ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล - ตอนที่ 308 เจตนาร้ายที่ซ่อนเร้น (3) / ตอนที่ 309 เจตนาร้ายที่ซ่อนเร้น (4)
- Home
- ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล
- ตอนที่ 308 เจตนาร้ายที่ซ่อนเร้น (3) / ตอนที่ 309 เจตนาร้ายที่ซ่อนเร้น (4)
ตอนที่ 308 เจตนาร้ายที่ซ่อนเร้น (3)
ประตูถูกถีบให้เปิดออกเสียงดังปังและหมัดก็ปะทะเข้ากับใบหน้าของชายคนนั้น เขาลงไปคุกเข่าด้วยความเจ็บปวด
ก่อนที่เขาจะได้ร้องออกมา มีเสียงของท่อนแขนที่เคลื่อนไหวและเสียงฝีเท้าดังขึ้นรอบตัวเขาพร้อมด้วยเสียงเนื้อปะทะเข้ากับเนื้อ มีเสียงโอดครวญและโหยหวนดังระงม
เขาค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองและพบกับชายหนุ่มร่างสูงสองคนพร้อมใบหน้าเปื้อนยิ้ม พวกเขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและต่อสู้อย่างไม่ยั้งมือ
ชายหนุ่มผมสีดำขลับยกขาขึ้นมาและเตะผู้ชายคนนั้นกระเด็นไปด้านหลัง!
เขากลัวจนหัวหด ไม่รู้เลยว่าสองคนนั้นเป็นใคร
เขายังคงอึ้งเมื่อชายหนุ่มผู้หล่อเหลาผมสีน้ำตาลเดินมาหาเขาและยิ้มอย่างเย็นชา มีบางอย่างเกี่ยวกับเขาที่ไม่สามารถควบคุมได้ จากนั้นชายหนุ่มเหยียบลงบนมือของเขาอย่างไร้ปรานี
“มือข้างนี้ใช่ไหมที่จับอันซย่าซย่า” น้ำเสียงอันเยือกเย็นของทำให้เขานึกถึงปีศาจจากขุมนรก
ชายคนนั้นกรีดร้องจนก้อนไขมันบนร่างกายของเขาสั่นไหว “พระเจ้า…ได้โปรด พ่อหนุ่ม อย่าทำแบบนี้เลย เรามาคุยกันดีๆ ก็ได้!”
อันซย่าซย่าและซูเสี่ยวมั่วมองชายหนุ่มสองคนนั้นด้วยความตกใจ
เซิ่งอี่เจ๋อกับฉีเหยียนซี…
อันซย่าซย่าไม่มีเวลามาคิดว่าทำไมสองคนนี้ถึงปรากฏตัวพร้อมกัน เธอรู้สึกโล่งใจมากเสียจนความรู้สึกหนักที่บ่าหายไป
เยี่ยม…ถ้าพวกเขามาไม่ทันเวลา เธอไม่อยากจะนึกเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเธอ…
ฉีเหยียนซียิ้มอย่างเลือดเย็นขณะที่เขากดส้นเท้าลงบนมือของชายคนนั้น ใบหน้าของชายคนนั้นเต็มไปด้วยคราบน้ำตาขณะที่เขาอ้อนวอนซ้ำๆ ความหยิ่งยโสบนใบหน้าเมื่อก่อนหน้านี้ที่เขาฉวยโอกาสจากอันซย่าซย่าและซูเสี่ยวมั่วหายไปอย่างสิ้นเชิง
เซิ่งอี่เจ๋อจัดการคนที่เหลืออย่างรวดเร็ว เขาดูมีเสน่ห์ราวกับนักแสดงจากภาพยนตร์กำลังภายใน จากนั้นเขาดึงอันซย่าซย่าเข้ามาไว้ในอ้อมแขน เขาตรวจสอบเธอตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าและถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง “เธอเป็นอะไรไหม เธอเจ็บตรงไหนหรือเปล่า”
อันซย่าซย่าส่ายหัวและจับแขนเสื้อของเขา “เซิ่งอี่เจ๋อ เราต้องไปแล้ว! นี่เป็นร้านอาหารของพวกคนนิสัยไม่ดี!”
เซิ่งอี่เจ๋อขมวดคิ้วและอันซย่าซย่ารีบเล่าให้เขาฟังเรื่องเด็กเสิร์ฟห้ามไม่ให้พวกเธอหนี หลังจากนั้น แทนที่จะรีบออกจากร้านโดยเร็ว เซิ่งอี่เจ๋อยิ้มอย่างเลือดเย็น
ความมุ่งร้ายจางๆ ที่ปรากฏในรอยยิ้มของเขาทำให้แม้กระทั่งอันซย่าซย่ายังต้องกลัว
เขาเดินไปหาชายที่ฝ่ามือยังคงอยู่ใต้เท้าของฉีเหยียนซีและยกขาขึ้น เขาเล็งไปที่เป้าของชายคนนั้นพร้อมถามด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์ “แกจะบอกเรื่องร้านอาหารนี้ไหม?”
