ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ - บทที่ 296
ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 296
จิ้นกั๋วกงพอใจมาก และซีเหมินเสี่ยวเยว่ก็พอใจมากเช่นกัน
จวนจิ้นกั๋วกง
คืนนี้ที่จวนแทบจะเป็นคืนที่ทุกคนนอนไม่หลับกัน ฮูหยินผู้เฒ่าได้เชิญห่าวมิ่งโผมาหวีผมให้ซีเหมินเซียวเยว่ ปักดอกไม้ สมาชิกที่เป็นผู้หญิงในตระกูลแทบจะมากันทั้งหมด
ใช้คำพูดสมัยใหม่อธิบายได้ว่า ซีเหมินเสี่ยวเยว่ถือเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงของตระกูลจิ้นกั๋วกง นางเป็นม่ายที่ภักดี จักรพรรดิพระองค์ก่อนเคยแต่งตั้งให้เป็นฮูหยินขั้นสองระดับเก้ามิ่ง แต่ตอนนี้นางถูกหวงไท่โฮ่วแต่งตั้งให้เป็นฮูหยินขั้นหนึ่ง ดูเหมือนว่าขั้นหนึ่งกับขั้นสองจะแตกต่างเพียงหนึ่งตัวอักษร ทว่ามันกลับมีความแตกต่างราวฟ้ากับดิน
ในราชวงศ์นี้มีฮูหยินระดับเก้ามิ่งขั้นสองมีอยู่มากมาย แต่ว่าขั้นหนึ่งมีเพียงสามถึงสี่คนเท่านั้น
แม้แต่ฮูหยินของจิ้นกั๋วกง ยังเป็นเพียงขั้นสอง แต่ตอนนี้หลานสาวของเขาได้แต่งงานกับมหาเสนาบดี แล้วถูกแต่งตั้งให้เป็นขั้นหนึ่ง สำหรับจิ้นกั๋วกงแล้ว ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง
เพราะตระกูลซีเหมินก็ไม่มีคนที่พอจะเป็นหน้าเป็นตาให้ตระกูลได้มานานแล้ว
ฮูหยินผู้เฒ่าเข้ามาที่ห้องของซีเหมินเสี่ยวเยว่ด้วยตนเอง ให้คนอื่นออกไปให้หมด ให้เหลือไว้แต่ซีเหมินเซียวเยว่เพื่อพูดคุยเท่านั้น
“ตอนนี้ทางจวนมหาเสนบดีตอบตกลงตามคำขอของเราแล้ว แต่เจ้าอย่าได้คิดว่าทางนั้นจะให้ความสำคัญกับเจ้ามาก สิ่งที่พวกเขาให้ความสำคัญก็คืออิทธิพลของปู่เจ้าเท่านั้น ตอนนี้ย่าจะเตือนเจ้าไว้ว่า หลังจากแต่งออกไปแล้ว จะให้หยวนซื่อผู้นั้นอยู่ต่อไปไม่ได้ คนผู้นี้มีชื่อเสียงโด่งดัง แม้ว่านางจะถูกริดรอนอำนาจมาโดยตลอด ทว่าบัดนี้บุตรสาวของนางเซี่ยจื่ออันก็อาจจะได้อภิเษกกับผู้สำเร็จราชการ ซึ่งเขาไม่ชอบปู่ของเจ้ามาโดยตลอด ดังนั้นเซี่ยจื่ออันจึงไม่ใช่พันธมิตรของเรา ดังนั้นก่อนอื่นเจ้าจะต้องหาวิธีกำจัดหยวนซื่อออกไปให้ได้ก่อน”
ซีเหมินเสี่ยวเยว่พยักหน้า “ท่านย่าวางใจได้ หลานรู้ดีว่าควรทำเช่นไร”
“อืม เจ้าเป็นเด็กฉลาดมาตลอด ย่าก็วางใจเจ้าได้แล้ว อีกเรื่องนึง แม้ว่าเฉินหลิงหลงจะถูกทางจวนมหาเสนาบดีละทิ้งแล้ว แต่ว่าจนถึงบัดนี้ก็ยังไม่ถูกขับไล่ออกจากจวนไป เซี่ยหว่านเอ๋อก็กำลังจะอภิเษกกัยองค์รัชทายาท เฉินหลิงหลงอาจจะลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง เจ้าจะต้องดับไฟตั้งแต่ต้นลม อย่าปล่อยให้นางกลับมามีอำนาจได้อีกครั้ง เจ้าจะต้องรู้ว่า คน ๆ นึงจะเป็นอันตรายน้อยที่สุดก็ต่อเมื่อคนผู้นั้นตายไปแล้วเท่านั้น”
“เช่นนั้นท่านย่าคิดว่า ควรลงมือกับเฉินหลิงหลงก่อนหรือว่าหยวนซื่อก่อนดีเจ้าคะ?” ซีเหมินเสี่ยวเยว่กล่าวถามอย่างถ่อมตน
