ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 1440 ความอบอุ่น
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1440 ความอบอุ่น
ตอนบ่าย เหล่าตระกูลหิรัญชาที่ทานอาหารที่เรือนรองกันเสร็จก็ได้ไปเตรียมตัวที่คฤหาสน์หลังเก่าแล้ว
นี่คืองานเลี้ยงส่งท้ายปีเก่า สำหรับตระกูลหิรัญชาแล้ว นั่นคือวันสำคัญที่สุดในหนึ่งปีเลย ทุกคนต้องฮึกเหิมกันอย่างมาก ต้องทำให้งานเลี้ยงในตอนเย็นอลังการอย่างมาก
เพราะที่บ้านยังไม่ได้เก็บกวาด เส้นหมี่จึงยังไม่ได้ไป อีกอย่าง เธอยังเห็นว่าเชียนหยวนล๋ายเย่จ้องมองตนเองอยู่ตลอด ราวกับมีเรื่องอะไร?
“หนูเย่ เป็นอะไรหรือเปล่า? มีเรื่องอะไรหรือ?”
“พี่คะ หนู……หนูอยากเชิญทุกคนไปทานอาหารเช้าที่บ้านของเราในวันพรุ่งนี้เช้า ไม่รู้ว่าจะได้ไหมคะ?”
เด็กสาวพูดติดอ่างอยู่ด้านหลังของเธอ
ทานอาหารเช้า?
ทำไมจะไม่ได้กันล่ะ นี่ดีมากเลยนี่!
“ได้อยู่แล้วสิ ดูสิ วันนี้ทานมื้อเที่ยงที่บ้านของฉัน ตอนเย็นไปทานที่คฤหาสน์หลังเก่า ตอนเช้าก็ไปทานที่บ้านเธออีก ไม่หยุดเลย วนกันไปทุกบ้าน เป็นเรื่องที่ดีขนาดไหน นี่สิถึงจะเป็นครอบครัวใหญ่ เป็นสิริมงคลแก่คนและบ้าน จะมีบรรยากาศที่ดี”
เส้นหมี่เห็นด้วยกับความคิดของเธออย่างไม่ลังเล
และเธอเองก็ได้แสดงความตื่นเต้นดีใจกับเรื่องนี้
เมื่อเชียนหยวนล๋ายเย่ได้ยินดังนั้น ก็ดีใจสุดขีด
ที่จริงแล้ว ที่ประเทศของพวกเธอ ในช่วงปีใหม่ เช้าวันที่หนึ่งของปี จะไม่สามารถเชิญคนอื่นมาที่บ้านได้ เพราะวันนี้ พวกเขาจะไปไหว้บรรพบุรุษที่ศาลเจ้ากัน ถ้าหากเชิญไป ทุกคนจะไม่ชอบใจกัน
ดังนั้น เมื่อครู่เด็กสาวจึงลังเลอยู่ตลอด
แต่ตอนนี้ เมื่อได้ยินพี่สาวคนนี้พูดดังนั้น เธอก็วางใจได้แล้ว
“ที่รัก เมื่อกี้ฉันถามพี่สาวมาแล้ว เธอบอกว่าพรุ่งนี้เช้าเราเชิญพวกเขามาได้นะ งั้นพรุ่งนี้เช้าพวกเราก็มาเตรียมอาหารโต๊ะใหญ่ให้พวกเขาทานกันดีไหม?”
เมื่อเธอได้รับข่าวดี ก็รีบวิ่งมาบอกสามีที่กำลังช่วยเก็บของที่สวนด้านนอกทันที
คณาธิปรู้อยู่แล้วว่าได้
เพียงแต่ ที่บ้านมีแค่พวกเขาสองคน ทีแรกกลัวว่าถ้าเรียกแล้ว จะทำไม่ทัน
อีกอย่าง วันแรกของปี ใครจะไปรู้ว่าเขาจะมากันไหมอีก? วิลล่าบนเนินเขาของพวกเขา ไม่ใช่เรือนรองนะ
แต่ตอนนี้ เด็กสาวคนนี้วิ่งมาอย่างดีใจขนาดนี้
คณาธิปวางเก้าอี้ในมือลง ใบหน้าที่หล่อเหลามีเม็ดเหงื่อประปรายบนหน้าผาก มองไปยังเด็กสาวงตัวเล็กที่มีความสุข
“เอาสิ เธออยากทำอะไรล่ะ จดรายการไว้ก่อน เดี๋ยวพวกเราไปซื้อให้เสร็จกันเลย ไม่งั้นพรุ่งนี้เช้า ฉันเกรงว่าซูเปอร์มาร์เก็ตจะไม่เปิดนะ”
“อย่างงั้นหรือคะ?”
