ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 1332 คนบางคนก็เป็นปีศาจโดยสัญชาตญาณ
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1332 คนบางคนก็เป็นปีศาจโดยสัญชาตญาณ
คนในห้องทำงานประธานทั้งหมดตกตะลึง ส่วนอากิโกะ นากาจิมะ หลังจากได้เห็นฉากนี้ก็ตัวอ่อนไปทั้งตัว ทรุดตัวลงตรงนั้นต่อหน้าทุกคน
“คณาธิป ฉัน…ฉันผิดไปแล้ว ฉันขอร้องล่ะ…ยกโทษให้ฉันเถอะนะ…”
เธอคุกเข่าลงกับพื้นแล้วเริ่มอ้อนวอนชายคนนั้นอีกครั้งอย่างเจ็บปวด
คณาธิปเห็น รูม่านตาก็หดตัว
ในที่สุดเขาก็พบกับสิ่งที่ตัวเองมองข้ามไป แต่เป็นเรื่องที่น่ากลัวยิ่งกว่า
“พาตัวเธอเข้ามา!” แต่ละคำที่เขาพูดออกมาราวกับออกมาจากนรก
อากิโกะ นากาจิมะหน้าซีดในทันที
เธอเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจกลับพบว่าชายคนนั้นเดินเข้าไปแล้ว ส่วนหัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยที่อยู่ที่นี่พอดีก็คว้าแขนเธอไว้ทันทีแล้วลากเธอเข้าไปทันที
“ปัง–”
ประตูห้องทำงานถูกปิดลง ทุกคนก็ไม่เห็นอะไรอีก
จะเกิดอะไรขึ้นข้างในนะ?
ทุกคนต่างสงสัย รวมทั้งเชียนหยวนล๋ายเย่ด้วย
แต่เพราะประตูปิดอยู่ เธอไม่มีทางเลือก ดังนั้นจึงได้แต่รออยู่ข้างนอก ตอนนี้หลังจากที่ห้องทำงานของประธานเงียบลง บรรยากาศก็เงียบเป็นพิเศษ
“ว่ามา เธอทำอะไรลงไปอีก?”
ในห้องทำงานที่เงียบเช่นเดียวกัน คณาธิปยืนปลดกระดุมข้อมืออยู่ตรงนั้น พลางมองผู้หญิงที่ถูกโยนลงบนพื้นแล้วเอ่ยถาม
น้ำเสียงนี้ น่ากลัวมาก
การกระทำนี้เต็มไปด้วยเจตนาการฆ่าที่น่ากลัวสุดๆ
มันคล้ายกับตอนนั้นที่เขารับมือกับคน วินาทีก่อนหน้าเขายังคุยสนุกกับผู้คน แต่วินาทีต่อมากลับเสียชีวิตในมือเขา
อากิโกะ นากาจิมะสั่นสะท้านไปทั้งตัว
“อา…อากิยามะ ฉัน…ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ฉันก็แค่…แค่ทำเรื่องนี้ ฉัน…ฉันไม่อยากให้คุณแต่งงานกับเชียนหยวน ฮอน เพราะฉันไม่อยากเป็นคนรับใช้เธอในอนาคต…”
เธอหาข้อแก้ตัวให้ตัวเองอีกครั้ง
ใช่ คนที่โกหกเป็นนิสัยสามารถหาข้อแก้ตัวจากความผิดให้ตัวเองได้ง่าย
คณาธิปไม่ส่งเสียงอะไร
จนกระทั่งเขาปลดกระดุมแขนเสื้อทั้งสองข้างแล้วม้วนขึ้น จากนั้นก็ลากเก้าอี้ตรงโต๊ะกาแฟอย่างลวกๆ
“อา…อากิยามะ…”
“เธอรู้ว่าคืนนั้นฉันเอาเก้าอี้ตัวนี้ทุบหัวผู้หญิงวัยกลางคนคนนั้น รู้ว่าหัวแตกจนเลือดไหลยังไงใช่ไหม? โอ้ ไม่สิ เธอน่าจะเห็น ใช่ไหม?”
คณาธิปยกเก้าอี้ตัวนั้นขึ้น
“ปัง!”
“กรี๊ด–”
ตอนที่เก้าอี้แตกเป็นเสี่ยงๆ
ผู้หญิงคนนี้ส่งเสียงร้องออกมาลั่นอย่างเวทนา
เธอกุมหัวตัวเอง เลือดสีแดงสดไหลออกมาจากร่องนิ้วแทบจะในทันที เหมือนกับผู้หญิงวัยกลางคนที่โดนผู้ชายคนนี้ทุบในคืนที่ไนท์คลับวันนั้น
โหดเหี้ยมมากไหม?
