ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 1382 มองออก
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1382 มองออก
แต่ตอนนี้ เขากลับไม่ลืมที่จะนำอาหารมาให้เธอทาน เธอก็ดีใจมากแล้ว เรื่องอื่นๆต่างก็ไม่สำคัญ “อืม รีบทานเถอะ คืนนี้พวกเราอาจจะต้องเดินทางทั้งคืนไปยังเกาะออโรรา คุณทานให้อิ่มท้อง อีกประเดี๋ยวนั่งเรือจะได้ไม่เมา” เสียงอันอ่อนโยนของชายหนุ่มดังขึ้นที่เบื้องหน้าของเธอ ช่างเหมือนกับลมในฤดูใบไม้ผลิที่กระทบผิวน้ำในช่วงเดือนสามอย่างนั้น ได้ยินแล้วทำให้เธอซาบซึ้งจนปั่นป่วน ที่แท้สามีก็จำได้นะว่าเธอเมาเรือ สวรรค์ ทำอย่างไรดีละ? เธอรู้สึกว่าตรงท้องของเธอมีบางสิ่งกำลังจะล้นทะลักออกมา “ที่รักคะ คุณทานหรือยังคะ?” “หือ?” “เชอร์รี่นี้ อร่อยมากเลย ฉันป้อนคุณนะคะ” เมื่อใจของหญิงสาวเริ่มรุ่มร้อน เธอจึงถือเชอร์รี่ที่อยู่ในจานแล้วเดินบนปลายเท้าไปป้อนชายหนุ่ม การกระทำเช่นนี้ หากเปลี่ยนเป็นอยู่ที่บ้าน คงจะไม่กล้าทำเป็นแน่ คณาธิปถึงกับเครียด ใจอยากจะปฏิเสธ แต่ในเวลานี้เองก็มีเสียงของผู้หญิงที่เปิดเผยตรงไปตรงมาลอยขึ้นมาจากด้านหลัง : “หนูเย่จ๊ะ พวกเธอกำลังทำอะไรกันจ๊ะ? ฝังดอกไม้เพลิงหรือ? ฉันทำด้วยสิ” จากนั้น ผู้หญิงที่สวมกระโปรงสั้นใส่รองเท้าส้นสูงก็แทรกเข้ามาอย่างบุ่มบ่าม นั่นยิ่งทำให้ฉากที่ทั้งสองกำลังป้อนอาหารกันนั้นเห็นชัดเจนแจ่มแจ้ง
คณาธิป : “………..”
เชียนหยวนล๋ายเย่ : “…………..”
แม้แต่เด็กทั้งสามที่กำลังฝังดอกไม้เพลิงอยู่ข้างๆ ยังเอามือปิดหน้า ไม่กล้ามอง! คุณอาผู้นี้ช่าง…… ในที่สุดคณาธิปจึงเดินจากไปทื่อๆ โดยที่ไม่ได้ทานเชอร์รี่ในมือของสาวน้อย
เชียนหยวนล๋ายเย่ : “………”
“ฮาฮา ต้องขอโทษด้วยนะจ๊ะ หนูเย่ ฉันรู้ว่าพวกเธอสองคนมาทำอะไรลับๆล่อๆตรงนี้ เอาละ ฉันไปละ เชิญพวกเธอต่อเลยนะจ๊ะ” หลังจากนั้นตัวปัญหานี้ก็หายไป เชียนหยวนล๋ายเย๋โมโหจนถึงกับกระทืบเท้าอยู่ตรงนั้น พี่สาวคนนี้ ทำแบบนี้ได้อย่างไรกัน?
