ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 196 เธอไม่มีทางเลือก
เส้นหมี่เดินตามเคมีเข้ามา
และพบว่า ยิ่งทั้งสองคนเดินเข้าไปใกล้มากขึ้นเท่าไร เสียงเอะอะโวยวายของผู้หญิงก็ยิ่งจะดังชัดเจนมากขึ้น และบรรดาคนใช้ที่เดินผ่านไปมา ต่างก็พากันอกสั่นขวัญแขวน และวิ่งแจ้นไวราวกับกระต่าย
เส้นหมี่“……”
ขณะที่กำลังจะตามทัน ในช่วงจังหวะนี้เอง ก็มีเสียงกรีดร้องแปลกๆดังขึ้นมา“แสนรัก วันนี้หากแกไม่เรียกตำรวจมาจับตัวฉัน แกเตรียมเรียกฉันว่าแม่ได้เลย!!”
“……”
คำพูดนี้ ช่างไม่น่าฟังเอาซะเลย !
สีหน้าของเส้นหมี่มืดมนในทันที และเคมีที่เดินอยู่ข้างหน้า ก็โกรธจนตบขาไปฉาดหนึ่ง !
“ผู้หญิงคนนี้บ้าไปแล้วหรือไง ? จนป่านนี้แล้ว ยังกล้าเอาเรื่องพวกนี้มายั่วยุท่านประธานอีก เธอคิดว่าเขาไม่กล้าทำหรือไง?”
เขาโกรธมาก ก้าวเท้าแล้วเดินปรี่ตรงไปข้างหน้าทันที
เมื่อเส้นหมี่เห็น ก็ทำได้แค่ก้าวเท้ายาวๆแล้วเดินตามไป
กว่าที่คนทั้งสองจะไปถึงที่ห้องโถงใหญ่ ในตอนนี้เอง หูของเส้นหมี่ อาจเพราะคำพูดที่ไม่น่าฟังของแสงดาวเมื่อครู่ ทำเอาคนที่อยู่ด้านในต่างพากันโกรธเคือง
เสียง“ป้าบ”ดังขึ้น!
ทันใดนั้น เสียงของคนถูกตบหน้าที่คมชัดก็ดังขึ้นมา!
“แสงดาว แกพูดอีกครั้งสิ ? เชื่อไหมว่าฉันกำจัดแกได้ทันที ?!!”
มันเป็นเสียงอันน่ากลัวของชายชราคนหนึ่ง เขากรุ่นโกรธอย่างมาก คำพูดแต่ละคำล้วนเค้นเสียงลอดไรฟัน จากระยะไกล ก็ยังสัมผัสได้ถึงความเกรี้ยวกราดที่รุนแรง
เป็นคุณท่านเอง เขาตบหน้าแสงดาวไปฉาดหนึ่ง
เหงื่อที่ซึมตามฝ่ามือของเส้นหมี่ก็เพิ่มมากขึ้นไปอีกในทันที
เธอวิ่งเหยาะๆเข้าไปหา และแล้ว หลังจากที่เข้ามาในห้องโถงใหญ่ที่อบอวลไปด้วยกลิ่นของดินปืน เธอก็เห็นแสงดาวที่ทรุดตัวอยู่ที่พื้นในทันที
และยังมีคุณท่านที่โกรธจัดจนเส้นเลือดฝอยในดวงตาแดงชัดกำลังถือไม้เท้ายืนอยู่ข้างๆตรงนั้น
ผู้หญิงคนนี้ เธอบ้าไปแล้วหรือไง ?
ไปทำเขาโกรธแบบนี้ เธอรู้หรือเปล่าว่าพ่อของเธอมีโรคความดัน ? หากเป็นอะไรไปจะทำยังไง?
เส้นหมี่เดินตัวลอยอย่างไม่สนใจ เข้ามาในทันที“คุณพ่อ ช่วย……ใจเย็นๆก่อนนะคะ เรื่องไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้น หนูก็สบายดีอยู่นี่ไงคะ?”
เธอคว้าไปที่มือของเขา กลัวว่าเขา จะฉุนเฉียวขึ้นมาอีก
แสนรักที่อยู่ในห้องโถงไม่คิดว่าจู่ๆเธอจะปรากฏตัวขึ้น ทันใดนั้น สายตาที่เย็นชาของเขา ก็กวาดมองไปยังเคมีที่เพิ่งเข้ามาในทันที
เคมีรู้สึกผิด จึงเบี่ยงหน้าไปอีกทางอย่างเงียบๆ
“พอเถอะนะคะ คุณพ่อ อย่าโกรธเลย หนูพาคุณพ่อไปนั่งพักที่ตรงนั้นนะคะ ”
เส้นหมี่จงใจเมินเฉยชายหนุ่มที่นั่งอยู่ทางด้านขวาของห้องโถงและกำลังจ้องมองเธออยู่อย่างไม่พอใจ ดวงตาหลุบลงเล็กน้อย เธอพยุงชายชราไปนั่งบนเก้าอี้ที่อยู่ตรงด้านบน
หลังจากนั้นไม่กี่นาที พักผ่อนไปชั่วครู่ แล้วจิบชาร้อนไปอึกหนึ่ง อารมณ์คุณท่านก็จึงสงบลง
“หมี่ ต้องขอโทษนะ ครั้งนี้ ตระกูลหิรัญชาทำเธอลำบากอีกแล้ว” เขาดึงเส้นหมี่เอาไว้ น้ำเสียงสั่นเครือเล็กน้อยอย่างรู้สึกผิด
เส้นหมี่รีบส่ายหน้าให้
เธอไม่เคยโทษเขาเลย สำหรับเธอแล้ว เขาเปรียบเสมือนพ่อของตัวเอง เธอจะไปโทษเขาได้อย่างไร?
