ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 142 เธอไร้เดียงสาแค่ไหน
“คุณพ่อ หนูผิดไปแล้ว!”
เสียง“ปึก”ดังขึ้น เส้นหมี่คุกเข่าลงตรงหน้าของชายชราคนนี้
คุณท่านหยุดลงทันที เขาหอบหายใจหนักแล้วจ้องมองไปที่เธอ ดวงตาที่ขุ่นมัวคู่นั้น ก็แดงก่ำขึ้นมาในทันที
“เธอนี่มัน……เจ้าคนไม่เอาไหน เธอยังมีชีวิตอยู่จริงๆเหรอ ? เธอ……ทำไม……ทำไมถึงไม่บอกฉัน ? เธอรู้ไหมว่าหลายปีมานี้ฉันมีชีวิตอยู่ยังไง ? ห๊า ?”
เขาตื่นเต้นจนร่างกายสั่นเทา อายุก็เจ็ดสิบกว่าแล้ว ในตอนนี้ ต่อหน้าทุกคน น้ำตาสองสายก็ไหลเป็นทางออกมา
สองมือที่กำกันแน่นของเส้นหมี่ ก็ซีดเผือดหนักมากขึ้นไปอีก
กังวลกลัวว่าเขาจะเป็นอะไรไป แทบไม่ได้สนใจในสิ่งที่เขาพูด ดวงตาเธอเองก็แดงก่ำเช่นกัน เงยหน้ามองเขา“ค่ะ หนูผิดเอง คุณพ่อ อย่าโกรธเลยนะ จะด่าจะว่าอะไรหนูก็ได้ แต่อย่าโกรธจนเสียสุขภาพเลยนะคะ”
จากนั้นเธอก็คุกเข่าอยู่ตรงหน้าเขาอย่างเชื่อฟัง แล้วยื่นมือตัวเองออกมา
คุณท่าน“……”
ในจังหวะนี้ เขาจ้องมองเธอ ลำคอก็ราวกับมีอะไรมาอุดกั้นเอาไว้ พูดอะไรไม่ออกเลยสักคำ
นี่เป็นวิธีการของเธอในตอนที่อยู่กับเขา เวลาที่ทำอะไรผิด ก็มักจะคุกเข่าลงตรงหน้าเขาแล้วรับการลงโทษอย่างไม่อิดออด
ทว่า ในตอนนั้นเขาทำมันลง
แต่ตอนนี้ เขายังทำได้อีกเหรอ ?
คุณท่านมองดูหญิงสาวที่ยังมีชีวิตอยู่ตรงหน้าของตัวเอง ชั่วขณะหนึ่ง หัวใจก็ทั้งเจ็บปวดและรู้สึกโกรธ นอกจากน้ำตาที่ไหลพรากลงมาอย่างไม่ขาดสายแล้ว ก็พูดอะไรไม่ออกเลยสักคำ
ผ่านไปได้ไม่กี่นาที คนที่อยู่ด้านหลังก็ทนดูไม่ได้อีกต่อไป ประคองเขาไปยังห้องห้องหนึ่งของสถานพักฟื้นเพื่อนั่งพัก
เมื่อเส้นหมี่เห็น ก็ก้มหน้าเดินตามเขาไปอย่างว่าง่าย
ในตอนที่เส้นหมี่ยังไม่ได้เจอกับคุณท่าน ก็เคยคิดมาหลายครั้ง และจะพูดยังไงดี ถึงจะไม่ให้คนแก่อย่างเขาโกรธมากขนาดนี้ ?
แต่ในตอนนั้น เธอกับลูกชายของเขาเข้ากันไม่ได้เหมือนน้ำกับไฟ ที่คิดได้ดีที่สุด ก็คือพูดคุยกันดีๆ ยอมรับสารภาพผิดอะไรทำนองนั้น
จนถึงตอนนี้……
บางที เธออาจจะพูดเรื่องของลูกอีกสองคนด้วยก็ได้
เส้นหมี่ครุ่นคิด
ยังไงเสีย เธอก็กำลังจะบอกลูกชายของเขา ว่าเขายังมีลูกสาวอีกหนึ่งคน
“เล่ามา ว่าเธอกลับมาเมื่อไหร่? แล้วตลอดหลายปีที่ผ่านมานี้ เธอไปอยู่ที่ไหนมา? แล้วมีชีวิตความเป็นอยู่ยังไง ?”
หลังจากที่คุณท่านจิบชา เพื่ออบอุ่นร่างกายแล้ว ในที่สุด เขาก็เอ่ยปากถาม
เส้นหมี่ตะลึงงัน เงยหน้าขึ้นในทันที “หนู……หนูกลับมานานแล้ว คุณพ่อทราบอยู่แล้วไม่ใช่เหรอคะ ? อีกอย่าง หนูพักอยู่ที่ไหน คุณพ่อก็ทราบไม่ใช่เหรอคะ?”
