ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 129 เขานั่งลงใกล้ๆเธอ
อาจจะเป็นเพราะจู่ๆก็เห็นว่าสีหน้าของผู้ชายคนนี้ไม่ค่อยดีนัก มือที่หยิบแผ่นมันฝรั่งอยู่ของเส้นหมี่จึงหยุดลงในที่สุด
“คุณเป็นอะไรไป? ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
“……….”
ผ่อนคลายลงแล้วพักหนึ่ง ชายหนุ่มที่รู้สึกปวดเสียจนในกระเพาะนั้นรู้สึกพะอืดพะอมขึ้นมา ถึงได้เอ่ยพูดขึ้นด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด : “ขยับไปอีกหน่อย”
เส้นหมี่ : “………”
เธอมองเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อ สุดท้ายแล้วเธอขยับออกไปด้วยความลังเล
ผลปรากฏว่า เธอเพิ่งจะขยับออกไปนั้น ผู้ชายคนนี้ก็นั่งลงใกล้ๆเธอ ความหนาวเหน็บทั่วทั้งร่างกาย ผสมผสานกับลมหายใจของผู้ชายที่จู่ๆก็พุ่งเข้ามาอย่างกะทันหันนี้ ทำให้ร่างของเธอแข็งทื่อไปอย่างไม่สามารถควบคุมได้!
เขานี่หลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ?
กำลังมองอย่างจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ชายหนุ่มที่นั่งพิงอยู่บนโซฟาหลับตาทั้งสองข้างลงนั้น ก็เอ่ยขึ้นมาอย่างรำคาญอีกครั้ง : “ยังมองไม่พออีกเหรอ? ไปรินน้ำมาให้ผมที!”
เส้นหมี่สำลักขึ้นมาอีกครั้งในทันที!
ยอมแล้ว ยังไม่ได้ลืมตาขึ้นมาเลยก็รู้แล้วว่าเธอกำลังมองเขาอยู่?
“…….อ่อ”
หน้าแดงขึ้นมาแล้ว เธอจึงรีบวางถุงมันฝรั่งในมือลง หลังจากนั้นก็ไปรินน้ำให้ผู้ชายเลวๆคนนี้
หลังจากนั้นไม่กี่นาที บางทีอาจจะเป็นเพราะน้ำร้อนลงไปในท้องแล้ว หรือบางทีจะเป็นเพราะเตาไฟฟ้าตรงข้างๆเท้านั้นทำให้แสนรักอบอุ่นขึ้นมา นับว่าสีหน้าของเขาไม่ได้ดูแย่ขนาดนั้นแล้ว
เส้นหมี่เห็นแล้ว รู้สึกลังเลอยู่พักหนึ่งพลางเอ่ยถามขึ้น : “ถ้าไม่อย่างนั้น? คืนนี้ก็ยังไม่ต้องพาพวกเขากลับไปหรอกค่ะ? คุณดูสิตอนนี้ตีสี่แล้ว เดี๋ยวฟ้าก็สว่างแล้ว คุณเองก็ดูไม่ค่อยดีเลยด้วย”
“………”
ประโยคแบบนี้ สายตาที่คมกริบและทั้งเย็นชาก็เหลือบมองมา
เส้นหมี่เห็นแล้ว ก็รู้สึกชาไปหมด หันไปอย่างรู้จักจะวางตัว และไม่ได้ส่งเสียงออกมาอีกด้วยเช่นกัน
ว่ากันตามจริงแล้ว จากการได้มาสัมผัสกันในช่วงเวลานี้ เธอเองก็สัมผัสได้ถึงนิสัยของคนๆนี้บ้างแล้ว เขาคิดว่าตัวเองเก่ง ถึงแม้ตัวเองจะทำผิดก็ตาม
อืม เธอเองก็ไม่สามารถไปว่าเขาได้ และยิ่งไม่สามารถไปตัดสินใจแทนเขาด้วย
เส้นหมี่กำลังคิดอย่างเงียบๆ ตัวเองจะต้องเข้าไปใส่เสื้อผ้าลูกชายให้ดีก่อนหรือเปล่า?
แบบนี้ตอนที่พวกเขาถูกพาตัวออกไป จะได้ไม่ต้องกังวลว่าจะหนาว
“มีอะไรทานไหม?”
“อา?”
จู่ๆเส้นหมี่ได้ยินประโยคนี้ ก็คิดว่าตัวเองได้ยินผิดไป จึงรีบหันมาจ้องมองที่ผู้ชายคนนี้ทันที และเป็นเวลานาน เธอถึงได้ยินประโยคที่ตัวเองเอ่ยถามออกไป : “คุณ…..จะทานอะไร?”
“อะไรก็ได้!”
