ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 1099 แสงสว่าง
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1099 แสงสว่าง
“ไม่จำเป็น ฉันติดต่ออะไรกับเขา? ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่มาสักหน่อย?” สุดท้ายเธอก็ไม่ต้องการโทรศัพท์แล้ว เธอหันหลังให้เขาแล้วพูดหนึ่งประโยคด้วยเสียงอู้อี้
คณาธิปค่อยโล่งอก
อยากหัวเราะ
เพราะว่าอารมณ์แบบนี้ คือเห็นได้ยากมากจริงๆ จากบนตัวของผู้หญิงที่เย่อหยิ่งมาทั้งชีวิต
แต่ว่า เมื่อเขาจะแย้มริมฝีปากขึ้น จู่ ๆ ในสมองก็นึกถึงข่าวร้ายที่ปิดบังเธอเอาไว้ เขาก็หัวเราะไม่ออก สุดท้ายก็ได้แค่กระตุกมุมปากขาวสีซีดอยู่ด้านหลังของเธอ
“ได้ งั้นก็ไม่เอาให้พี่แล้ว พี่มีอะไรอยากพูดกับเขา ผมช่วยพี่บอกต่อให้ เขาน่าจะกลับมาในเร็วๆ นี้แล้วใช่ไหม?”
“อยากกลับก็กลับ”
ผู้หญิงคนนี้กินแอปเปิลไป ในขณะที่ทิ้งประโยคนี้ออกมาอย่างไม่แยแส
คณาธิป : “……..”
สักพักก็หันหลังไป นิ้วมือที่ขาวซีดนั้นจับที่วางแขนของรถเข็นคันนี้ไว้แล้วเข็นออกมาจากในห้องพักผู้ป่วย
หลังจากที่ออกไปในนี้แล้ว ลูกน้องคนที่เข็นเขาออกมาในที่สุดก็อดไม่ได้ที่จะถาม : “คุณผู้ชาย งั้นคุณหนูใหญ่เธอจะต้องอยู่ในห้องพักผู้ป่วยแห่งนี้ตลอดจนกว่าเธอจะคลอดใช่ไหม?”
“ไม่อย่างนั้นล่ะ?” คณาธิปขมวดคิ้ว
“สถานการณ์แบบนี้ในตอนนี้ นายยังจะให้เธอออกไปอีกเหรอ? ถ้าหากได้รู้ว่าพ่อของลูกไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้แล้ว เธอจะรับไหวไหม? อย่าลืมว่าตอนนี้เธอเองก็อันตรายมากอยู่แล้ว”
“……”
ลูกน้องไม่พูดอะไร
นี่คือวิธีที่ดีที่สุดสำหรับปกป้องพวกเขาสองคนแม่ลูกไว้ในตอนนี้
และที่ประเทศ Z ทางนั้นในเวลานี้ หลังจากที่แสนรักรู้สึกดีขึ้น ก็จัดการอย่างนี้ว่า อย่าเพิ่งเผยแพร่ข่าวที่ม็อกโกพลีชีพออกไปก่อน แต่ให้รอจนกว่าลูกของเขาคลอดออกมาแล้วค่อยว่ากันอีกที
แต่เขาไม่คาดคิดเลยว่า หลังจากที่ถูกกระทบกระเทือนจิตใจแบบนี้แล้ว ไชยันต์เองก็ไม่สามารถออกมาจากห้องผ่าตัดได้อย่างแข็งแรง
“คุณแสนรัก พวกเราพยายามจนสุดความสามารถแล้ว คุณปู่ของคุณมีอาการกล้ามเนื้อหัวใจตายอยู่ก่อนหน้านี้ ตอนนี้ได้รับความกระทบกระเทือนจิตใจอย่างหนักแบบนี้อีกครั้ง พวกเราสามารถทำให้เขามีสัญญาณชีพกลับคืนมา ก็ถือว่าโชคดีมากแล้ว”
คุณหมอที่ทำการผ่าตัดให้กับไชยันต์ คือหมอที่เชื่อถือได้เพราะเป็นสถานทูตทางนั้นจัดหามาให้ หลังจากที่แสนรักมาถึงแล้ว
เขาเจอแสนรักแล้ว ก็พูดความจริงกับเขา
แสนรักฟังจบ มองดูร่างกายชายชราที่ถูกเสียบท่อเต็มไปหมด แต่เจ้าตัวไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด สีหน้าที่ยังไม่ฟื้นฟูขึ้นมา ก็ขาวซีดอีกครั้ง
“แล้วเขา….จะเป็นยังไง?”
“ในวันเวลาที่เหลือก็คงจะต้องนอนอยู่บนเตียง”
คุณหมอพูดอย่างรู้สึกเสียใจ
รองผู้นำเดชาได้ยิน ก็ร้องไห้โศกเศร้าเสียงดังขึ้นมาทันที : “คุณท่าน—-“
แสนรัก : “…….”
