ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล - ตอนที่ 320 เขาย้ายไปแล้ว (3) / ตอนที่ 321 เขาย้ายไปแล้ว (4)
- Home
- ยัยจอมกวนป่วนหัวใจนายไอดอล
- ตอนที่ 320 เขาย้ายไปแล้ว (3) / ตอนที่ 321 เขาย้ายไปแล้ว (4)
ตอนที่ 320 เขาย้ายไปแล้ว (3)
“ให้ตายเถอะ วันหลังฉันจะไม่ทิ้งกระเป่าสตางค์ไว้ในห้องอีกแล้ว…”
“เฮ้อ คนบางคนมือสกปรกจริงๆ …”
“……”
ทันใดนั้นข่าวลือทุกประเภทก็เข้ามาทั่วทุกสารทิศ ทุกคนต่างใช้ความคิดชั่วร้ายพุ่งเป้ามาที่อันซย่าซย่า
หน้าอันซย่าซย่าเริ่มแดงขึ้น เธอไม่รู้จะทำอย่างไรกับกระเป๋าสตางค์ที่ถืออยู่ในมือ
ฉีเหยียนซีหน้าบึ้งพลางหันไปตะโกนว่า “หุบปากได้แล้ว! ฉันเป็นคนวางผิดที่เอง พวกเธออย่ามาพูดอะไรไร้สาระไปหน่อยเลยได้ไหม?”
ผู้คนในชั้นเรียนเงียบเสียงลง ทุกคนต่างทำเป็นแสร้งตายเพราะกลัวว่าจะเป็นการยั่วยุปีศาจตนนี้
หลังจากพูดแก้ต่างให้อันซย่าซย่าแล้ว ฉีเหยียนซีก็ยื่นมาหยิบกระเป๋าสตางค์ที่อยู่ในมือเธอพลางพูดเสียงต่ำ “หายไปนานเลย…ฉันยังคิดว่าจะหาไม่เจอซะแล้ว”
อันซย่าซย่าขมวดคิ้ว “ฉีเหยียนซี ฉันไม่ได้เอาไปนะ! ฉัน…ฮึก…”
ยังไม่ทันได้อธิบาย มือใหญ่ของฉีเหยียนซีก็มาบีบที่แก้มเธอ
“ฉันก็ไม่ได้บอกนี่ว่าเธอเป็นคนเอาไป” เขากลอกตาทำทีเมินเฉย “ฉันก็แค่โมโหเพราะมีบัตรประจำตัวและบัตรธนาคารอยู่ในนี้ด้วย เธอรู้ไหมว่าช่วงนี้ฉันต้องทำบัตรเพิ่มไปตั้งกี่ใบ?”
“ฮึก…ฉันมันซื่อบื้อ” เพราะฉะนั้นอย่าบีบแก้มเธออีก!
แต่ฉีเหยียนซีกลับทำตรงกันข้าม เขาชอบความรู้สึกตอนที่ฝ่ามือสัมผัสกับใบหน้าของเธอ เขารู้สึกดีมากตอนบีบแก้มผู้หญิงคนนี้!
หลังจากบีบไปแล้วสองครั้ง เขาก็พูดว่า “แล้วทำไมเธอไม่พลิกดูกระเป๋านักเรียนเธอล่ะ? ถ้าเธอพลิกดูสักหน่อยก็คงหาเจอตั้งนานแล้ว” “นายนี่ก็เถียงข้างๆ คูๆ! ก็เห็นอยู่ว่าเป็นความผิดของนาย” อันซย่าซย่าปัดมือเขาออกเพราะรู้สึกไม่สบายที่หน้า
เธอโดนบีบจนเจ็บไปหมดแล้ว!
ทั้งสองต่อปากต่อคำเถียงกันอยู่นาน ทันใดนั้นอันซย่าซย่าก็ดูเหมือนจะรู้สึกตัวและหันมองออกไปนอกหน้าต่าง
แสงอันอบอุ่นสาดลงมากระทบไหล่ที่แข็งทื่อของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง
เซิ่งอี่เจ๋อสวมเสื้อโค้ทสีดำมองดูปฏิสัมพันธ์ระหว่างฉีเหยียนซีกับอันซย่าซย่าผ่านหน้าต่างด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง แต่นัยน์ตาดำของเขาไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด
อันซย่าซย่าจับชายเสื้อของตัวเองและรับรู้ได้ว่าเขากำลังโกรธ…
ทั้งสองสบตากันผ่านประตูหน้าต่าง หลังจากนั้นไม่กี่วิเซิ่งอี่เจ๋อก็หันหน้าหนีและเดินจากไป
อันซย่าซย่าเดินตามไปโดยไม่รู้ตัว แต่ขณะนั้นคังเจี้ยนที่ไปรับผลการเรียนก็วิ่งมาหาเธอ “ฮ่าฮ่าฮ่า! ซย่าซย่า เธอได้อันดับที่ 250 ของชั้นปี! ลำดับที่ 22 ของห้องแน่ะ อันดับแบบนี้ไม่มีใครอีกแล้วจริงๆ! แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าอันดับที่ 250 จะดีนักหรอกนะ!”
