ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 1427 เหตุผลที่แท้จริงที่แต่งกับคณาธิปคืออะไร
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1427 เหตุผลที่แท้จริงที่แต่งกับคณาธิปคืออะไร?
เชียนหยวนล๋ายเย่พยักหน้า “ใช่ค่ะ พวกเราต่างก็ชอบเที่ยว ที่ตรงนั้นเมื่อเทียบกับบ่อน้ำพุร้อนทั่วไปแล้วได้ผลกว่าเยอะเลย เพียงแต่เมื่อก่อนคุณพ่อคุณแม่ของหนูไม่ยอมให้หนูไป บอกว่ามันเปิดเผยกับสายตาคนอื่น” เด็กสาวคนนี้พูดพลางก้มศีรษะลงอย่างน้อยใจ
คณาธิป : “……..”
ยังไม่ทันได้พูดอะไร พี่สาวที่โง่เง่าของเขาคนนั้น ก็ตบไปที่บ่าของเด็กสาวเบาๆ “ตอนนี้ไม่ต้องห่วงแล้ว เธอเป็นภรรยาคนอื่นแล้ว ฮ่าฮ่า ไปไหนก็ไม่ต้องกลัวแล้ว” พูดจบ สายตาของเธอไม่รู้ว่าบังเอิญหรือตั้งใจ ก็มองกวาดมาที่หลังคอของเด็กสาวที่มีรอยประทับรูปสตรอเบอร์รี่อยู่
คณาธิป : “! ! ! !”
เชียนหยวนล๋ายเย่ : “……..”
ท้ายที่สุด คงเป็นม็อกโกที่ลากสะใภ้ที่เชื่อถือไม่ได้คนนี้ออกไป หลักจากนั้นครึ่งชั่วโมง เมื่อปรึกษากันแล้ว ทุกคนเห็นด้วยกับความคิดนี้จึงตัดสินใจออกเดินทางอีกครั้ง แต่ครั้นกำลังเตรียมตัวจะออกเดินทาง จู่ๆก็มีคนจากตระกูลเชียนหยวนมา “เชียนหยวนฮอนเด็น แย่แล้ว คุณหนูใหญ่เมื่อวานหลังจากที่ถูกส่งกลับไป กินยาพิษฆ่าตัวตายแล้ว!” “คุณว่าอะไรนะ?” เชียนหยวนล๋ายเย่หน้าถอดสีทันที เชียนหยวนชิกะฆ่าตัวตายงั้นหรือ?!! ทุกคนต่างช็อคกับข่าวคราวนี้ แผนการที่ทุกคนกำหนดไว้แล้ว จึงต้องพับไปในที่สุด
เชียนหยวนล๋ายเย่กับคณาธิปรีบออกจากบ่อน้ำพุร้อน สมาชิกที่เหลือของตระกูลหิรัญชาอยู่ในห้อง รอแสนรักตัดสินใจต่อไป “พี่คะ พวกเราต้องไปที่บ้านเชียนหยวนดูหน่อยไหมคะ? เรื่องนี้ อย่างไรเสียก็เป็นฉัน……” “เกี่ยวอะไรกับคุณ? นั่นเป็นเรื่องที่เธอก่อขึ้นเอง!” สายตาของชายหนุ่มอึมครึมอย่างที่สุด เส้นหมี่เพิ่งพูดไปประโยคเดียว ก็ถูกคัดค้านเสียแล้ว ท่าทางของเขาไม่เพียงแสดงว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเส้นหมี่ การหลบเลี่ยงของเขา ยิ่งไม่มีแสดงความรู้สึกใดๆออกมาสักนิด—
กล้าวางแผนมาเล่นงานพวกเขา เขาไม่เอาชีวิตผู้หญิงคนนั้นในตอนนั้นนับว่าไม่เลวแล้ว เส้นหมี่รู้สึกวางใจลงได้บ้าง นอกจากนี้เมื่อไชยันต์และดิลกได้ยิน ต่างก็เห็นด้วยกับความคิดนี้ “ไอ่คนใจคด หากเป็นตระกูลเทวเทพของผม ป่านนี้ยิงทิ้งไปแล้ว” “อือ มาใช้ประโยชน์จากหลานชายของฉัน ฉันก็อดทนไม่โมโหโกรธา เพราะเห็นแก่หน้าธิป เรื่องนี้ หมี่ หนูไม่ต้องกังวล หากตระกูลเชียนหยวนเป็นคนมีเหตุผล พวกเขาไม่มาเอาเรื่องกับหนูหรอก” ดิลกก็ช่วยปลอบใจลูกสาวอีกทางด้วย
ทุกคนต่างรออยู่ที่โรงแรมจนกระทั่งบ่าย ในที่สุด คณาธิปก็ส่งข่าวมา “บอกว่าเชียนหยวนชิกะยังไม่ตาย ช่วยชีวิตไว้ได้แล้ว ตอนนี้อยู่โรงพยาบาลค่ะ” “แผนยอมเจ็บตัวหรือ?” เส้นหมี่เพิ่งพูดจบ คนอื่นยังไม่มีใครพูดอะไร ผู้ชายที่อยู่ข้างๆอดรนทนไม่ได้ พออ้าปากก็พูดจาเชือดเฉือนเหมือนมีดกรีดอย่างนั้น ทุกคนต่างก็เงียบ ดังนั้น ไม่ควรลองเชิงคนไอคิวสูงเป็นอันขาด มิเช่นนั้นจะต้องถูกบดขยี้ไปกับพื้นแน่ๆ