ไม่ ไม่สักนิดเดียว
เพราะในตอนแรกเธอวางแผนใส่เขาแบบนี้ ส่วนผู้หญิงวัยกลางคนคนนั้นก็แลกชีวิตไปกับเงินห้าล้านที่เธอมอบให้
คณาธิปหยิบที่เขี่ยบุหรี่บนโต๊ะกาแฟขึ้น
ถ้าเขาจำไม่ผิด ของชั้นที่สองที่ทุบใส่ผู้หญิงวัยกลางคนคนนั้นก็คือที่เขี่ยบุหรี่อันนี้
“ไม่เอา!!”
ผู้หญิงคนนี้เห็น ในที่สุดเธอก็กุมหัวของตนที่มีเลือดไหลไม่หยุดแล้วกรีดร้องขึ้นมา
“ไม่เอา อากิยามะ ฉันผิดไปแล้ว ฉันขอร้อง ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันจะพูด ฉันจะพูดให้หมด…”
เธอตะเกียกตะกายขึ้นมาราวกับสุนัขตัวหนึ่ง หลังจากเข้ามาดึงขากางเกงเขาอย่างขวัญหนีดีฝ่อ สุดท้ายก็รับปากว่าจะพูดออกมาทั้งหมด
ดังนั้นที่เขี่ยบุหรี่ในมือคณาธิปจึงไม่ได้ทุบลงไปชั่วคราว
“ฉัน…ตอนแรกฉัน ไม่ได้คิดที่จะทำร้ายใคร เพียงแต่หลังจากที่เชียนหยวนล๋ายเย่มามันทำให้ฉันรู้สึกไม่ปลอดภัยเอามากๆ ฉันกลัวจะเสียคุณไป ฉันกลัวว่าเธอจะมาแทนที่ฉัน ดังนั้นสุดท้ายฉันจึงเอาสายตาไปจับจ้องที่ตัวแสงดาว”
“แสงดาว?”
“ใช่ เพราะแสงดาวคอยจับคู่พวกคุณสองคนมาโดยตลอด แล้วเธอก็เกลียดฉัน วันนั้นที่เธออยู่ในห้องทำงานยังคิดที่จะให้คุณส่งฉันกลับญี่ปุ่นไม่ใช่เหรอ?”
ผู้หญิงคนนี้ร้องไห้ หวนรำลึกถึงตอนแรกที่ตัวเริ่มทำเรื่อง ความจริงแล้วจนถึงตอนนี้สายตาเธอยังคงมีความเกลียดชังอยู่
เพราะวันนั้นตอนที่แสงดาวเสนอให้ชายตรงหน้าส่งเธอไปญี่ปุ่น เธอรู้สึกกลัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนจริงๆ
ตระกูลนากาจิมะของพวกเธอไม่เหลือใครแล้ว
ทางฝั่งเฮกัง ตอนนี้เขาวางมือแล้ว เหลือเพียงลูกชายทั้งสองคนของเฮกัง แต่ตอนนั้นพวกเขานากาจิมะสามพี่น้องก็ฟังคำสั่งจากเนติมาโดยตลอด
เนติคือผู้หญิงที่เฮกังไปได้มาจากข้างนอก
ลูกชายของเฮกังทั้งสองคนปกติแล้วก็ไม่ลงรอยกับเธอ ถ้าตอนนี้เธอกลับไป พวกเขาจะรับเธอไว้เหรอ?
ดังนั้นในตอนนั้นเธอกลัวมากจริงๆ
“เพื่อที่จะไม่ให้แสงดาวเป็นก้างขวางคอ ก็ทำได้เพียงทำให้เธอกลับเมืองหลวง ดังนั้นฉันจึงให้ผู้หญิงคนนั้นไปขโมยลูกของเธอ แต่อากิยามะคะ ฉันไม่เคยคิดที่จะทำร้ายเด็กคนนั้นเลย ฉันเพียงแค่…เพียงแค่ทำให้แสงดาวกลัว…”
เธอพูดออกมาพลางร้องไห้อย่างหนักแล้วเริ่มแก้ต่าง
ทำให้กลัว?
เอาเด็กที่เพิ่งอายุครบปีคนหนึ่งมาทำให้กลัว?
และยังป้อนยาให้เธอ?
ดวงตาคณาธิปหดลงและเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