ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 1179 การต่อสู้ที่สิ้นหวัง
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1179 การต่อสู้ที่สิ้นหวัง
แสงดาวก็อยากจะไปดูว่านั่นเป็นใครกันแน่ แต่เพราะว่าบนร่างยังมีลูกสาว สุดท้าย เธอจึงทำได้เพียงเดินตามลูกน้องของชายเสียงแหบไปอย่างว่าง่าย เดินไปยังบ้านไม้อีกหลัง
ในค่ำคืนของฤดูหนาว ลมที่อยู่ในป่าเขาเหน็บหนาวร้าวเข้ากระดูก ในหูยังได้ยินเสียงของสัตว์ป่านานาชนิดที่ร้องไม่หยุด ท่ามกลางความมืดที่ยื่นมือออกไปมองไปเห็นแม้นิ้วมือ ทำให้คนได้ยินแล้วรู้สึกขนหัวลุก
แสงดาวกอดลูกสาวเอาไว้ไม่กล้านอน
เธอไม่รู้ว่าคืนนี้จะเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เธอเป็นกังวลว่าบรรยากาศเลวร้ายแบบนี้จะทำให้ลูกสาวหนาวเอาได้
ในตอนที่มีเสียงอะไรบางอย่างเกิดขึ้น น่าจะประมาณตีสอง ตอนนั้น เธออยู่ในบ้านไม้ กอดลูกสาวเอาไว้นั่งอยู่ข้างๆกองไฟกำลังจะผล็อยหลับไป
“มาแล้ว!เขามาแล้ว!”
เหมือนกับฟ้าถล่มทลาย เมื่อคนคนนั้นที่อยู่ในบ้านไม้หลังเดียวกันกับแสงดาวพุ่งออกไป เธอตกใจตื่นทันใด พร้อมทั้งอุ้มลูกสาวมาจากบนพื้นแล้วลุกขึ้นมาแล้ว
ปรากฏว่า ในตอนที่เธอเดินมายังหน้าต่าง เธอมองเห็นคนด้านนอกเหล่านั้นเริ่มเตรียมการขึ้นมาแล้ว
พวกเขามีบางส่วนกำลังเตรียมอาวุธ มีเพียงส่วนกำลังหยิบอะไรบางอย่างที่มีจุดสีแดงสะท้อนขึ้นมา ก็ไม่รู้ว่ากำลังทำอะไร
แต่สิ่งที่น่ากลัวที่สุด ไม่ใช่สิ่งเหล่านี้ เธอที่อยู่ในบ้านไม้หลังเล็กหลังนี้ รอให้พวกเดินออกไปพอสมควรแล้ว พอดีบ้านหลังนั้นก็เปิดไฟขึ้นมาแล้ว เธอที่มองจากด้านนี้เข้าไป แวบเดียวก็มองเห็นในผนังด้านในสิ่งที่แขวนเอาไว้ต่างเต็มไปด้วยจอแสดงผลLED
ทว่าตอนนี้ ข้อมูลต่างๆกับจอสีฟ้ากำลังแสดงผลอยู่ด้านบน!
นั่นคืออะไร?
ห้องควบคุมกล้องวงจรปิด?
ที่แท้ ในหุบเขาแห่งนี้ เดิมไม่ใช่สถานที่ที่ไม่มีคนอาศัยอยู่ แต่ทว่าได้กลายเป็นฐานของพวกเขาไปตั้งนานแล้ว เป็นแหล่งกบดานของพวกเขาใช่ไหม?
ในที่สุดแสงดาวก็เข้าใจแล้ว ทันใดนั้น เธอที่อยู่ในบ้านหลังนี้ ก็สั่นเทาไปทั้งร่างขึ้นมา
ไอ้พวกเดรัจฉาน!
——
ภาสดรมาแล้วจริงๆ
เขาก็เข้ามาในหุบเขาแห่งนี้แล้ว
แต่ว่า เขายังไม่ได้มาถึงในพื้นที่ใจกลางหุบเขา ทว่ากำลังเข้ามาแล้ว เขาก็ได้หาตำแหน่งตำแหน่งหนึ่งหยุดลง หลังจากนั้นก็ยกข้อมือขึ้นมา ท่ามกลางความมืดกำลังกดปุ่มที่อยู่ด้านบน
หลังจากนั้นไม่กี่นาที เงาดำหลายเงาที่เหมือนกับเสือชีตาห์ที่แข็งแกร่ง ก็โผล่ออกมาจากเชิงเขาแล้ว
ไม่นาน ท่ามกลางความมืดก็เข้ามาหาเขาแล้ว
“พลตรี!”
“อืม ภารกิจครั้งนี้ ไม่ต้องเกรงใจ เน้นการฆ่าเป็นหลัก จำเอาไว้ ครั้งนี้สิ่งที่พวกคุณกำลังเผชิญหน้า ไม่ใช่ศัตรูที่ธรรมดา ได้เห็นแล้ว อย่าได้ลังเล เอาวิธีการฆ่าศัตรูที่ทรงพลังที่สุดของพวกคุณออกมา!”
