ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 1015 สถานการณ์
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1015 สถานการณ์
ดังนั้นสุดท้ายแล้ว ทั้งสองก็รีบไปจากเมืองนี้ แล้วบินไปยังย่างกุ้งในประเทศZ
และในเวลานี้ โตเกียวซึ่งเร็วกว่าเวลาในประเทศหนึ่งชั่วโมง ปกติแล้วจะเป็นเวลาค่ำและมีการเปิดไฟหลากหลายดวง
ผ่านไปอีกประมาณสองชั่วโมง ในที่สุดทั้งสองก็ไปถึงสนามบินของTH ประเทศZเล็กมาก สายการบินจึงไปย่างกุ้งไม่ถึง จำเป็นต้องเปลี่ยนเครื่องที่TH
แสงดาวขึ้นเครื่องบินแล้ว พอเห็นกำหนดการเดินทางนี้ เธอก็หมดหวัง
เพราะเธอในเวลานี้ ทั้งเหนื่อยและรู้สึกไม่สบาย และไม่รู้เป็นเพราะว่าเธออยู่บนเครื่องบินเป็นเวลาหกถึงเจ็ดชั่วโมงจากในประเทศหรือเปล่า สภาพจิตใจของเธอจึงแย่มากในตอนนี้
“คุณแสงดาว งั้นคุณพักผ่อนเถอะครับ พอถึงTH ผมจะเรียกคุณเอง”
วาริชใส่ใจมาก เห็นเธอดูแย่แบบนี้ ก็สงสาร เขาให้เธอพักผ่อนเยอะๆ ส่วนตัวเองรับหน้าที่ดูแลเธอ
แสงดาวจึงหลับบนเครื่องบินอย่างสบายใจ
แต่ในความเป็นจริง แม้ว่าเธอจะนอนหลับได้อย่างสบายใจ แต่ตลอดทางนี้ เธอก็ไม่ได้หลับสักเท่าไหร่
เพราะว่า เธอปวดท้องตลอดเวลา
กินอะไรเสียไปหรือเปล่า?
หรือว่าประจำเดือนจะมา?
เธอทนไว้ อย่างทรมานสุดๆ ทนมานเกือบสิบชั่วโมงได้ ในที่สุดก็มาถึงจุดหมายปลายทาง——ย่างกุ้ง!
“คุณแสงดาว ในที่สุดพวกเราก็ถึงแล้ว คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?ไปโรงพยาบาลเพื่อดูอาการก่อนดีไหมครับ?”
“ไม่เป็นไร ฉันลงไปกินอะไรร้อนๆ หน่อยก็ดีแล้ว”
แสงดาวปฏิเสธ
จากนั้น เธอก็ถือกระเป๋าของตัวเอง กุมท้องตัวเองลงจากเครื่องบินแบบหน้าซีด
จริงๆ เลย หลังจากที่เธอลงมา เมื่อเธอหาร้านอาหารที่สนามบินได้ และสั่งอาหารและเครื่องดื่มที่มีความร้อนหน่อย จากนั้นเธอก็ค่อยๆ สบายมากขึ้นเยอะ
วาริชเห็น ก็ค่อยๆ หมดห่วงเธอ
“งั้นพวกเราจะไปไหนก่อนดี?คนของซาจากรุ๊ปบอกว่า ประธานคณาธิปทำการลงทุนพวกอิเล็กทรอนิกส์ที่นี่ ไม่งั้นพวกเราไปหาพวกสิ่งของอิเล็กทรอนิกส์ดีไหมครับ?”
“อิเล็กทรอนิกส์?”
แสงดาวกำลังกินบะหมี่ร้อนๆ อยู่ในปาก จู่ๆ ได้ยินแบบนี้ เธอก็หยุดลง ดวงตาฤดูใบไม้ร่วงสีฟ้าใสนั้นเป็นประกาย
ใช่ ทำไมเธอถึงคิดไม่ได้นะ?
ไอ้โรคจิตนั่น เขาเปิดบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าในเมืองAมาก่อนไม่ใช่เหรอ?
และชื่ออะไร“บริษัทคลาวน์โปร”?และยังเปิดตรงข้ามหิรัญชากรุ๊ปของพวกเราอีก!!
ในที่สุดแสงดาวก็คิดเรื่องนี้ได้ ทันใดนั้น เธอก็ไม่กินบะหมี่อีกต่อไป วางส้อมลงบนจาน แล้วลุกขึ้นยืน
“ใช่ คุณพูดถูก ตอนนี้พวกเราจะไปในเมือง หา‘หยุนตวนอี้ผาน’อะไรนั่น หาชื่อนี้ให้เจอ นั่นต้องเป็นของเศษสวะแน่”
“ครับ!”