อันซย่าซย่าหัวเราะกว้างกับคังเจี้ยน “คังเพี้ยน นายมานี่”
“หืม?” เขาเดินไปอย่างไร้เดียงสา แต่สุดท้ายกลับโดนหัวเล็กๆ ของอันซย่าซย่ากระแทกอย่างแรง
“ซี้ดด! เธอฝึกวิทยายุทธหัวเหล็กมาหรือไง!”
“ไอ้คนติ๊งต๊อง! อย่าหนีนะ ฉันสัญญาว่าจะไม่ตีจนถึงตาย!” อันซย่าซย่าตะโกนและวิ่งไปข้างหน้า
เมื่อทั้งสองทะเลาะกันเสร็จแล้ว อันซย่าซย่าก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าจะต้องตามเซิ่งอี่เจ๋อไป
เท่าที่เห็นตอนนี้ เซิ่งอี่เจ๋อได้หายตัวไปแล้ว
–
คราวนี้อันซย่าซย่าทำคะแนนสอบได้ไม่เลว ซูเสี่ยวมั่วก็ยิ่งเเล้วใหญ่ เธอได้อันดับที่ห้าของชั้นปี ทั้งสองจึงนัดคังเจี้ยนมาร่วมฉลองกินปิ้งย่างเสียบไม้ด้วยกัน พวกเขากลับถึงบ้านก็เป็นเวลาบ่ายสามหรือสี่โมงแล้ว
ร้านกาแฟที่เงียบสงบในอดีต วันนี้กลับเต็มไปด้วยผู้คน พอมองอย่างละเอียดก็พบว่าไม่ใช่ลูกค้า แต่เป็นคนจากบริษัทขนของ
แย่เเล้วอันซย่าซย่า เกิดอะไรขึ้น?
เธอวิ่งขึ้นไปบนชั้นสองอย่างเร่งรีบก็พบว่าอันอี้เป่ยกำลังสั่งให้คนขึ้นไปย้ายของลงมาจากชั้นบน “….อืม จัดการให้หมด อย่าทิ้งอะไรไว้ล่ะ”
“พี่ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
เมื่อได้ยินเสียงของเธอ อันอี้เป่ยก็ยกกรอบแว่นตาขึ้นและพูดด้วยน้ำเสียงเฉยเมย “ไม่มีอะไร ก็แค่ให้คนย้ายของของวงสตาร์รี่ไนต์ออกไปให้หมด”
ตอนที่ 321 เขาย้ายไปแล้ว (4)
ย้ายออก?!
“นี่หมายความว่ายังไง…” อันซย่าซย่ากัดฟันถาม
“ก็หมายความตามตัวหนังสือข้างบน เข้าใจยากตรงไหน?” อันอี้เป่ยยิ้มอย่างเย้ยหยัน “หมดสัญญาแล้วก็ต้องย้ายออกไป มันแปลกอะไร?”
ใบหน้าอันบอบบางของอันซย่าซย่าซีดลงในทันที
จากที่คำนวณดูแล้ว วงสตาร์รี่ไนต์ทำสัญญาเช่าในเดือนกันยายน…วันส่งท้ายปีเก่าปีนี้ช้ากว่าปีที่แล้ว และตอนนี้ก็เป็นช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์…หลังจากคำนวณดูก็ครบสัญญาเช่าครึ่งปีเต็มแล้ว…
เพราะฉะนั้นพวกเขาไปแล้ว? ไปแล้วได้ยังไง?
