ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 1152 คุณนายน้อยของเขากำลังปกป้องเขา
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1152 คุณนายน้อยของเขากำลังปกป้องเขา
“ผมไม่กลับ เรื่องราวไม่ได้เกินจริงอย่างที่พวกคุณคิดขนาดนั้นเสียหน่อย ถึงแม้ว่าพ่อจะโมโห แต่เขาก็ไม่ได้ต้องการจะเอาชีวิตของผม” นึกไม่ถึงว่าเขาจะปฏิเสธ
เมื่อแสงดาวได้ยินแล้ว ก็โมโหขึ้นมาทันที!
“แล้วเมื่อคืนนี้ใครบอกฉัน? ว่าเขาจะฆ่าคุณ? แล้วใครกันที่มาล้มตรงหน้าฉันด้วยท่าทางที่ดูน่ารังเกียจแบบนั้น? คุณล้อเลียนฉันใช่ไหม? เดี๋ยวก็พูดแก้ต่างอีกสิ?”
ทันใดนั้นก็มีเสียงโมโหว่าออกมา เสียงสูงและดังกระหึ่มไปทั่วทั้งห้อง
นี่จะโทษเธอไม่ได้
เนื่องจากว่า เธอสามารถตัดสินใจได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว
ผู้ชายคนนี้ ไม่ได้มีความสัมพันธ์ใดๆกับเธอ เธอเป็นผู้หญิงที่มีสามีแล้ว แต่เป็นเพราะอยู่ที่บ้านเขามาแล้วสองสามวัน และช่วยเธอที่นี่ แต่เธอกลับหาน้องชายมาช่วยพาเขากลับไป
สำหรับเธอแล้ว เป็นการผ่านการต่อสู้ที่ยากลำบากมากจริงๆ
สามีของเธอเพิ่งจะเสียไปไม่นาน แต่เธอกลับยังจะอยู่ที่นี่เพื่อช่วยผู้ชายแปลกหน้าอยู่คนหนึ่งอีก ถ้าหากวิยศที่อยู่ในอีกภพโลกรู้เข้า เขาจะคิดอย่างไร? จะรู้สึกว่าเธอทำเกินไปหรือเปล่า?
และไม่คู่ควรกับการเป็นแม่หม้ายของเขาเลยอีกด้วย!
หญิงสาวที่โมโหจนถึงขีดสุด แม้แต่ขอบตาก็แดงอยู่เล็กน้อยด้วยเช่นกัน
ภาสดรตะลึงงันไปแล้ว
เขาดึงสติกลับมาได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย จึงรีบอธิบายขึ้นมาตรงนั้นทันที : “เปล่านะ ผมไม่ได้หลอกคุณ เมื่อคืนที่ผมพูดนั้นเป็นเรื่องจริงทั้งหมด เพียงแต่……”
“เพียงแต่อะไร?”
“เพียงแต่…..ถ้าหากผมกลับไปกับพวกคุณแบบนี้ คาดว่าพ่อของผมก็จะไปหาเรื่องน้องชายคุณด้วย”
ในหัวของภาสดรนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และในที่สุดเขาก็พูดถึงเหตุผลนี้ออกมาได้
เพิ่งจะสิ้นเสียงนั้น ผู้หญิงคนนี้ก็ไม่โวยวายแล้ว
เหมือนกับถูกจี้จุดอย่างไรอย่างนั้น ไม่มีเสียงเลยแม้แต่นิดเดียว
น้องชายของเธอ ก็คือจุดอ่อนของเธอ!
สุดท้ายแล้ว แสงดาวก็กลับไปที่ห้องของตัวเองโดยที่ไม่ได้เอ่ยพูดอะไรออกมา หลังจากนั้นก็มีเสียงประตูปิดลงดัง “ปึง”ได้ยินจนผู้ชายสองคนที่อยู่ทางด้านนอกล้วนแต่สั่นสะท้ายกันไปหมด
“เธอเองก็ทำเพื่อคุณเหมือนกัน”
“ผมรู้”
ภาสดรกลับมานิ่งสงบเหมือนเดิมแล้ว หลังจากที่เขาเหลือบมองไปยังประตูห้องที่ปิดแน่นสนิทอยู่แล้ว ก็ก้าวเท้าเดินเข้ามา เขาถือแก้วน้ำหนึ่งใบแล้วเดินไปข้างๆตู้กดน้ำ
ดลธีมองอยู่ตรงหน้าประตู แล้วเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง : “คุณไม่กลับไปจริงๆหรือครับ? เมื่อคืน ความจริงแล้วพวกเราก็อยู่ที่โรงพยาบาลเหมือนกัน แต่หลังจากที่เห็นว่าคุณหนูปรากฏตัวขึ้น พวกเราก็ไม่ได้ออกมา”
เขายังคงอธิบายเรื่องเมื่อคืนนี้
แต่ความจริงก็คือ ผู้ชายตรงหน้านี้ ไม่ว่าพวกเขาจะทำอย่างไร เขาก็ไม่คิดเล็กคิดน้อยทั้งนั้น
เขารินน้ำเสร็จแล้ว ก็ถือเอามาให้กับดลธี
“นี่เป็นความคิดของเธอจริงๆใช่ไหม?”
