ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 1133 พี่ชาย ฮือ
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1133 พี่ชาย ฮือ…
หนูรินจังได้ยิน ดวงตาเป็นประกายในทันที
“ใช่ค่ะใช่ค่ะ แต่ว่าฉันนามสกุลหิรัญชา ไม่ได้นามสกุลเทวเทพ” เธอแก้ไขอย่างจริงจัง
ผลปรากฏว่า เด็กผู้หญิงสองคนนี้ไม่ฟังด้วยซ้ำ
พวกเธอได้ยินพ่อแม่พูดถึงลูกของตระกูลเทวเทพที่บ้านสองสามวันนี้ก็จะโมโหเป็นอย่างมาก สองพี่น้องเกิดความเกลียดชังในสายตา พวกเธอเริ่มวางแผนขึ้น
“เธออยากจะเล่นกับพวกเราเหรอ?”
“ใช่ค่ะใช่ค่ะ พี่ๆ พวกเราเล่นซ่อนแอบกันเถอะ สนุกมากเลยนะ”
หนูรินจังใสซื่อเป็นอย่างมาก เมื่อได้ยินว่าพี่สาวสองคนจะเล่นกับเธอ เธอก็ดีใจขึ้นมาอีก
เด็ผู้หญิงครั้งนี้ก็ไม่ได้มีท่าทีโมโห
เพียงแต่เธอพูดข้อเสนอหนึ่งขึ้น
“ได้ เพียงแค่เธอเรียนรู้การสีไวโอลิน พวกเราก็เล่นด้วยกันกับเธอ”
“ห๊ะ?”
หนูรินจังตาโตราวกับลูกแก้วมองดูพี่สาวสองคนนี้ เธองุนงง
ยังจะต้องให้เธอสีไวโอลิน?
เธอสีไม่เป็น
ตอนเด็ก หม่ามี๊เคยส่งเธอไปเรียนสีไวโอลิน เต้นอะไรพวกนี้ เธอไม่เป็นด้วยซ้ำ เธอไม่มีเซลล์ศิลปะ นอกจากกิน และก็หวีผมให้ตุ๊กตาบาร์บี้ของเธอ
อย่างอื่นเธอทำไม่เป็นแล้ว
หนูรินจังเผยสีหน้าลำบากใจ
แต่ในไม่ช้า เด็กผู้หญิงสองคนส่งไวโอลินในมือของเธอคนหนึ่งให้กับหนูรินจัง
“มา เธอไม่ต้องเล่นเพลง เพียงแค่สีโน๊ตไม่กี่ตัวก็พอแล้ว ฉันสอนเธอตรงนี้” เด็กผู้หญิงที่ถือไวโอลินพูดกับเธอ
ง่ายแบบนี้เลยเหรอ
ในที่สุดหนูรินจังก็ตอบรับแล้ว
ดังนั้นมือเล็กอวบอ้วนสองข้างรับไวโอลินตัวนี้มา เธอเริ่มมองไปทางพี่สาวคนนี้ แล้วเรียนอย่างจริงจัง
“โด…”
“โด”
หนูรินจังสีออกมาอย่างถูกต้อง
เธอไม่ชอบเรียนพวกนี้จริงๆ แต่ตอนนั้นที่เส้นหมี่สอนอิคคิวกับชินจัง ก็บีบบังคับเธอไม่น้อย
ดังนั้นโน๊ตง่ายๆ ไม่กี่ตัวเธอยังพอเป็นอยู่
เด็กผู้หญิงได้ยินเสียงนี้ สีหน้าเปลี่ยนไป
เด็กบ้านี่ เธอสีเป็นด้วย?!!
งั้นเธอทำไมถึงต้องโกหกเธอด้วย? บอกว่าเธอไม่เป็น? หรือว่านี่จะมาตอกหน้าเธอเหรอ?
เด็กผู้หญิงคนนี้โมโหยิ่งกว่าเดิม ไวโอลินในมือของเธอ มีเสียงซับซ้อนมากดังขึ้นบนมือของเธอ ซับซ้อนจนจะเปลี่ยนโน๊ตดนตรีแล้ว
หนูรินจังตะลึง
นี่เหมือนกับว่าไม่ใช่โน๊ตตัวเดียวกันนะ
“พี่สาว นี่พี่…”
“ทำไม? สีไม่ได้เหรอ? ฉันจะบอกให้ พวกนี้เป็นโน๊ตที่ง่ายมากๆ ถ้าหากเธอเล่นออกมาไม่ได้ งั้นพวกเราก้ไม่เล่นเป็นเพื่อนเธอ อีกอย่างพวกเราจะบอกเพื่อนที่อยู่โดยรอบว่าเธอทำอะไรไม่เป็นเลย!”
“!!!!”