หลังจากทานอาหารง่ายๆไปแล้ว ทุกคนก็พักผ่อนประมาณครึ่งชั่วโมง ในที่สุดก็มีคนตัดสินใจจะออกเดินทางในช่วงเวลาพลบค่ำที่พระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้าอันสวยงาม ทางหนึ่งเตรียมชื่นชมทิวทัศน์ที่งดงาม ทางหนึ่งมองไปยังจุดหมายปลายทาง “ต้องเอาอันนี้แปะไว้ไหม? ถมัตถ์ให้มา บอกว่าช่วยเรื่องเมาเรือได้นะ”
แสนรักก็กำลังกังวลกับปัญหานี้เช่นกัน หลังจากส่งเด็กทั้งสามขึ้นเรือไปหมดแล้ว เขาก็กลับมาที่ห้อง จึงเห็นว่าเส้นหมี่กำลังออกมาเช่นกัน ดังนั้นจึงหยิบห่อของชิ้นหนึ่งออกมา เส้นหมี่งง ถามว่า “นี่คืออะไรคะ?” “แผ่นแปะแก้เมารถครับ” แสนรักบอกตามความเป็นจริง แผ่นแปะแก้เมารถ? ช่างโชคดีจริงๆที่เขายังคิดถึงสิ่งนี้ เมื่อเส้นหมี่มองไปที่ใบหน้าอันหล่อเหลาของชายหนุ่มผู้นี้ที่ไม่ค่อยจะแฮปปี้เท่าไหร่ จึงยิ้มออกมา แล้วรวบผมตรงหูขวาของตนเองขึ้น อันที่จริงเธอรู้ดีว่า การเดินทางไปเกาะออโรราครั้งนี้ ชายหนุ่มผู้นี้ไม่อยากจะไปเท่าไหร่ เหตุเพราะเธอเมาเรือ แต่เธอนั้นอยากไปมาก ท้ายที่สุดเขาก็ต้องจำยอม เพียงแต่ไม่คิดว่า เพียงเพื่อสิ่งนี้แล้ว เขายังต้องไปหาถมัตถ์เพื่อจะเอาของนี้ “แปะตรงไหนครับ?” “ตรงหลังใบหูค่ะ ตรงนี้” เส้นหมี่ชี้ไปตรงตำแหน่งที่จะต้องแปะแผ่นแปะแก้เมาเรือ ในเรื่องจุดฝังเข็มเหล่านี้ สำหรับคนที่ไม่ได้เรียนแพทย์มามักจะไม่ค่อยรู้แน่ชัดนัก เพียงแต่ หลังจากที่เธอชี้แล้ว กลับพบว่าชายหนุ่มผู้นี้รีบขยับเข้ามาใกล้และก้มหน้าก้มตาเอานิ้วถูซ้ำไปมาเบาๆตรงหลังหู ไม่นานเธอก็รู้สึกได้ว่ามีของบางอย่างติดอยู่ที่หลังหูแล้ว “เสร็จแล้วครับ” “ค่ะ……” เส้นหมี่รับคำ แต่สองมือของเธอ กลับผายออกมาโอบกอดเขาไว้ หอมจัง เป็นกลิ่มหอมเย็นๆที่คุ้นเคย ถึงแม้ว่าจะไม่ได้แนบแน่นมาก แต่ก็ยังรู้สึกได้ถึงอุณหภูมิที่ร้อนแรง ทำให้เธออยากจะกอดเขาเอาไว้ในเวลานี้
แสนรัก : “?”
“ที่รักคะ อันที่จริงแล้วมีวิธีที่ดีกว่านี้ที่จะทำให้ฉันไม่เมาเรือละ” “อะไรหรือ?” ชายหนุ่มนัยน์ตาคลุมเครือ เหตุเพราะเขารู้เคล็ดลับแล้ว ว่าเวลาที่หญิงสาวผู้นี้ต้องการมี“ความคิดแผลงๆ” เธอจะไม่เรียกเขาว่าพี่ แต่จะลากเสียงยาว และเรียกเขาว่าที่รักอย่างอ่อนหวาน “ก็กอดฉันไว้ตลอดไงคะ ฉันนอนอยู่ในอ้อมกอดของคุณ จนถึงเกาะออโรรา ฉันก็ไม่เมาแล้วค่ะ” เมื่อเห็นชายผู้นี้ที่ถูกตนเองดึงดูดจนสำเร็จ ดวงตาเมล็ดซิ่งทั้งคู่ ก็เริ่มฉายแววเจ้าเล่ห์ออกมา
แสนรัก : “………”
แค่นี้นะหรือ? หลังจากริมฝีปากอันบางกริบของเขาถูกยั่วยวน “ไม่พอมั้ง ผมว่าต้องให้คุณหาทางไม่เจอในที่สุด แบบนี้ถึงจะดี” “หือ?” พูดยังไม่ทันขาดคำ การจุมพิตอันดูดดื่มของชายหนุ่มก็เริ่มขึ้น เขาโอบรัดร่างที่บอบบางของหญิงสาวไว้ในอก แล้วจูบอย่างอ้อยอิ่งทว่าดุดัน ประหนึ่งว่าอยากจะทำเสียตรงนี้เลย
คณาธิปซึ่งมาถึงที่นี่ในเวลานี้พอดีก็เห็นฉากนี้ทันที สองตาของเขาหดเกร็งอย่างรุนแรง เขาชะงักงันอยู่ตรงนั้น นี่เป็นความรู้สึกอย่างหนึ่งที่เกินกว่าจะบรรยาย แม้ว่าเขาจะปล่อยมือแล้ว ทั้งยังไม่นานก่อนหน้านี้ เขายังปฏิบัติต่อเด็กสาวคนนั้นอย่างดี แต่ ณ เวลานี้ เมื่อเขาเห็นฉากนี้กับตาตนเอง เขากลับรู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างมาก คล้ายเป็นความรู้สึกที่ถูกเก็บงำอยู่เบื้องลึก ที่แม้แต่จะมองซ้ำก็จะทำให้รู้สึกว่าสมบัติอันล้ำค่าหายากนี้ถูกทำให้แปดเปื้อน เหมือนกับเธอถูกคนทำให้ด่างพร้อยอย่างนั้น