เหงื่อออกหน้าผากของชายคนนั้น เขายอมรับด้วยเสียงอันสั่นเครือ “ได้โปรด อย่า…พวกเราก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน ไม่ต้องทำแบบนั้นก็ได้…ฉันจะบอก ฉันจะบอกทุกอย่าง มีผู้หญิงมาหาเราและบอกว่าเด็กผู้หญิงสองคนนี้เป็นของเรา แล้วเธอจะรับผิดชอบผลที่ตามมาทั้งหมดเอง เราจะได้กินอาหารด้วย เราไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว ก็เลย…”
ก่อนที่เขาจะพูดจบประโยค เซิ่งอี่เจ๋อเตะเข้าไปที่เป้าของเขาอย่างจัง!
บ้าจริง! พวกมันกล้าดียังไงมาฉวยโอกาสจากอันซย่าซย่า! คิดว่าเขาตายแล้วไปแล้วหรือยังไง
เด็กเสิร์ฟทุกคนตกใจ จากนั้นฉีเหยียนซีคำราม “พูดมา! เรื่องทั้งหมดมันเป็นยังไง บอกฉันมา ไม่งั้นฉันจะทำลายที่นี่ให้ราบเป็นหน้ากลอง!”
“ครับ…พวกเราแค่ทำตามคำสั่งลูกสาวหัวหน้าของเรา…ผมขอโทษ…ได้โปรด…อย่าพังที่นี่เลยนะครับ ไม่งั้นคนเป็นสิบจะตกงาน…” เด็กเสิร์ฟพูดด้วยความกลัว
อันซย่าซย่าเกิดคำถาม “ลูกสาวหัวหน้ายังงั้นเหรอ”
แล้วเธอไปเกี่ยวอะไรกับลูกสาวของเจ้าของร้านอาหารนี้ด้วยล่ะ
ห่างออกไปไม่กี่ก้าว มีเสียงเบาๆ เกิดขึ้นนอกหน้าต่าง เซิ่งอี่เจ๋อยกเก้าอี้ขึ้นมาและก่อนที่คนอื่นจะแสดงปฏิกิริยาอะไร เขาก็โยนเก้าอี้ไปทางเสียงนั้นเสียแล้ว!
คนที่ยืนอยู่ตรงนั้นเกิดอาการประหม่า เป็นเจี่ยนซินเอ๋อร์ในหมวกทรงหม้อตาลนั่นเอง!
ตอนที่ 309 เจตนาร้ายที่ซ่อนเร้น (4)
“เจี่ยนซินเอ๋อร์ ทำไมเธอมาอยู่ที่นี่” อันซย่าซย่าประหลาดใจ
ซูเสี่ยวมั่วสบถออกมาทันควัน “เ***ย นังนี่อีกแล้วเหรอ! อย่าบอกนะว่าเธออยู่เบื้องหลังทั้งหมดเรื่องนี้!”
เจี่ยนซินเอ๋อร์ถอยหลังหนี เมื่อก่อนนี้เซิ่งอี่เจ๋อเล็งค่อนข้างแม่น ถ้าไม่ใช่กระถางต้นไม้ที่อยู่บนชั้นด้านหลังของเธอล่ะก็ เก้าอี้คงโดนหน้าเธอไปแล้ว!
แทนที่จะรู้สึกผิด เธอกลับจ้องอันซย่าซย่าด้วยแววตาชั่วร้าย!
เซิ่งอี่เจ๋อคุยกับเธอหลังจากเหตุการณ์ในงานบอล ถึงแม้เขาจะมีท่าทีสงบเงียบ แต่เขาขู่เจี่ยนซินเอ๋อร์และติงอีอีให้ออกจากโรงเรียนได้อย่างมีชั้นเชิง
ตั้งแต่ออกมาจากโรงเรียนฉีซย่า เธอก็กลายเป็นความอับอายของตระกูลเจี่ยน! หลังจากนั้น ตระกูลเซิ่งยังระงับโครงการที่ดำเนินร่วมกันกับตระกูลเจี่ยนไว้ชั่วคราวอีกด้วย พวกเขาอาจไม่ได้กดขี่ตระกูลเจี่ยนโดยตรง แต่สิ่งที่พวกเขาทำก็เพียงพอที่จะทำให้ธุรกิจของตระกูลเจี่ยนต้องสั่นสะเทือน!
ร้านบาร์บีคิวแห่งนี้เป็นหนึ่งในหลายๆ ธุรกิจของตระกูลเจี่ยนและเธอมารับประทานอาหารค่ำที่นี่ตอนที่เธอพบกับอันซย่าซย่า
ทั้งเวลาและสถานที่นั้นสมบูรณ์แบบเสียจนเธอไม่อาจโยนโอกาสทองนี้ทิ้งไป!