เด็กสาวที่ฉลองตรุษจีนที่นี่ครั้งแรก เมื่อได้ยินดังนั้น ดวงตาชุ่มชื้นนั้นก็กะพริบตาปริบๆเหมือนได้รู้สิ่งใหม่
“ค่ะ งั้นฉันจะไปเขียนเดี๋ยวนี้” แล้วเธอก็วิ่งเข้าไปแล้ว
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ในที่สุดก็เก็บกวาดเรือนรองจนเสร็จ
เส้นหมี่มาถึงห้องนอน เตรียมจะเปลี่ยนชุดแล้วไปที่คฤหาสน์หลังเก่า
“รู้แล้ว พรุ่งนี้ตอนเย็นก็ถึงแล้ว”
รู้สึกประหลาดใจนิดหน่อย เมื่อดันประตูห้องนอนออก ก็พบว่ารูปร่างที่คุ้นเคยนั้นกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ด้านใน น้ำเสียงนั้น ไม่รู้ว่าพูดถึงอะไร แต่ก็ฟังความไม่พอใจของคนคนนี้ออกได้
นี่ใครแหย่เขาโมโหอีกเนี่ย?
เส้นหมี่จึงเดินเบาๆไปที่ห้องแต่งตัวก่อน
เมื่อเอาเสื้อผ้าออกมาแล้ว คนที่อยู่ด้านนอก ก็วางสายแล้ว
“ใครโทรมาหรือคะ?”
“ม็อกโกน่ะ ถามว่าพรุ่งนี้เราจะถึงเมื่อไร”
แสนรักมีความรำคาญนิดหน่อย
เมื่อเส้นหมี่ได้ยิน ก็รู้สึกตลกอยู่หน่อยๆ
นี่คือม็อกโกหรือ?
ดูก็รู้ว่าเป็นคุณท่านที่โทรมาเร่ง แถมยังเน้นว่าจะถึงก่อนเวลาอาหารไหม
เส้นหมี่ดึงผ้าม่านมาปิด แล้วเริ่มถอดเสื้อผ้าไปด้วย แล้วพูดกับชายหนุ่มคนนี้ไปด้วยว่า “ถ้าไปเร็วได้ ก็ไปให้ถึงเร็วหน่อยละกัน ทางคุณท่านไม่ได้เจอพวกเรา ก็คงจะคิดถึงมากเหมือนกัน เขา……”
ยังไม่ทันพูดจบ มือคู่ใหญ่ของชายหนุ่มก็ได้สวมกอดเข้ามาจากด้านหลัง
ลมหายใจร้อนๆเหมือนกับคลื่นน้ำ แนบใบหูของเธอ
“เร็วอะไรกันล่ะ? ที่รัก ไม่เหนื่อยหรือ? พวกเราไม่ได้พักผ่อนกันดีๆนานแล้วนะ”
“หือ?”
ความร้อนผ่าวของคนคนนี้เข้าใกล้เส้นหมี่ จนทำให้เธอสั่นสะท้านไปครู่หนึ่งอย่างห้ามไม่ได้
พักผ่อน?
พักผ่อนอะไรกัน?
เธอรู้สึกว่าคำนี้ไม่ได้หมายความอย่างนั้น
เพราะทันใดนั้น มือคู่ที่โอบเอวบางของเธอไว้ ก็ได้สอดเข้ามาในเสื้อของเธอแล้ว สัมผัสไปที่จุดที่ไม่ควรสัมผัส
“นี่……นี่คิดจะทำอะไร? อย่านะ ตอนนี้สายมาแล้ว อึก……”
เสียงสุดท้ายนั้น ถูกความร้อนแรงและเผด็จการของชายหนุ่มกลบไปกับลมหายใจแล้ว
เมื่อเธอได้สติมาอีกครั้ง ก็ได้อยู่บนเตียงแล้ว และร่างกายที่ร้อนรุ่มของชายคนนั้น ก็เคลื่อนตัวเข้ามา กักขังเธอไว้ใต้ร่างของเขาอย่างแน่นหนา
“ที่รัก คิดถึงฉันไหม?”
เสียงของชายหนุ่มที่ทำให้คนที่ได้ยินถึงกับหน้าแดงหูแดงไปหมด จู่ๆก็ดังขึ้นเหนือศีรษะ
ภายใต้แสงสลัวในห้อง ใบหน้าเล็กๆ ที่น่ารักของเส้นหมี่ ก็ยิ่งแดงขึ้นจนแทบจะลุกไหม้
เธอหันหน้าหนีอย่างทำอะไรไม่ถูก ไม่อยากจะตอบคำถามนี้ แต่ทันใดนั้น ชายหนุ่มเผด็จการคนนี้ ก็ได้ใช้การกระทำมาบอกกับเธอ
“อือ……”
“คิดถึงสินะ ที่รัก ฉันรู้สึกได้แล้วล่ะ”
ชายหนุ่มยิ้มอย่างพอใจ ท่ามกลางเสียงสั่นเครือที่ถูกทำให้เปล่งออกมาของหญิงสาว ที่อยู่ภายใต้ตัวเขา เขาจึงได้ก้มลงครอบครองร่างกายที่อ่อนนุ่มและบอบบางนี้อย่างสมบูรณ์
ต่อให้ตายก็จะไม่หยุดรุมเร้า จะไม่หยุดจนกว่าจะสิ้นใจ……