เส้นหมี่เลือกที่จะโอนอ่อน“อย่าพูดแบบนี้เลย คุณพ่อค่ะ ที่พี่ใหญ่ทำแบบนี้ เพราะหนูเองก็มีส่วนผิด วันก่อน……หนูพาพี่ใหญ่ไปที่แผนกจิตเวช”
“เธอว่าไงนะ ? แผนกจิตเวช?”
เมื่อคุณท่านได้ยิน ดวงตาก็เป็นประกาย
ในใจเส้นหมี่กล้ำกลืนฝืนทน แสร้งทำทีรู้สึกผิดแล้วพยักหน้า
“ค่ะ แผนกจิตเวช ต้องขอโทษด้วยนะคะ วันนั้นตอนที่พี่ใหญ่มา เพราะคำพูดที่ฟังดูรุนแรง หนูกังวลว่ามันจะกระทบกับโรงพยาบาล ก็เลยทำให้เธอหลับ จากนั้นก็ส่งตัวไปยังแผนกจิตเวช เดิมทีตั้งใจว่าเลิกงานแล้วก็จะไปปล่อยเธอออกมา แต่ไม่คิดว่า พี่ใหญ่จะออกมาเอง ”
“……”
เป็นไปตามที่เธอคาด ทันทีที่สิ้นเสียง เห็นได้ชัดว่าคุณท่านรู้สึกโล่งใจในทันที
แต่คนทางขวาที่จ้องมองเธออยู่ตลอด เมื่อได้ยินเช่นนี้
เส้นหมี่“……”
ช่างมัน ถือว่าไม่ได้ยินแล้วกัน
แสงดาวที่นั่งอยู่บนพื้นก็คงไม่คิดเช่นกันว่าเธอจะพูดเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องนี้ออกมา หลังจากที่ฟังจบ ก็หัวเราะเยาะออกมาทันที
คนโง่ก็คือคนโง่ เธอคิดว่าทำแบบนี้ ตระกูลหิรัญชาจะซาบซึ้งกับเธองั้นเหรอ?
พูดตรงๆ เธอก็เป็นแค่หมากตัวหนึ่งในครอบครัวของพวกเขาเท่านั้น !
เธอกลับไม่คิดจะรับน้ำใจนี้!
คิดไม่ถึง ว่าภาพนี้จะถูกมองมาจากสายตาที่ไร้ความรู้สึกทางมุมขวา ทันทีทันใด เธอก็รู้สึกราวกับร่างกายถูกแช่แข็ง จากนั้นลางสังหรณ์ที่ไม่ดีก็ผุดขึ้นมา
“อย่างนี้นี่เอง ฉันคิดว่านังสารเลวคนนี้คิดทำร้ายอะไรเธออีก เมื่อกี้ฉันแทบอยากจะฟาดเขาให้ตายด้วยไม้เท้านี้ไปแล้ว!”
“ไม่ใช่ค่ะไม่ใช่”
ทางฝั่งเส้นหมี่กับคุณท่าน ไม่ได้สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของคนทั้งสอง
พวกเขายังคงพูดเรื่องของแสงดาวอยู่
เมื่อคุณท่านได้ยินเส้นหมี่ปฏิเสธ ในใจก็ยิ่งเป็นสุขมากขึ้น“งั้นก็ดี แล้วเมื่อวานเธอถูกคุมตัวไว้ที่สถานีตำรวจทั้งวัน เป็นยังไงบ้าง ? มีอะไรหรือเปล่า?”
“ไม่เป็นไรค่ะ เมื่อวานหนูอยู่แต่ในห้องสอบสวน จะมีเรื่องอะไรได้ยังไงละคะ ?”
เส้นหมี่ยังคงพูดปฏิเสธ
เธอต้องทำแบบนี้ คุณท่านแสดงออกชัดเจนซะขนาดนี้ เธอจะมองไม่เห็นได้ยังไง ?
ถึงเขาจะดีกับเธอมาก แต่แสงดาวก็เป็นลูกสาวแท้ๆของเขา ในมุมมองของเขา เขาต้องอยากจะช่วยเธออยู่แล้ว ไม่อยากให้เธอเป็นอะไรไป
ดังนั้น เธอไม่จำเป็นต้องปฏิเสธ
ถือซะว่าเป็นการตอบแทนความรักที่เขามีต่อเธอแล้วกัน