ภาสดรมองไปยังเหล่าหน่วยรบพิเศษที่เขาตั้งตกตั้งใจฝึกฝนมาอย่างดีหลายคนนี้ ท่ามกลางความมืด ออกคำสั่งสุดท้ายกับพวกเขา
สามวินาที ทีมย่อยก็กระจายตัวแล้ว
ทว่าภาสดร ในที่สุดก็พุ่งตรงเข้าไปที่ตรงใจกลางของฐาน
เพราะว่าเป็นห่วงสองแม่ลูก ในตอนที่เขามานั้น ทั้งที่รู้ว่ารอบตัวของเธอมีคนปกป้องอยู่ แต่ว่า เขาก็ยังคงเป็นกังวลอย่างมาก แม้แต่โทรศัพท์ที่อยู่บนร่างกาย แสนรักส่งข้อความมาแล้วยังไม่รู้เลย
“ฮืม——”
ในตอนที่มีดเหล็กเล่มแรกบินมาหาตัวเอง เขาเอนตัวหลบ เขาดึงมีดซัดกลับไปอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า
ความเร็วของเขา ช้ากว่าที่เคยอยู่หลายวินาที
“ปรากฏว่าคุณไม่ใช่ลูกชายของวิบูลย์!”
คนที่กำลังต่อสู้อยู่ด้วยหลังจากได้เห็นเขาทั้งคล่องแคล่วอีกทั้งไหวพริบดี ตะโกนออกมาอย่างปีติหนึ่งประโยค
ภาสดร……
ไม่ใช่ น่าจะเป็นม็อกโก
ม็อกโกบีบมีดเหล็กของเขาแน่น ยิ้มออกมาอย่างเห็นชา:“ใช่แล้ว ผมไม่ใช่จริงๆ แต่ว่า ตอนนี้คุณรู้แล้วก็ไม่มีประโยชน์อะไร”
“ทำไมล่ะ?”
คนคนนี้ตะลึงงัน
ม็อกโกยิ่งจ่อปลายมีดใกล้เข้ามาอีก:“เพราะว่าที่ยืนอยู่ด้านหน้าของคุณ คือผู้บัญชาการสูงสุดของหน่วยรบพิเศษอันดับหนึ่งของประเทศ เขาไม่อยากจะปล่อยคุณไป วันนี้ คุณก็ไม่มีทางจะเดินออกจากหุบเขาแห่งนี้ได้”
ความเยือกเย็นสะท้อนออกมา!
คนคนนี้ ยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ คอของเขาก็ถูกปลายมีดที่ถือว่าเป็นของตัวเองกรีดเข้าไปแล้ว ทันใดนั้นเลือดก็หลั่งไหลลงอย่างกับน้ำพุ
“ตะลึง——”
ท่ามกลางความมืด เขาเข้ามาในหุบเขาแห่งนี้ จนตาย ดวงตาคู่นั้นเบิกออกมากว้างอย่างขีดสุด
ผู้บัญชาการสูงสุดของหน่วยรบพิเศษอันดับหนึ่ง!!
ที่แท้ นี่กลัวขนาดนี้เลยเหรอ?
เขาแม้แต่เขานำเอามีดของตัวเองเปลี่ยนมาเป็นอาวุธของตัวเองได้อย่างไร ยังไม่ทันได้มองเข้าใจ ผู้บัญชาการคนนี้ น่ากลัวขนาดไหน ทำไมพวกเขาไม่เคยรู้มาก่อน ไอ้พวกคนที่กินข้าวหลวงเหล่านี้ ก็เก่งกาจขนาดนี้
คนคนนี้ตายตาไม่หลับ
ม็อกโกไม่ได้สนใจ หลังจากฆ่าเสร็จแล้ว ก็ทิ้งมีดเหล็กไป ยกซากศพไปไว้ด้านข้าง หลังจากนั้นก็เดินเข้าไปต่อ
แต่ครั้งนี้ อย่างรวดเร็ว เขาก็ได้พบกับเรื่องยุ่งยากแล้ว
เขามองเห็นเส้นสีแดงเหล่านั้นขวางอยู่ข้างหน้า
แสงเลเซอร์?
ฮึ โรงน้ำชาแห่งนี้ มีความสามารถไม่น้อยจริงๆ
เขาหยุดลงแล้ว หยิบกล่องเล็กๆสีเงินออกมาจากบนร่างกาย เปิดออกแล้วหยิบหลอดของเหลวสีฟ้าออกมาแล้วขว้างเข้าไป ปืนเก็บเสียงที่อยู่ในมือยกขึ้นมา
“ปังปัง——”
เหมือนกับดอกไม้ไฟที่เบ่งบานในอากาศ!
ของเหลวสีฟ้าอันนั้น ภายใต้ลูกกระสุนของเขาแตกกระจายอยู่กลางอากาศ อนุภาคสีฟ้านับไม่ถ้วนกระจายลงมา ทันใดนั้น เส้นสีแดงเหล่านั้นที่ตัดกันไปมา จึงกระจายหายไปเหมือนกับควันไฟยังไงยังงั้น ไม่เห็นอีกแล้ว
โอ้พระเจ้า!
ในบ้านไม้ด้านโน้นที่อยู่ใจกลางหุบเขา คนที่กำลังนั่งดูกล้องวงจรปิดอยู่นั้น เบิกตากว้างอ้าปากค้าง