ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 107 สามีของคุณล่ะตายแล้ว
“หม่ามี๊–”
“อืม คิวคิว ลูกรักของหม่ามี๊!”
เส้นหมี่เห็นแล้ว กอดลูกชายที่หายไปแล้วเพิ่งจะได้กลับมาเอาไว้ในอ้อมกอดแน่น ตื่นเต้นสะอึกสะอื้นอยู่ในลำคอรู้สึกพูดไม่ออกขึ้นมาเล็กน้อย
ชินจังมองอยู่ไกลๆ
ความจริงแล้วเขาเองก็อยากให้หม่ามี๊กอดเช่นกัน แต่ ครั้งนี้เขาทำผิดครั้งใหญ่ เขาทำให้พี่น้องของตัวเองเกือบจะสูญเสียชีวิตไปและยังทำให้หม่ามี๊ได้รับบาดเจ็บหนักขนาดนี้อีก
ดังนั้นในเวลานี้เขาจึงไม่กล้าเข้าไปหา เขากลัวว่าหม่ามี๊จะไม่ชอบเขา ไม่ยกโทษให้เขา
แต่เพิ่งจะผ่านไปพักเดียวนั้น เส้นหมี่ที่กอดลูกชายตัวน้อยอยู่นั้น ดวงตาคู่นั้นที่มีน้ำตาคลออยู่ด้วยก็เริ่มมองหาร่างของลูกชายคนโต : “ชินชิน ยืนอยู่ตรงนั้นทำไมล่ะคะ? มา มาให้หม่ามี๊กอดหน่อย”
ตอนนี้เธอรู้แล้ว ว่าเด็กคนนี้รู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเธอคือหม่ามี๊ของเขา
ลุงของเธอพูดโน้มน้าวเธอเมื่อช่วงสายแล้ว
ชินจังเห็นแล้ว ถึงได้รู้สึกดีใจขึ้นมาใหม่อีกครั้ง จากนั้นก็พุ่งเข้าไปหาอ้อมกอดของหม่ามี๊
หลังจากนั้นไม่กี่นาที ในที่สุดแสนรักก็ขึ้นมาด้วยเช่นกันแล้วปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าประตูห้องพักผู้ป่วย
เส้นหมี่ : “………”
นั่นคือร่างใหญ่ที่สวมใส่ชุดสูทอยู่ ภายใต้แสงที่ค่อยๆมืดลงแล้วนั้น มือทั้งสองข้างของเขาสอดอยู่ในกระเป๋ากางเกงด้วยท่าทางสบายๆ เสื้อคลุมชุดสูทเปิดออกเผยให้เห็นเสื้อเชิ้ตสีเขียวเข้มมือถักด้านใน ดูแล้วสง่างามและเอาแต่ใจเป็นอย่างมาก ใบหน้ามีมุมคมอย่างชัดเจน แสดงความมีเกียรติสูงศักดิ์ หลังจากที่ปรากฏตัวแล้ว เส้นหมี่ก็รู้สึกได้ถึงหัวใจที่หยุดชะงักไปในทันที
“คุณ…..ก็มาเหมือนกัน”
เธอทักทายเขาด้วยความรู้สึกที่ไม่ค่อยมีความมั่นใจนัก
เกี่ยวกับเรื่องการลักพาตัวเรื่องนี้ ความจริงแล้วเธอก็มีส่วนผิดอยู่บ้าง ถ้าหากไม่ใช่ว่าเธอไม่บอกเขาว่าเธอยังซ่อนลูกชายอีกหนึ่งคนเอาไว้ บางทีก็อาจจะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมา
อีกทั้งที่สำคัญที่สุดก็คือ เธอยังพาลูกวนเวียนไปมาอยู่ใกล้ตัวเขามานานขนาดนี้
เส้นหมี่มองเขาอย่างระมัดระวัง
และเป็นอย่างที่คิดคือผู้ชายคนนี้ไม่ได้สนใจเธอจริงๆ หลังจากที่ก้าวขายาวๆเข้ามาอย่างไร้อารมณ์ เขาก็หยิบเอาประวัติอาการป่วยที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมา
เส้นหมี่ : “……….”