เชียนหยวนล๋ายเย่ก็มองออก เธอจึงรออยู่ที่โรงพยาบาลจนคุณหมอออกมาจากห้องผ่าตัดบอกว่าช่วยชีวิตไว้ได้แล้ว และอวัยวะสำคัญไม่มีส่วนไหนบาดเจ็บเสียหาย เด็กสาวที่เติบโตมาอย่างโดนบังคับให้ทำตาม นัยน์ตาก็ฉายความปรารถนาอันเย็นเยียบออกมา
หลังจากนั้นสิบกว่านาที ในห้องพักผู้ป่วย “พี่คะ หากพี่อยากจะออกจากตระกูลเชียนหยวน หนูส่งเสริมพี่ก็ได้ แต่หนูจะบอกพี่ว่า ภายหลังหากหนูรู้ว่าพี่คิดจะทำร้ายตระกูลแม้เพียงเล็กน้อย หนูไม่มีวันปล่อยพี่แน่” เธอมาที่หน้าเตียง เป็นครั้งแรกที่เธอพูดจาโดยไม่เห็นแก่ความเป็นพี่น้องเลยสักนิด ขนตาของเชียนหยวนชิกะกระตุก ในที่สุดเธอก็ลืมตาและมองไปทางน้องสาว
นั่นมันสายตาอะไรนะ? เกลียดหรือ? อันที่จริงจะใช้คำนั่นคำเดียวมาบรรยายก็ไม่ได้ เพราะว่าเธอเกลียดเธอจนเข้ากระดูก สิ่งที่ปรากฏออกมา นอกจากความเกลียดแล้วยังมีไอสังหารอีกด้วย เกลียดถึงขนาดจะสับเธอเป็นพันๆชิ้นได้เลยทีเดียว “เชียนหยวนล๋ายเย่ เธออย่าได้ใจนักเลย ไม่ช้าก็เร็วที่เธอจะต้องถูกฉันเหยียบอยู่ใต้เท้าและร้องขอชีวิตกับฉัน!” “หรือคะ? งั้นพี่ต้องรอนานหน่อยนะคะ หรือพี่อาจจะตายไปแล้วก็ได้ ฉันก็ยังไม่ทำ” สาวน้อยก็มองเธออย่างเย็นชา ตอกกลับอย่างชัดถ้อยชัดคำ แต่หญิงสาวผู้นี้กลับหัวเราะออกมาอย่างน่าหวาดหวั่น “เธอคงจะลืมไปแล้วสินะว่าตอนแปดขวบเธอทำอะไรไว้? เธอคิดว่าฉันไม่รู้ว่าตอนนั้นทำไมเธอถึงยอมออกมาตอบรับการสู่ขอของตระกูลเฮกังหรือ?”
“……….” เพราะประโยคนั้น สีหน้าของเชียนหยวนล๋ายเย่ถึงกับเปลี่ยนไป เธอเบิกตากว้างจ้องไปที่พี่สาวคนนี้ เพียงไม่กี่วินาที ใบหน้าเล็กๆกลมๆก็ไม่มีสีเลือดแม้แต่น้อย “เธอบอกอากิโกะ นากาจิมะไม่มีศีลธรรม บอกว่าเธอก็คืองูพิษที่หลบซ่อนอยู่ในท่อระบายน้ำ อาศัยว่ารู้ถึงเงาในใจของอากิยามะ แล้วจึงไปจับเขาไม่วางมือ แล้วเธอไม่ใช่หรือ? เธอก็เคยทำชั่วมาก่อน ไม่ใช่หรือไง?” “ไม่ใช่!” สาวน้อยในที่สุดก็ตะโกนออกมา “ฉันไม่ได้ทำ พี่พูดจาเหลวไหล ฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น!” “ไม่ได้ทำ? งั้นตอนที่เธอแปดขวบ คุณพ่อพาเธอไปตระกูลเฮกัง แล้วเธอลุกลี้ลุกลนวิ่งกลับมาทำไม วันนั้นฉันจำได้ เป็นวันที่เนติไปส่งลูกชายคนนั้นของเธอเป็นวันแรก” “แต่หลังจากวันนั้น ฉันก็จำได้ ทั้งเมืองต่างก็พูดถึงเรื่องเรื่องหนึ่งอย่างน่าปิติยินดี บอกว่าลูกเลี้ยงที่รับมาใหม่ของเฮกัง เพื่อที่จะเข้าตระกูลเฮกังแล้ว คุกเข่าตั้งแต่ตะวันขึ้นจนตะวันตก ท้ายที่สุดภายใต้ข้อเสนอของสาวน้อยจากตระกูลสูงส่งอายุแปดขวบที่ซ่อนอยู่หลังผ้าม่าน ว่าจะล้างเท้าและโขกศีรษะคำนับเฮกัง เฮกังถึงยอมรับเขา ไม่ใช่เหรอไง?” ผู้หญิงคนนี้นอนอยู่บนเตียง กลับนำเอาเรื่องที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ออกมาพูด แล้วยังหัวเราะเหมือนงูพิษเช่นนั้น