เธอวางแผนทุกอย่างเอาไว้แล้ว พวกผู้ชายเหล่านั้นจะต้องชวนอันซย่าซย่าไปนั่งดื่มด้วย เมื่อเมาแล้ว พวกนั้นจะต้องอดใจไม่ไหวที่จะแตะเนื้อต้องตัวอันซย่าซย่า เธอจะถ่ายรูปตอนที่อันซย่าซย่ากำลังโดนฉวยโอกาสและส่งภาพเหล่านั้นไปให้เซิ่งอี่เจ๋อแบบไม่ระบุตัวตน…
หากทำเช่นนั้น เซิ่งอี่เจ๋อจะไม่สามารถสืบหาต้นตอได้และภาพเหล่านั้นจะทำให้ทั้งคู่มีปัญหากันแน่!
ไม่มีผู้ชายคนไหนรับแฟนที่มีมลทินได้หรอก!
ทุกอย่างกำลังเป็นไปตามแผน จนกระทั่งเซิ่งอี่เจ๋อและฉีเหยียนซีโผล่มา ทำให้ฝันของเธอแตะสลาย
“เธอมีหลักฐานอะไรมากล่าวหาฉัน” เจี่ยนซินเอ๋อร์ไม่ยอมกลับใจและยังคุกคามอันซย่าซย่าต่อ “เธอเคยได้ยินคำว่า ‘คนไม่มีอะไรจะเสียย่อมทำได้ทุกอย่าง’ ไหมอันซย่าซย่า ยุ่งกับฉันอีกล่ะก็เจอดีแน่!”
อันซย่าซย่าพูดไม่ออก เจี่ยนซินเอ๋อร์เป็นคนที่วางแผนจะจัดฉากเธอ แต่ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงได้พูดเหมือนกับอันซย่าซย่าเป็นคนร้ายที่ให้อภัยไม่ได้กันนะ
“เจี่ยนซินเอ๋อร์ พูดให้มันถูกต้องหน่อย!” อันซย่าซย่าโมโห เธอกำลังจะตอบโต้ด้วยความไม่พอใจ แต่ทว่าเซิ่งอี่เจ๋อห้ามเธอไว้
เขาลูบผมของอันซย่าซย่าให้เธอใจเย็นลง จากนั้นเดินเข้าไปหาเจี่ยนซินเอ๋อร์อย่างนุ่มนวล ก่อนถาม “เรากำลังพูดถึงหลักฐานอะไรอยู่เหรอ”
เจี่ยนซินเอ๋อร์กัดริมฝีปากและมองเขาด้วยสีหน้าหลากอารมณ์ มีทั้งอารมณ์หลงใหล โกรธเกลียด และต่อต้าน!
“ยังไงซะนายก็ไม่มีหลักฐาน! คำพูดของผู้ชายพวกนั้นไม่มีความหมาย…” เจี่ยนซินเอ๋อร์พ่นลมหายใจ ก่อนหน้านี้ เธอได้ขอให้พนักงานปิดกล้องแล้ว แค่คำพูดของพวกเด็กเสิร์ฟและพวกขี้เมาพวกนั้นพิสูจน์อะไรไม่ได้หรอก!
“แต่ฉันไม่ได้ต้องการหลักฐานนี่” รอยยิ้มของเซิ่งอี่เจ๋อยากที่จะคาดเดาอารมณ์ได้ ช่วงต่อมา มือของเขาเคลื่อนไหวด้วยความเร็วแสงและทั้งสิบนิ้วของเขาก็กำรอบคอหอยของเธอไว้แน่น เจี่ยนซินเอ๋อร์หน้าแดงเพราะหายใจไม่ออก ดวงตาของเธอเบิกกว้างขณะที่มองเซิ่งอี่เจ๋อด้วยความหวาดกลัว!
“เจี่ยนซินเอ๋อร์ ฉันยอมปล่อยเธอไปหลายรอบแล้วเพราะอันซย่าซย่าใจดีหรอกนะ! คิดว่าฉันจะทำอะไรเธอไม่ได้เหรอ” เซิ่งอี่เจ๋อยังคงยิ้ม แต่ทว่าเขาออกแรงบีบมากขึ้น เจี่ยนซินเอ๋อร์ดิ้นรน แต่แขนและขากลับเริ่มยอมแพ้
เธอรู้สึกได้ถึงความตายที่คืบคลานเข้ามาใกล้…
“เซิ่งอี่เจ๋อ!” อันซย่าซย่าร้องเรียกเพื่อลากเขาให้กลับเข้ามาสู่ความจริง
แววตาโหดร้ายเลือดเย็นจางหายไปจากนัยน์ตาของเขาขณะที่เขาโยนเจี่ยนซินเอ๋อร์ลงกับพื้น “ฉันจะพูดแค่นี้! แตะต้องอันซย่าซย่าอีกล่ะก็…หึหึ เดาสิว่าฉันจะทำอะไรกับเธอ”