“ฉันจะไปรู้ได้ยังไง ? ตอนฉันเห็นเธอ ก็เพิ่งจะรู้ว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าเธอกลับมาแล้ว ? นี่เธอกำลังพูดเรื่องอะไร?”
คุณท่านถลึงตามอง ถามกลับอย่างงุนงงไปคำหนึ่ง
เส้นหมี่เงียบไป
นี่เขาไม่รู้ว่าเธอกลับมาแล้ว?
มันจะเป็นไปได้ยังไง แสนรักพาเธอกลับมา ก็เพื่อมาหาเขาไม่ใช่เหรอ? ทำไมเขาถึงไม่รู้ว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ?
และแล้วเส้นหมี่ก็รู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่าง
โดยเฉพาะในตอนที่เธอเห็นคุณท่าน ไม่รู้เรื่องอะไรที่เกี่ยวกับตัวเธอเลย ท่าทีของเขา ทำเอาหัวสมองของเธอ จู่ๆก็มีเสียงดังอื้ออึงขึ้นมา
ใช่ เมื่อครู่ตอนที่คุณท่านเห็นเธอ ท่าทางของเขาก็ราวกับไม่เคยรับรู้มาก่อนว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ไม่ใช่เหรอ?
ตอนนั้นเขาเองก็ยังพูดด้วยว่า เธอยังมีชีวิตอยู่เหรอ ?
เธอยังมีชีวิตอยู่……
ดังนั้น ตั้งแต่ต้นจนจบ เธอมีชีวิตอยู่ เธอถูกพาตัวกลับมา ผู้ชายคนนั้นไม่ได้บอกอะไรกับคุณท่านเลย ใช่ไหม?
เพราะอะไร?
ทำไมเขาต้องทำแบบนี้ด้วย ?
ภายในใจของเธอหนักอึ้งขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อคำถามนี้ผุดขึ้นมาในหัวสมองของเธอ เธอรู้สึกได้อย่างชัดเจน ว่าร่างกายของเธอนั้นค่อยๆเย็นลงทีละนิดๆ
“หมี่ เป็นอะไรไป? หากไม่อยากพูด ก็ไม่ต้องพูด”
เมื่อคุณท่านเห็นใบหน้าของเธอจู่ๆก็ดูแย่ลง คนทั้งคนก็ราวกับไม่มีชีวิตชีวา คิดว่าคงไม่อยากจะตอบคำถามที่เขาถาม จึงโบกมือ ให้เธอไม่ต้องตอบคำถามนี้
แต่หญิงสาว ก็กลับมองตรงมาที่เขาอีกครั้ง
“คุณพ่อ รักเป็นคนพาหนูกลับมา ”
“อะไรนะ?รัก?”
“ใช่ค่ะ เขาเจอหนูที่เมืองเคลียร์ จากนั้น เขาไม่ได้บอกคุณพ่อเลยเหรอคะ?”
ประโยคสุดท้าย คำพูดที่เลื่อนลอยของหญิงสาว ฟังดูแล้ว ราวกับภูตผีไม่น้อย
คุณท่านอึ้งไป!
เขาไม่รู้จริงๆ แต่ว่า เจ้าเด็กคนนี้เหมือนมีบางอย่างผิดปกติ หรือมีอะไรเกิดขึ้นงั้นเหรอ ?
คุณท่านก็เป็นคนฉลาดเช่นกัน ในตอนนี้ เขารีบกลับคำ “เขาเคยพูดกับฉันอยู่ แต่ว่า ฉันคิดว่าเขาพูดเล่น ฉัน……”
“พ่อค่ะ พ่อไม่เคยโกหก เวลาโกหก หางตาพ่อจะเสมองไปทางซ้ายอย่างไม่รู้ตัว และมือก็จะบีบกันแน่น พ่อค่ะ ทำไมเขาถึงไม่บอกพ่อ ?”
“……”
คุณท่านเงียบลงในที่สุด
หากเป็นแบบนี้จริง เขาก็ย่อมต้องรู้
เพราะว่า ไม่มีใครรู้จักลูกชายได้ดีไปกว่าคนเป็นพ่อ ที่ลูกชายเขาทำแบบนี้ ก็คงเพียงเพื่อก่อนที่จะให้คนแก่อย่างเขาได้รู้เรื่องราวทั้งหมด เรื่องการตายของเธอก็ต้องให้กระจ่างชัดขึ้นมาซะก่อน
“หมี่ อย่าคิดมากไปเลย ไม่ว่าเขาจะทำอะไร มีพ่ออยู่ทั้งคน อย่ากังวลไปเลยนะ”
“พรืด——”
ไม่มีใครคิด ว่าเจ้าเด็กคนนี้ จู่ๆจะขำพรืดออกมา