“ไม่ใช่หรอกครับ เป็นความหมายของท่านประธาน หลังจากคุณเกิดเรื่องขึ้นเมื่อคืนนี้ เขาได้รับข่าวแล้ว ก็โมโหและเป็นกังวลมาก แจ้งให้ผมมาที่นี่โดยตรง อีกทั้ง คุณสร้างความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ขนาดนี้ แต่ทางเมืองหลวงทางนั้นนอกจากวิบูลย์จะมาแล้ว ก็ไม่มีเหตุการณ์เล็กๆน้อยๆเลยแม้แต่นิดเดียว”
“เพราะฉะนั้น ท่านประธานรู้สึกว่า เขาเองก็ไม่ได้มีความจำเป็นที่จะมาเสียเวลาอยู่ที่นี่ และร่างกายของคุณก็ยังมีความสำคัญ”
ดลธีอธิบายอย่างละเอียด
และเขายังถือโอกาสยื่นกล่องเล็กๆสีฟ้ากล่องหนึ่งมาด้วย มองพิจารณาอย่างละเอียด เหมือนกับกล่องยากล่องนั้นที่แสงดาวถืออยู่เมื่อคืนนี้
ภาสดรรับมันมา
“นั่นเป็นเพราะโอกาสยังมาไม่ถึง รอให้ผมเข้าไปแล้ว และได้เข้าร่วมเรื่องพวกนั้น ต่อให้เป็นเรื่องที่วิบูลย์ไม่อยากถูกคนรู้เข้า เขาก็อดไม่ได้แล้ว”
“คุณ – -”
ดลธีสีหน้าขาวเผือดขึ้นมาทันที
พูดอะไรกัน?
เขาคิดว่า นั่นเป็นเหมือนตอนที่เขานำทัพฆ่าศัตรูเหมือนกับเมื่อก่อนอย่างนั้นหรือ?
ตอนนี้เขาตัวคนเดียวเชียวนะ
อีกทั้ง หลังจากอุบัติเหตุครั้งที่แล้วบนร่างกายของเขา ยังมีบาดแผลที่สาหัสขนาดนั้น เมื่อคืนยาปฏิชีวนะเพนิซิลลินเพียงนิดเดียวผิวก็แพ้เสียจนเกือบจะเอาชีวิตเขาไปแล้ว
เขายังคิดที่จะเข้าไปในแหล่งที่เต็มไปด้วยอันตรายอีก ไม่อยากจะมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม?
“ไม่ได้ คุณทำแบบนี้ไม่ได้ ผมยังยืนยันที่จะคัดค้าน ประธานของพวกเราก็มีความหมายนี้เหมือนกัน เขากำลังจัดวางใหม่อีกครั้ง ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม พวกเราไม่สามารถให้คุณมาเสี่ยงอีกได้ จะต้องพาตัวคุณกลับไป!”
ตอนที่ดลธีพูดคำสุดท้ายออกมานั้น เสียงของเขาสั่น แทบอยากจะลงมือทำให้คนๆนี้สลบไปเลยเสียด้วยซ้ำ
หลังจากนั้นก็พาตัวกลับไป
แต่บุคคลนี้กลับมองเขาเพียงแวบหนึ่ง เขาก็ไม่กล้าขยับแล้ว
แต่จากความสามารถแล้ว เขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของคนๆนี้เลย!
และไม่ใช่ตลอดไปอีกด้วย เนื่องจากว่า บุคคลนี้ถึงจะเป็นราชาแห่งสัตว์ที่ดุร้าย แล้วก็เป็นเทพแห่งสงครามที่แท้จริง!
“ไม่ต้องกังวลหรอก ผมมีความบันยะบันยังอยู่แล้ว”
“…….”
“แล้วก็ ผมจำเป็นต้องเตือนคุณเอาไว้ คุณบอกว่าผมกำลังเสี่ยง ถ้าอย่างนั้นคุณรู้หรือเปล่าว่าประธานของคุณตอนนี้ตกอยู่ในสถานการณ์อย่างไร? ก่อนหน้านี้เขาบอกผมว่าไม่ต้องไปคบค้าสมาคมกับคนในไวท์ พาเลซ แต่ตอนนี้ตัวเองกลับขึ้นนั่งเสียเอง คุณเคยคิดผลที่จะตามมาหรือเปล่า?”
“……..”
ดลธีตัวสั่นแล้ว
นานมากที่เขายืนอยู่ตรงนั้นโดยที่ไม่สามารถพูดออกมาได้อีกแม้แต่คำเดียว
ปฏิกิริยาตอบสนองเพียงหนึ่งเดียวก็คือ ใบหน้านั้นที่ยิ่งซีดขึ้น และความรู้สึกหวาดกลัวที่อยู่ในส่วนลึกก้นบึ้งของหัวใจ และเหมือนกับเหวลึกที่ไม่มีที่สิ้นสุด หล่นลงไปด้านล่างไม่หยุด แพร่กระจายไปทั่วทุกทิศทาง
ใช่ ประธานของเขา เวลานี้ตกอยู่ในสถานการณ์แบบไหนกัน?
ความจริงแล้ว ยิ่งน่ากลัวยิ่งกว่า!
ถ้าหากพูดว่าทางนี้เป็นแหล่งที่เต็มไปด้วยอันตราย เช่นนั้นทางไวท์ พาเลซ ก็คือนรกที่แท้จริง เขาคนเดียวจัดการกับพวกเขา ถ้าเรื่องราวไม่กลับดีขึ้นมา
ไม่ก็เป็นเขาที่ถูกพวกเขาฉีกเป็นชิ้นเล็กๆ!!
สุดท้ายแล้วดลธีก็ไปด้วยความหมดอาลัยตายอยากจากความล้มเหลว
ภาสดรมองดูประตูห้องที่ปิดเอาไว้แล้วคิดอยู่พักหนึ่ง แล้วเดินมาเคาะประตูห้องแสงดาว : “คุณนายน้อย คุณจะกลับไปกับบอร์ดี้การ์ดคนนี้ของพวกคุณหรือเปล่า?”