“หม่ามี๊ รินจังก็คิดถึงหม่ามี๊เหมือนกันค่ะ หม่ามี๊ดูสิ หน้ากลมรูปไข่สวยๆของรินจังผอมลงแล้ว ลองจับดูสิคะ”
บรรยากาศกำลังดูน่าอึดอัดทำอะไรไม่ถูกนั้น จู่ๆรินจังลูกรักก็ปีนขึ้นมา สาวน้อยตัวนุ่มนิ่มหลังจากที่ปีนขึ้นมาอยู่บนเตียงของหม่ามี๊แล้ว แล้วก็มุดเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของเธอทันที แล้วเอาศีรษะเล็กๆยื่นมาตรงหน้าของเส้นหมี่ ให้เธอลูบใบหน้ารูปไข่ของเธอ
เส้นหมี่เห็นแล้ว ถึงได้เก็บความคิดกลับมา แล้วสัมผัสไปที่ลูกสาวตัวน้อยของตัวเอง
“อืม ผอมลงจริงๆด้วย น่าสงสารจังลูกรัก”
“เห็นไหมคะ หลังจากที่หม่ามี๊หายแล้ว จะต้องทำน่องไก่น่องใหญ่ๆให้หนูได้ไหมคะ? เอาแบบหอมๆแบบนั้นเลย”
สาวน้อยออดอ้อนขึ้นมาอีกครั้ง เสียงเด็กๆนั้นนุ่มนวลน่ารัก ได้ยินแล้วใจก็แทบจะละลายไปแล้ว
เส้นหมี่หยิกใบหน้าลูบไข่นุ่มๆ และกำลังจะตอบตกลงนั้น เวลานี้กลับรู้สึกถึงสายตาที่อยู่ตรงข้ามที่ดูเหมือนกับกำลังจ้องมองเธออยู่ เธอจึงเงยหน้าขึ้นมามอง
แสนรัก : “………”
แววตาคู่นั้นที่กำลังจับจ้องมองพลางขมวดคิ้วไปทางเด็กน้อย เหมือนกับถูกจับได้แบบนั้น เขาก็รู้สึกทำตัวไม่ถูกดูมีความลำบากใจแบบนั้นขึ้นมาในทันที
เขาจะต้องยอมรับว่าถึงแม้ว่าเขาจะไม่ชอบเด็กคนนี้ แต่ทุกครั้งตอนที่เห็นเธอแสดงท่าทางอ่อนโยนน่ารักกับคนอื่นๆ ในใจของเขานั้นก็รู้สึกไม่พอใจมาก
เขาดูน่าตกใจขนาดนั้นเลยรึไง?
ดีที่เขาเลี้ยงดูเธอเพียงแค่สองวันเท่านั้น!!
“ใช่สิ สองวันนี้ขอบคุณมากนะคะ ที่ช่วยฉันดูลูกทั้งสองคน”
หลังจากที่เส้นหมี่เห็นผู้ชายคนนี้แล้ว รวบรวมความกล้าขึ้นมาแล้วเป็นฝ่ายพูดคุยกับเขาอีกครั้ง
เธอรู้สึกซาบซึ้งที่มาช่วยพวกเธอแม่ลูกเอาไว้ในช่วงเวลาที่สำคัญ แต่เธอไม่รู้ว่าตอนนี้เขาจะมีทีท่าอย่างไรกับการที่เธอปิดบังเรื่องยังมีลูกอีกสองคนที่ยังมีตัวตนอยู่นี้
เธอทำได้เพียงแค่ต้องรับมือกับเขาอย่างระมัดระวังเท่านั้น
อย่างที่คิดเอาไว้ เมื่อสิ้นเสียงแล้วนั้นใบหน้าอันหล่อเหลาที่มีเค้าโครงชัดเจนนี้ก็หัวเราะเยาะออกมา : “ผมเลี้ยงลูกของตัวเอง จะต้องให้คุณมาขอบคุณอะไรกัน?”
เส้นหมี่สำลักไปแล้ว!
“แต่ในเมื่อคุณฟื้นมาแล้ว ก็เรียกให้คนมาเอาตัวเด็กคนนี้ไปซะสิ”
“อ๋า?”
เส้นหมี่เงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งทันที : “เอาไป? เอาไปไหนคะ?”
“ผมจะไปรู้ได้ยังไงว่าจะเอาไปไหน? ผู้ชายคนที่คุณหาเอง ยังจะมาถามผมเนี่ยนะ?”
แสนรักแสดงอาการที่ดูจงเกลียดจงชังออกมา น้ำเสียงที่ดูรังเกียจนั้น ดูเหมือนกับถ้าหากให้เขาพูดอีกแม้แต่คำเดียว เขาก็จะรู้สึกสะอิดสะเอียนแล้ว!
เส้นหมี่รู้สึกอึ้งไปแล้ว…..
ดังนั้น จนกระทั่งถึงตอนนี้ ผู้ชายคนนี้ยังไม่รู้ว่าลูกสาวก็คือลูกของเขาเหมือนกัน?!
เขายอมรับแค่เพียงคิวคิว แต่กลับไม่ได้พบว่ายังมีลูกสาวอีกหนึ่งคนอย่างนั้นหรือ?!!
เส้นหมี่ไม่สามารถหาคำพูดมาอธิบายความรู้สึกของตัวเองได้เลย แต่มีอยู่ตรงจุดหนึ่งที่เธอรู้สึกว่าตัวเองโล่งใจขึ้นมา ตอนนี้ไม่สามารถปกป้องเอาไว้ได้แล้ว แต่เธอยังมีลูกสาวตัวน้อยอีกหนึ่งคน สำหรับเธอแล้วยังนับว่าเป็นการปลอบใจได้อยู่บ้าง
“ทำไมครับ? ไม่กล้าพูดเหรอ? คุณวางใจได้ ห้าปีก่อนของพวกเราไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดๆแล้ว ผมไม่สนใจเรื่องมั่วๆยุ่งเหยิงนั่นของคุณหรอก คุณพูดมาแล้ว ผมเองก็ไม่ได้จะทำอะไรเขาเหมือนกัน”
“……….”
เป็นเวลานาน เส้นหมี่ถึงได้กอดลูกสาวที่อยู่ในอ้อมแขนเอาไว้แล้วตอบกลับเบาๆ : “เขาตายแล้วค่ะ”
แสนรัก : “……..”
ตายอีกแล้ว?
ทำไมเขาชอบสามีที่ตายไปแบบนั้นกัน?