อันซย่าซย่าวิ่งเหยาะๆ ขึ้นไปบนชั้นสาม ทั้งชั้นแทบจะว่างเปล่าทั้งหมดและไม่มีร่องรอยของวงสตาร์รี่ไนต์เลยแม้แต่น้อย
พอผลักประตูเข้าไปในห้องเซิ่งอี่เจ๋อ มันทั้งว่างเปล่าและเงียบสงัดจนทำให้เกิดความหวาดกลัว
ที่นี่จะไม่มีเสียงบ่นที่น่าเบื่อของเซิ่งอี่เจ๋ออีกแล้ว เสียงร้องเพลงทุ้มๆ และความทรงจำดีดีอีกมากมาย…จะไม่ใช่ของเธออีกต่อไป
ไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ อันซย่าซย่าถึงได้ร้องไห้ออกมา
หัวใจของเธอว่างเปล่าราวกับชิ้นส่วนนั้นถูกเจาะออกไป เธอกุมหน้าอกและทรุดลงกับพื้น
ขอบตาเธอแดงมากและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้น้ำตาไหล
ไม่รู้ว่าอันอี้เป่ยมายืนอยู่ข้างหลังเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ เขามองอยู่อย่างเงียบๆ และพูดว่า “ลงไปข้างล่างเถอะ”
“เซิ่งอี่เจ๋อล่ะ?” อันซย่าซย่าเงยหน้าถามเขา
“กลับมาเก็บของตอนเที่ยงเสร็จก็ออกไปแล้ว”
“เขาย้ายไปอยู่ที่ไหนแล้ว?” อันซย่าซย่าถามอย่างอารมณ์เสีย
อันอี้เป่ยตอบกลับเบาๆ “พี่ไม่รู้”
“หนู หนูจะโทรศัพท์หาเขา…” อันซย่าซย่าคลำหาโทรศัพท์อยู่นานก็หาไม่เจอ เธอวุ่นวายกับตัวเองสักพักก็สะดุดลงไปชั้นล่าง
“เธอทำอะไรน่ะ?” อันอี้เป่ยจับแขนเธอไว้
“หนูจะไปหาเขา!” อันซย่าซย่าพูดอย่างน่าสงสาร “เขาจะจากไปแบบนี้ได้อย่างไร…ไม่บอกกันเลยสักคำ…ไม่ได้ หนูจะต้องไปหาเขาให้ได้!”
แม้ว่าจะทะเลาะกัน แต่การย้ายออกเป็นเรื่องใหญ่ อย่างน้อยก็ควรจะบอกเธอสักคำ
“เธอไม่รู้แม้กระทั่งว่าเขาอยู่ที่ไหน แล้วจะไปหาเขาได้อย่างไร?” อันอี้เป่ยตะคอกอย่างเย็นชา “เธอรออยู่บ้านนี่แหละ ไม่อนุญาตให้ไปไหนทั้งนั้น!”
อันซย่าซย่าลนลาน “แต่ว่า…หนู…” เธออยากไปหาเซิ่งอี่เจ๋อเพื่อถามให้ชัดๆ ว่าเขาย้ายออกไปทำไม
“ไม่มีแต่!” อันอี้เป่ยพูดตัดบท “พี่เป็นคนให้พวกเขาย้ายออกไปเอง”
อันซย่าซย่าเบิกตากว้าง!
เป็นไปได้อย่างไร?!
“ซย่าซย่า พี่เคยสั่งให้เธออยู่ห่างจากเขา แต่เธอก็ไม่ฟัง ทั้งยังอยากจะอยู่กับเขาให้ได้ เธอลองคิดดูว่าตอนที่เธออยู่กับเขา เธอเสียน้ำตาไปตั้งเท่าไหร่ เสียใจไปตั้งเท่าไหร่? มันคุ้มแล้วหรือ? เธออยู่แบบนี้เธอสบายใจไหม? มีความสุขไหม? พี่เป็นพี่ชายของเธอ ไม่อยากเห็นเธอต้องจมปลักอยู่กับอะไรแบบนี้ เธอไม่ยอมทิ้งเขาไป งั้นก็ให้เขาอยู่ห่างๆ จากเธอแล้วกัน”
ยิ่งห่างกันมากเท่าไหร่ความสัมพันธ์ก็ยิ่งอ่อนแอลง และเป็นการดีที่สุดที่ทั้งสองจะเลิกรากันอย่างสงบเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้อันซย่าซย่าได้รับความเจ็บปวด
อันซย่าซย่าโต้กลับ “แต่นั่นมันเรื่องของหนู! พี่ หนูไม่ใช่เด็กแล้วนะ พี่อย่ามายุ่งกับหนูได้ไหม?”
“ถ้าพี่ไม่ยุ่งแล้วใครจะยุ่ง? พี่เป็นพี่ชายเธอ เธอต้องฟังพี่! ที่พี่ทำไปทั้งหมดก็เพื่อเธอ” อันอี้เป่ยพูดอย่างเข้มงวด
เขาเคยผ่านน้ำร้อนมาก่อน เขาไม่เคยเชื่อในเรื่องความรักและมองสิ่งต่างๆ อย่างมีเหตุและผล
ไม่ว่าจะมองในมุมไหน เซิ่งอี่เจ๋อก็ไม่ใช่คู่ที่เหมาะกับอันซย่าซย่า
เขาไม่ต้องการให้วัยหนุ่มสาวของอันซย่าซย่าต้องหมดไปกับผู้ชายแบบนี้
“เพื่อหนู เพื่อหนู! เพื่อหนูอีกแล้ว! ในเมื่อทำเพื่อหนูแล้วทำไมไม่เคยถามการตัดสินใจของหนูว่าหนูเต็มใจหรือไม่!”