“ในช่วงนี้เฉินหลิงหลงไม่สามารถก่อเรื่องอันใดได้ แต่ว่าหยวนซื่อและเซี่ยจื่ออันนั้นสามารถกระทำการใหญ่ได้ หากเราไปยั่วยุพวกนางในตอนนี้ ก็ไม่มีประโยชน์อันใด แต่กลับจะถูกคนใช้ประโยชน์จากการกระทำของเรา ดังนั้นต้องจัดการกับเฉินหลิงหลงก่อน สำหรับหยวนซื่อนั้น อิทธิพลทั้งหมดของนางก็คือชื่อเสียงที่นางมี ทางจวนมหาเสนาบดีพยายามทำลายชื่อเสียงของนางซ้ำแล้วซ้ำเล่าแต่ก็ยังล้มเหลวไม่เป็นท่า เห็นได้ชัดว่าเองก็ฉลาดมาก และบุตรสาวของนางเจ้าเองก็ไม่ควรประมาท แต่ว่ามีคนผู้หนึ่งที่เราสามารถใช้ประโยชน์ได้”
“ใครหรือ?” แม้ว่าซีเหมินเสี่ยวเยว่จะยังไม่แต่งงานออกไป แต่ก็เคยได้ยินชื่อเสียงของหยวนซื่อมาบ้างแล้ว ผู้หญิงแบบนี้ไม่ควรอยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไป อย่างน้อยก็ไม่อาจปล่อยให้นางกลายมาเป็นภัยคุกคามของตนเองได้
“อ๋องอัน” ฮูหยินผู้เฒ่ากระแอมเล็กน้อย และกล่าวอย่างเคร่งขรึม “อ๋องอันไม่เคยลืมหยวนซื่อเลยแม้แต่น้อย และจนถึงบัดนี้เขาก็ยังไม่ได้อภิเษกสมรส ปู่ของเจ้าเคยไปมาหาสู่กับอ๋องอัน สามารถพูดถึงสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวยของหยวนซื่อที่อยู่ในจวนได้ เมื่อถึงเวลาที่เจ้าได้ทำโทษเฉินหลิงหลง ก็จะสามารถแสร้งทำดีกับหยวนซื่อได้ บอกกับนางว่าอ๋องอันยังคงหลงใหลในตัวนาง ทำให้จิตใจนางว้าวุ่น”
ซีเหมินเสี่ยวเยว่ส่ายหัว “หลานไม่อาจทำเรื่องเช่นนี้เพื่อเอาใจนางได้ ข้าไม่ชอบหยวนซื่อ อีกทั้งพวกเราก็ได้เสนอเงื่อนไขไปแล้ว พอข้าเข้าไปไปที่นั่นนางไม่อาจอยู่ในจวนได้ จากนั้นจะแสร้งทำเป็นดีกับนาง แล้วนางจะเชื่อได้เช่นไร?”
ฮูหยินผู้เฒ่าชักสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อย “เมื่อครู่เพิ่งบอกไปว่าเจ้าฉลาด แต่ตอนนี้กลับโง่เขลาเสียแล้ว พรุ่งนี้ที่ไม่ให้นางอยู่ในจวน ก็เพื่อเป็นการแสดงอำนาจเพื่อข่มนาง ให้นางเห็นถึงความสง่างามและความยิ่งใหญ่ เจ้าเข้าใจหรือไม่ แค่แสร้งทำเป็นมิตร ไม่ใช่การเอาอกเอาใจ เพียงแค่ไม่แตกแยกกัน ก็จะสามารถลอยหน้าลอยตาได้อย่างราบรื่น พูดคุยกันบ้างเป็นบางครั้ง พูดให้หยวนซื่อคิดฟุ้งซ่านดีที่สุด หากไม่ฟุ้งซ่าน อย่างน้อย ๆ ก็ทำให้นางรู้สึกผิด ต่อไปเราจะได้ทำเรื่องอะไรได้สะดวกยิ่งขึ้น”
ซีเหมินเสี่ยวเยว่คิดอยู่ครู่หนึ่ง “หลานไม่ได้ถือว่าตนเองสูงส่ง แต่ว่าหยวนซื่อไม่คู่ควรที่จะให้หลานไปทำดีด้วย แม้ว่าคนผู้นี้จะโด่งดังมาก แต่ว่าหลานดูแล้วชื่อเสียงของนางน่าจะเกินจริงไปหน่อย หลายปีมาแล้วที่นางถูกเฉินหลิงหลงผู้นั้นกดให้ต่ำมาโดยตลอด จนโงหัวไม่ขึ้น จึงเห็นได้ว่านางไม่ใช่คนที่โดดเด่นอะไร”
ฮูหยินผู้เฒ่าอดไม่ได้ที่จะก้มหน้าลง “ที่เจ้าพูดเช่นนี้มันก็ไม่ถูก แต่หยวนซื่อมีชื่อเสียงเฉกเช่นวันนี้ได้ เวลาก็ล่วงเลยมาสิบกว่าปีแล้ว ในใจของทุกคน ไม่ได้ถูกผลกระทบไปด้วย นางยังคงโดดเด่นอยู่ในที่ของนางเสมอ อย่างน้อย ๆ จุดนี้เจ้าเองก็ยังทำไม่ได้ แม้ว่าชื่อเสียงของเจ้าจะโด่งดัง แต่ก็ถูกแลกมาด้วยความตายของสามีเจ้า หากเจ้าโอหัง จะต้องแพ้พ่ายอยู่เงื้อมมือของนางแน่นอน”