แสนรักตอบกลับไปอย่างรำคาญ
เขาในเวลานี้ความจริงแล้วรู้สึกไม่สบายอยู่มากจริงๆ เป็นเวลาสิบกว่าชั่วโมงที่ไม่ได้ดื่มน้ำซักหยด ประกอบกับอากาศหนาว และยังมีอาการเดิมของเขาที่ชอบปวดหัวอีก
และในเวลานี้ เขารู้สึกร้อนรนมากจริงๆ ไม่อยากจะเอ่ยพูดออกมาเลยแม้แต่คำเดียวเช่นกัน
หลังจากที่เส้นหมี่มองเขาพักหนึ่งแล้ว ในที่สุดเธอก็ลุกขึ้น
เวลานี้แล้ว ในบ้านจะต้องไม่มีอะไรอย่างอื่นให้เขากินแน่นอนอยู่แล้ว คงจะไม่สามารถทำใหม่ได้ เส้นหมี่เข้าไปในห้องครัว นึกถึงบะหมี่ผัดซอสที่แม่ลูกยังกินกันไม่หมด
ผ่านไปประมาณสิบนาที แสนรักที่นั่งหลับตาพิงอยู่ที่โซฟานั้น จมูกของเขาก็ได้กลิ่นหอมยั่วยวนขึ้น
“เวลาป่านนี้แล้ว ไม่มีของอย่างอื่นแล้วเหมือนกัน นี่บะหมี่ผัดซอส เมื่อช่วงเย็นฉันกับลูกๆกินอันนี้กัน คุณก็ทานซักหน่อยแล้วกัน”
เส้นหมี่ยกบะหมี่ออกมา แล้ววางลงตรงหน้าชายหนุ่ม
บะหมี่ถึงแม้ว่าจะเหลือมาจากช่วงเย็น แต่สามารถมองเห็นได้ถึงความตั้งใจเช่นกัน
เนื่องจากด้านบนยังมีไข่ดาวที่ทอดเป็นสีเหลืองกรอบ และยังมีหั่นต้นหอมซอยละเอียดเอาไว้อีก มองแล้วทำให้มีความรู้สึกอยากอาหารเป็นอย่างมาก
แสนรักหยิบตะเกียบที่วางอยู่ข้างๆขึ้นมา
เส้นหมี่ : “………”
ในใจกระชับแน่นขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ทานในสิ่งที่เธอทำ ครั้งที่แล้วที่เรืองรอง ถึงแม้ว่าเขาจะได้ทานเกี๊ยวไปแล้ว แต่นั่นนับว่าเป็นเกี๊ยวที่เธอกับพี่ภาห่อด้วยกัน
ส่วนตอนนี้ บะหมี่ชามนี้ นับว่าเป็นอาหารที่เธอทำให้เขาเป็นมื้อแรก
เส้นหมี่ก้มหน้าลง แสร้งทำเป็นจัดแจงโซฟา ไม่สนใจกับเรื่องนี้
เสียงของการดูดเส้นบะหมี่เข้าไปมีเพียงเล็กน้อยมาก ท่าทีการปฏิบัติตัวของผู้ชายคนนี้ ตอนที่ทานอาหาร โดยพื้นฐานแล้วจะไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรทั้งนั้น
แต่เวลานี้ เธอได้ยินแล้ว
มือของเธอที่มีการเคลื่อนไหวอยู่นั้นช้าลงทันที กลั้นหายใจอย่างใจจดใจจ่อ เธอรอให้เขาทิ้งตะเกียบลง หรือผลักชามออกอะไรแบบนี้
เนื่องจากว่า เขาเป็นคนที่เคยชินกับอาหารที่มีรสชาติดี บะหมี่ธรรมดาๆง่ายๆแบบนี้ เธอรู้สึกว่าคงจะไม่เข้าตาเขาซักเท่าไหร่นัก
แต่ที่ทำให้เธอรู้สึกประหลาดใจก็คือ เธอนั่งอยู่ตรงนั้น รออยู่พักหนึ่ง ก็ไม่ได้รับรู้ถึงการเคลื่อนไหวข้างๆเลย จึงหันกลับไปมองถึงได้พบว่าคนๆนี้ไปดูโทรศัพท์มือถืออีกแล้ว
เส้นหมี่ : “………”
ช่างเถอะ แล้วแต่เขาเลย
เส้นหมี่ไม่ได้สนใจเรื่องนี้อีก ทั้งร่างกายของเธอรู้สึกผ่อนคลายลง เธอนั่งอยู่ตรงนั้นด้วยความอบอุ่น และไม่นานก็ผล็อยหลับไป
เธอเองก็ไม่ได้นอนมาทั้งคืนแล้ว
ในที่สุดแสนรักก็ทานบะหมี่ชามนั้นจนหมด รู้สึกว่าจริงๆแล้วก็ไม่เลวเลยเหมือนกัน
แต่หลังจากที่เขาทานเสร็จแล้ว ตอนที่อยากจะเรียกให้ผู้หญิงคนนี้ไปอุ้มลูกมานั้น พบว่าเธอนั่งหลับอยู่ตรงข้างๆเขาไปแล้ว
“ท่านประธานครับ?”
“รู้แล้ว จะลงไปเดี๋ยวนี้”
เขามองดูข้อความที่ได้รับในโทรศัพท์มือถือ นิ้วเรียวยาวตอบกลับไปประโยคหนึ่ง แล้วเขาก็เตรียมลุกขึ้นเพื่อจะไปอุ้มลูกเอง
แต่เมื่อเขาลุกขึ้นมานั้น ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะจู่ๆคนข้างๆจะลุกจากไปหรือเปล่า ความอบอุ่นแบบนี้ก็ได้หายไปแล้ว เส้นหมี่ที่นอนคว่ำหน้าลงอยู่บนโต๊ะ ก็ขดตัวเข้าหากัน
เท้าของแสนรักหยุดลงอีกครั้ง