วาริชเห็นเธอรีบร้อนแบบนี้ ก็อยากจะขำหน่อยๆ
แต่สุดท้าย เพราะว่ากลัวถูกเธอเห็น แล้วโดนด่า เขาจึงได้แต่ทนไว้ จากนั้นทั้งสองคนก็ออกจากสนามบิน ขึ้นรถมุ่งหน้าเข้าเมือง
หาคณาธิปจากที่เขาเคยดำเนินธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ นี่เป็นวิธีหนึ่งจริงๆ
แต่ว่า ทั้งสองคิดไม่ถึงว่า หลังจากพวกเขามาถึงใจกลางเมืองของเมืองนี้แล้ว พอมองไป ก็มีบริษัทขายอิเล็กทรอนิกส์อยู่ทุกหนทุกแห่ง จนตาพร่ามัวไปหมด
ห่า!แล้วแบบนี้จะหาอย่างไร?
แสงดาวอยากจะโมโหอีกครั้ง
ยังดีที่ เวลานี้มีพนักงานทำคาวมสะอาดผ่านมา วาริชเห็นเข้า ก็หยุดเขาไว้แล้วใช้ ภาษาประเทศZถามเขาอย่างคล่องแคล่ว:“ขอโทษนะครับ บริษัทอิเล็กทรอนิกส์ที่ใหญ่ที่สุดของที่นี่ ปกติอยู่ที่ไหนเหรอครับ?”
“บริษัทอิเล็กทรอนิกส์?อยู่แต่ที่โรงพยาบาลทั้งนั้น ที่นั่นเยอะมาก”
“อ้อๆ โอเค ขอบคุณครับ!”
วาริชขอบคุณพนักงานทำความสะอาด
พอหันหน้ามา ก็เห็นหญิงสาวที่จ้องเขาเขม็ง
“ทำ……ทำไมเหรอครับ?”
“ทำไมคุณพูดได้หลายภาษาจัง?วาริช คุณทำอะไรกันแน่?คุณเป็นนักค้าของเถื่อนจริงหรือหรือเปล่า?ฉันบอกคุณให้นะ ถ้าคุณเป็นจริง แล้วคุณหลอกฉันเพื่อเอาบางอย่างออกมาจากในมือตำรวจพวกนั้นล่ะก็ ฉันไม่ปล่อยคุณแน่!!”
แสงดาวเปลี่ยนสีหน้าในชั่วพริบตา ท่าทางอาฆาตไปทั่วร่างกาย ทำให้ผู้คนสั่นสะท้านเพราะความกลัวได้จริงๆ
ถูกต้อง ที่ตอนนี้ไอ้ถั่วงอกยังตามเธออยู่ นั่นเพราะว่าเธอซ่อนเขาต่อหน้าตำรวจเมืองA จากนั้นพาไปเจแปน
ถ้าตอนนี้เขาเป็นพวกลักลอบค้าของเถื่อนจริงๆ!
เธอแสงดาวได้เอาเขาตายแน่!!
วาริชเคยเห็นเธอน่ากลัวแบบนี้ที่ไหนกัน ทันใดนั้น ขาของเขาก็อ่อนลง
“ไม่ใช่ ไม่……ใช่ครับ คุณแสงดาว คุณฟังผมนะ ที่ผมพูดได้หลายภาษาแบบนี้ นั่นเพราะว่า ……เพราะผมเก่งด้านนี้มาก ตอนเรียนมหาลัย ผมก็เรียนเอกภาษาอะไรพวกนี้ด้วย”
“พูดได้หลายภาษา?”
“ใช่……ใช่ ได้มาแล้ว……ปริญญาโท”
เขาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอย่างระมัดระวัง จากนั้นแสดงใบปริญญาที่เก็บไว้ในนั้นให้เธอดู
แสงดาว:“……”
ราวกับว่าความโกรธที่มีอยู่ทั่วติดอยู่ในลำคอของเธอ เธอจ้องมองใบปริญญาอย่างเขินอาย พูดอะไรไม่ออกสักคำ
ปริญญาโท?
ปริญญาโทสุดยอดมานักเหรอ?เธอได้ที่โหล่ในโรงเรียนทุกปี แต่ก็ดูแลหิรัญชากรุ๊ปได้เป็นอย่างดีไม่ใช่เหรอ?