ไม่สามารถจะบรรยายความรู้สึกในใจของตัวเองได้เลย หลังจากที่มองดูคนเหล่านี้เข็นชายแก่คนนี้ออกไปแล้วอย่างมึนงง เขาหมดแรง คนทั้งคนก็ทรุดลงไปนั่งอยู่บนม้านั่งด้านหลัง
นี่คือจุดจบที่เขาไม่เคยคาดคิด
ชีวิตของเขาผ่านเรื่องราวมาก็มากมาย ป่วยเป็นโรคหายากตั้งแต่เด็ก จนมาถึงตอนที่ตระกูลหิรัญชาเกิดเรื่อง เขาพาคนมาตามฆ่าถึงเมืองหลวง สร้างความขัดแย้งภายในตระกูลเทวเทพที่สั่นสะท้านไปทั่วทั้งปฐพี
สิ่งเหล่านั้น แต่ละเรื่องแต่ละเหตุการณ์ต่างก็น่าตื่นระทึก
แต่ผ่านอะไรมาตั้งเยอะแยะแล้ว ในเวลานี้ เขานั่งอยู่บนม้านั่งตัวนี้ กลับค้นพบว่า หลังจากที่เจอเรื่องในตอนนี้ด้วยตัวเองแล้ว มือของเขาก็ยังคงสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะโกรธแค้น
หรือเป็นเพราะสองคนนี้คนหนึ่งตายอีกคนหนึ่งเจ็บ ทำให้เขาเศร้าเสียใจมากจริงๆ
และทั้ง ๆ ที่ตอนแรกเริ่ม เขาไม่มีความรู้สึกใดๆ ต่อบ้านหลังใหม่นี้ รวมทั้งสองคนนี้ นอกจากรังเกียจ ก็คือไม่ยอมรับ อดไม่ได้ที่จะตัดขาดกับพวกเขาให้รู้แล้วรู้รอด
นิ้วมือเรียวยาวทั้งห้าของผู้ชายก็ประคองปิดหน้าของตัวเองไว้
“ติ๊ด….ติ๊ดติ๊ด……”
“ฮัลโหล?”
“พี่ชาย พี่อยู่ที่ประเทศ Z ไหม? พี่วางใจ ฉันมาถึงเดอะวิวซีเรียบร้อยแล้ว ก่อนหน้าที่พี่จะตัดสินใจได้ ฉันจะไม่ยอมให้ปล่อยข่าวลือแพร่ไปทั่วทั้งเมืองหลวงแห่งนี้”
น้ำเสียงนุ่มนวลชัดเจนของหญิงสาวดังลอยมาจากทางโทรศัพท์ กลับนิ่งสงบกว่าเขาเสียอีก
หลังจากที่เธอได้รู้เรื่องราวทั้งหมดนี้แล้ว สิ่งแรกคือรีบไปยังจุดศูนย์กลางอีกที่หนึ่งที่อาจมีพายุกระหน่ำขึ้นได้ตลอดเวลา จากนั้นใช้ท่าทีแบบไม่รีบไม่ร้อนมากมาบอกกับเขา
มีเธออยู่ เขาก็ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องของที่บ้าน!
แสนรักควบคุมอารมณ์ไม่ไหวในทันที!
นิ้วมือเรียวยาวสีขาวซีดของเขากำโทรศัพท์เอาไว้แน่น มุมตาแดงระเรื่อ แววตาก็มีความอาฆาตแค้นกับความเศร้าเจ็บปวดอย่างมากอดกลั้นเอาไว้อยู่
“ได้ ศพของม็อกโก ผมจะเผาที่นี่ รอให้แสงดาวคลอดลูกออกมาแล้ว จะให้ทีมทหารคุ้มกันนำกลับไปประเทศ”
“รับทราบ!”
“ยังมีตาแก่เองก็เป็นอัมพาตแล้ว ถ้าหากค่ายทหารทางนั้นมีคนถามขึ้นมา คุณจำไว้ให้บอกพวกเขาว่า เขาไม่ทันระวังสะดุดล้มลง จำเป็นต้องพักรักษาตัวสักระยะถึงจะกลับไปได้”
“เข้าใจ”
เส้นหมี่ที่อยู่ในสายโทรศัพท์ก็ตกปากรับคำอย่างง่ายดาย
จากนั้น สองสามีภรรยาก็วางสายโทรศัพท์ลง
ไม่มีแม้แต่ประโยคอันอ่อนโยน
หลังจากที่ยืนดูฉากนี้อยู่ไกลๆ มาโดยตลอดอย่างรองผู้นำเดชา เขาก็อึ้งแบบไม่รู้ตัว
เขาได้ยินไม่ชัดว่าคุณชายคนนี้พูดอะไรในโทรศัพท์ แต่เขาเห็นว่าหลังจากที่เขารับสายโทรศัพท์เสร็จแล้ว ดวงตาแดงก่ำคู่นั้นที่เดิมพร่ามัวอยู่บ้างก็ค่อยๆ กระจ่างชัดขึ้น
สุดท้ายเขานั่งหลังตรง และลุกขึ้นยืนจากม้านั่งตัวนี้อย่างรวดเร็ว