหลงที่เป็นแม่เลี้ยงของคุณหนูใหญ่ และยังเป็นผู้อาวุโสอีกด้วย โดนทำร้ายเยี่ยงนี้ ยังจะสามารถเรียกว่าคนได้อีกหรือไม่?”
อ๋องหลี่ฟังไปพร้อมกับมองเซี่ยหว่านเอ๋อ รอจนใต้เท้าเหลียงพูดจนจบ จึงได้กล่าวกับเซี่ยหว่านเอ๋อ “หันหน้ากลับมา ใบหน้าเจ้าบาดเจ็บแค่ด้านเดียว อีกด้านยังดีอยู่ ข้ามองแล้วไม่สบายตา”
เซี่ยหว่านเอ๋อตกอกตกใจ มิทราบความหมายของอ๋องหลี่
มหาเสนาบดีเซี่ยรู้ถึงนิสัยส่วนพระองค์ของท่านอ๋อง ไม่ต้องการให้เรื่องราวบานปลาย จึงรีบพูดกับเซี่ยหว่านเอ๋อ “เจ้ากลับเข้าไปในห้องก่อน หากต้องการคำให้การของเจ้าเมื่อไหร่ เจ้าค่อยออกมา”
จื่ออานมองไปที่อ๋องหลี่ที่กำลังเงียบอยู่ ก็แยกเซี่ยหว่านเอ๋อออกจากฮูหยินหลิงหลง
หากทั้งสองมิอาจให้การพร้อมกันได้แล้ว แยกฮูหยินหลิงหลงออกมาให้การ หากตอนที่เซี่ยหว่านเอ๋อให้การไม่ตรงกันแล้ว ตามลักษณะนิสัยของท่านอ๋อง จากคำที่ได้ยินจากจวนของเซียวท่า จึงได้คิดจะให้ท่านอ๋องมาช่วย
ตอนที่นางไปหาท่านอ๋องนั้น ทั้งสองพูดคุยอยู่ในจวนกันอยู่ราวครึ่งชั่วยาม ครึ่งชั่วยามนี้ จื่ออานนำเรื่องราวบอกกับอ๋องหลี่อย่างรวบรัด อำนาจในการไต่สวนคดีนี้ มีแค่อ๋องหลี่ที่ทำได้
องค์หญิงใหญ่มิใช่สามารถช่วยนางในเรื่องนี้ได้ อีกทั้งนางยังไม่ได้รู้เรื่องของกฎหมายและกฎจรรยาบรรณมากนัก ถูกพวกเขาชักจูงได้ง่าย ถึงตอนนั้นแล้ว จะช่วยก็คงไม่ได้ เรื่องก็จะยิ่งแย่เข้าไปอีก
หลังจากเซี่ยหว่านเอ๋อเดินเข้าไป อ๋องหลี่มองไปยังใต้เท้าเหลี่ยงก่อนจะกล่าว “อืม พูดต่อได้”
ใต้เท้าเหลี่ยงตกใจ “มีเพียงเท่านี้ กระหม่อมพูดจบแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
อ๋องหลี่มองใต้เท้าเหลียงด้วยความประหลาดใจ “พูดจบแล้ว? เจ้าพูดแค่เพียงคำให้การของครอบครัวเดียว แล้วคำให้การของหยวนซื่อแล้วจื่ออานเล่า? ยังมีคำให้การขององค์หญิงใหญ่และองค์รักษ์? เรื่องราวที่เกิดขึ้นตอนที่สกัดกั้นรถม้ากลับไปโรงหมออีก?
ใต้เท้าเหลียงค่อย ๆ พูด ” เรื่องนี้ เรื่องนี้ตามความคาดการณ์ของกระหม่อมแล้ว ขณะที่มีการสกัดกั้นรถม้านั้น พบเจอแค่องค์รัชทายาท มิมีเรื่องราวอันใดเกิดขึ้น”