ดวงตาดำโตคู่นั้นของหนูรินจังเบิกกว้างทันที
พี่สาวคนนี้ทำไมถึงได้ร้ายแบบนี้? คิดไม่ถึงว่ายังจะบอกเพื่อนไป ด้วยว่าเธอทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง แบบนี้วันนี้หม่ามี๊จะต้องเสียหน้าที่นี่ไม่ใช่เหรอ?
หนูรินจังโมโหนิดหน่อย ดวงตาแดงก่ำ
“สีก็สี ฉันสีเป็น”
เธอพูดอย่างโมโหประโยคหนึ่ง
จากนั้นปรับท่าทางของมือ แล้วเริ่มเล่นอย่างจริงจัง
“ครืด—”
คิดไม่ถึงว่าครั้งนี้ ไม่เพราะเป็นอย่างมาก
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า…” เด็กผู้หญิงสองคนได้ยิน ก็หัวเราะท้องคัดท้องแข็งทันที เหลือเพียงแต่วิ่งไปบอกแม่ของพวกเธอ ว่าลูกสาวตระกูลเทวเทพโง่ขนาดไหน
ดังนั้นพูดได้ว่า ความชั่วร้ายของคน บางครั้งไม่เกี่ยวกับอายุ เป็นตั้งแต่เกิด
หนูรินจังดวงตาดำเปียกชื้น มีน้ำเอ่อล้นเต็มไปหมด ปากเล็กแดงฉ่ำก็เบ้ปาก
ไม่ เธอไม่มีทางให้พวกเธอบอกหม่ามี๊ พูดว่าเธอเป็นคนโง่ สีพวกนี้ไม่เป็น
เธอไม่มีทางให้หม่ามี๊เสียหน้าที่นี่!
สาวน้อยสูดจมูก เธอปรับท่าทางอีกครั้ง แล้วสีต่อไป
“ครืดคราด…”
“ครืดกึก—“
“กึก!”
“…”
“ลา ฟา ซอล—“
ในตอนที่มือเล็กๆ ปรับท่าซ้ำแล้วซ้ำอีก และก็ถูกเด็กผู้หญิงสองคนข้างหน้าหัวเราะเยาะซ้ำๆ ในที่สุด หนูรินจังก็สีโน้ตสองสามตัวนั้นออกมาได้สำเร็จ
เด็กผู้หญิงได้ยิน หน้าบึ้งในทันที
ยัยซื่อบื้อคนนี้ สีออกมาได้อีกแล้ว?
พวกเธอโมโห กำลังจะเอ่ยข้อเสนอที่เลยเถิดมากว่าเดิมมากลั่นแกล้ง แต่ในตอนนี้ เด็กผู้หญิงตรงหน้าที่ถูกพวกเธอกลั่นแกล้งสองครั้ง กลับส่งไวโอลินคืนมา
“ฉันไม่สีแล้ว พวกพี่เล่นกันต่อเถอะ ฉันไม่เล่นกับพวกพี่แล้ว”
ตาโตของเธอแดงก่ำไปหมด
แต่ว่าตอนที่คืนไวโอลิน กลับยังมีมารยาทมาก หลังจากที่คืนไวโอลินให้กับเด็กผู้หญิงคนนั้น หนูรินจังหันหลังวิ่งออกไป
เด็กผู้หญิงสองคน: “หึหึ ถือว่าเธอรู้ตัวดี!”
จากนั้นสองคนนี้ก็สีไวโอลินต่อไป
ส่วนทางด้านหนูรินจัง หลังจากที่วิ่งออกจากตรงนี้ ก็ไปหาพี่ชายทั้งสองคนของเธอทันที แถมยังจับมือของตัวเอง
จนกระทั่งเธอพี่พี่ชินจังของเธอ
“พี่ชาย ฮือ…”
เมื่อเห็นพี่ชาย คราวนี้เด็กน้อยอดดลั้นไม่ไหวอีกต่อไป หลังจากที่วิ่งมาก็จับมือน้อยๆ ของตัวเองแล้วร้องไห้ขึ้นมา
ชินจังที่กำลังมองดูเด็กผู้ชายที่ตัวสูงกว่าเขาเท่าตัวตรงหน้า โชว์รูบิกของเขาอย่างเบื่อหน่าย จู่ๆ เห็นน้องสาววิ่งร้องไห้มา เขาสีหน้าเปลี่ยนทันที
“เป็นอะไรไป? ใครรังแกเธอเหรอ?”
วินาทีเดียวจริงๆ เหมือนกับแด๊ดดี้ของเขา อากาศรอบๆ เด็กน้อยคนนี้หนาวเย็นจนน่ากลัว
หนูรินจังน้ำมูกน้ำตาไหลยื่นมือของตัวเองมาตรงหน้าพี่ชาย: “เลือดออกแล้ว แง้~~~~”