ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ - บทที่ 227
ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 227
หยวนซื่อได้ยินเสียงโมโหพร้อมเสียงเท้าจากไปของนาง มุมปากจึงค่อย ๆ ยกยิ้มขึ้น เพียงแต่รอยยิ้มนั้นดูเศร้าสร้อยยิ่งนัก
หลายปีมานี้ไม่ใช่นางช่วงชิงไม่ชนะเฉินหลิงหลง เพียงแต่คิดว่าหากชายคนนึงต้องช่วงชิงกลับมา จะต้องการไปทำไมกัน?
นางผิดพลาดครั้งใหญ่ ชาตินี้คงจะไม่ให้อภัยตนเองได้อีกแล้ว ควรที่จะนำจื่ออันออกไปจากจวนนี้ตั้งนานแล้ว แต่นางกลับปล่อยให้ตัวเองเสื่อมโทรมไปเรื่อย ๆ บุตรสาวได้ตายจากไปแล้ว นางและเฉินหลิงหลงต่างก็เป็นผู้ร้าย
เฉินหลิงหลงสมควรตาย นางเองก็เช่นกัน
ดังนั้นชีวิตนี้ก็ไม่มีอะไรให้คำนึงถึงแล้ว หากสามารถทำอะไรให้แก่จื่ออันในตอนนี้ได้บ้าง ต่อให้ต้องปลิดชีพตน นางก็จะไม่ลังเล
หลังจากที่ฮูหยินหลิงหลงเดินจากไปแล้วนั้น ฮูหยินผู้เฒ่าก็สั่งให้คนส่งหยวนซื่อกลับไป แต่จื่ออันยืนยันที่จะให้คนนำแม่นมหยางเข้ามา จะต้องเป็นแม่นมหยางที่เป็นคนนำหยวนซื่อกลับไป
ฮููเฒ่าก็มิได้ทำให้นางลำบากใจแต่อย่างใด สั่งให้คนไปเชิญแม่นมหยางมา
แม่นมหยางเมื่อพบว่าจื่ออันกลับมา พร้อมเห็นว่าหยวนซื่อสูญเสียการมองเห็น จึงรู้ได้ทันทีว่าระหว่างทางนี้จะต้องเกิดเรื่องขึ้นมากมาย นางไม่ได้เอ่ยถามอันใดออกมา เพียงแต่ทำตามคำของจื่ออันนำหยวนซื่อกลับไป
ฮูหยินผู้เฒ่าไล่คนรับใช้ออกไป เหลือเพียงมหาเสนาบดีเซี่ย และป้าหลานอวี่ไว้ในห้องโถงเท่านั้น
ประตูใหญ่ปิดลง แสงไฟที่กะพริบอยู่ในห้องก็สว่างขึ้น เงาของจื่ออันสะท้อนบนผนัง ร่างเล็ก ๆ สะท้อนแสงบนผนังราววกับสัตว์ประหลาด
ฮูหยินผู้เฒ่าจ้องมองมายังจื่ออันเนิ่นนานจึงเอ่ยขึ้น “จื่ออัน วันข้างหน้าจะให้ย่าปฏิบัติกับเจ้าเช่นไรดี?”
ใบหน้าของนางภายใต้แสงสะท้อนของไฟแล้ว นางดูแก่ลงมาก ริ้วรอยตรงหางตามีจุดสีน้ำตาลเข้มซ้อนอยู่ ราวกับใบไม้เน่าเปื่อยลง
จื่ออันเอ่ยเยาะเย้ย “ฮูหยินผู้เฒ่าคิดว่าอย่างไรเล่า? คำว่าท่านย่านี้ จื่ออันคงมิอาจเรียกได้ ทั้งก่อนหน้านี้และหลังจากนี้ ทำได้เพียงเรียกว่าฮูหยินผู้เฒ่าเท่านั้น”
“บังอาจนัก!” มหาเสนาบดีเซี่ยคิดว่าฮูหยินผู้เฒ่ายอมลดทิฐิพูดคุยกับนางแล้ว นางไม่ขอบคุณซาบซึ้งก็แล้วไป ยังกล้าที่จะประชดประชันออกไปแบบนี้อีก
ฮูหยินผู้เฒ่าโบกมือให้หยุดไว้ นางเอ่ยอย่างยิ้ม ๆ “จื่ออัน เจ้าเป็นเด็กที่ฉลาดคนหนึ่ง ที่ผ่านมาเป็นย่าที่ละเลยเจ้า เด็กทั้งสามในจวนมหาเสนาบดีนั้น เจ้าและหว่านเอ๋อเป็นคนที่โดดเด่นที่สุด หว่านเอ๋อตอนนี้ก็ได้หมั้นหมายกับองค์รัชทายาทแล้ว ก็เป็นประโยชน์กับเจ้ามิใช่รึ?”
จื่ออันไม่รู้ว่าฮูหยินผู้เฒ่านั้นจะมาไม้ไหนอีก ต่อหน้าทำมาเป็นห่วงเป็นใย เดิมก็ไม่ใช่คนที่มีจิตใจดีนัก
นางมิได้ตอบกลับฮูหยินผู้เฒ่า เพียงแต่ใช้ดวงตามองกลับไปยังนาง จนถึงวันนี้แล้ว พวกเขายังมิได้เอ่ยถึงหลินหลิน ราวกับหลินหลินไม่เคยปรากฎตัวออกมาในจวนนี้เลย
ฮูหยินผู้เฒ่าเองก็ไม่ได้โวยวาย ยังพูดต่อไป “ย่าเองก็อายุมากแล้ว ต่อไปเรื่องต่าง ๆ ในจวนนี้คงต้องพึ่งพิงพวกเจ้าแล้ว ท่านพ่อของเจ้ามีเพียงหลินหลินน้องชายของเจ้าที่เป็นลูกชาย แล้วหนำซ้ำยังสติไม่ดี พวกเจ้าพี่สาวน้องสาวแต่งออกไปแล้ว ก็ยังจะสามารถดูแลน้องชายเจ้าได้ ใช่หรือไม่?”
คนในจวนต่างก็รู้ดี เซี่ยจื่ออันทำดีเพียงกับเซี่ยหลิน จื่ออันเพียงรู้สึกว่าน่าเศร้านัก หลินหลินถูกยกขึ้นมาพูด เป็นเพราะต้องการเอามาใช้หลอกล่อให้นางอ่อนใจ
จื่ออันกดความโกรธไว้ในใจมิได้ จึงเอ่ยเสียงเย็น “ฮูหยินผู้เฒ่าต้องการจะพูดอะไรกัน? พูดออกมาตรง ๆ อย่าอ้อมค้อมเลยดีกว่าเจ้าค่ะ”