ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 24 คุมขัง
เคมีได้รับข่าวตอนช่วงบ่ายที่โรงพยาบาล ว่าผู้หญิงที่ถูกขังอยู่ในคอนโดทางนั้นหนีไปแล้ว
หนีไปอีกแล้ว?
เมื่อได้รับข่าว คิ้วของเขาก็กระตุกขึ้นอย่างรุนแรงในทันที
แต่ไม่นาน ที่ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจก็คือ เขาได้รับสายจากเบอร์แปลกโทรเข้ามา
“ฮัลโหล?”
“ผู้ช่วยเค ฉันเส้นหมี่เองค่ะ ขอโทษทีนะคะ ฉันอยากจะไปพบพวกคุณป้าจริงๆ ฉันก็เลยแอบออกมาแล้ว คุณวางใจได้ค่ะ หลังจากที่ฉันเจอพวกเขาแล้ว ก็จะรีบกลับไปเลย”
คาดไม่ถึงว่าจะเป็นเส้นหมี่ เธอโทรมาอธิบายเรื่องนี้กับเขาโดยเฉพาะ
เคมีไม่สามารถบรรยายความรู้สึกของตัวเองได้ในขณะนั้น มองไปยังนายใหญ่ที่ยังไม่ฟื้นอยู่บนเตียงผู้ป่วย เขาจึงทำได้เพียงเอ่ยขึ้นมา : “ถ้าอย่างนั้นคุณกลับมาเร็วๆหน่อยจะดีที่สุดนะครับ อย่าให้ประธานจับได้แล้วกัน”
“อืม ฉันรู้ค่ะ คุณวางใจได้”
เส้นหมี่ได้ยินว่าเขาไม่มีความคิดเห็นอะไรนั้น น้ำเสียงก็ดูผ่อนคลายขึ้นมากเช่นกัน หลังจากที่ตอบรับแล้ว เธอก็วางสายไป
เคมีมองดูโทรศัพท์มือถือที่ถูกตัดสายไปแล้ว ก็ยิ่งทั้งรู้สึกปวดหัวทั้งรู้สึกจนปัญญา
หลังจากห้าปีมาแล้วสามารถจำเบอร์โทรของเขาได้ ความจริงแล้วเขาควรจะดีใจ เพราะถึงอย่างไร อดีตคุณผู้หญิงคนนี้คาดว่าจนถึงตอนนี้ก็ไม่สามารถจำเบอร์คนอื่นๆของหิรัญชากรุ๊ปได้แล้ว
รวมทั้งเจ้านายที่กำลังนอนหลับอยู่บนเตียงตอนนี้ด้วย
ดังนั้น คาดว่าต่อไปเขาจะมีเรื่องให้ปวดหัวแล้ว
ขณะเตรียมตัวกำลังจะเข้าไปในห้องพักผู้ป่วย แต่คุณหมอกลับมาในเวลานี้
“คุณเค CTของประธานแสนรักออกมาแล้ว และยังมีรายงานการผลการตรวจด้วย ครั้งนี้ค่อนข้างโชคดี ว่าศีรษะของเขาไม่พบว่ามีร่องรอยหลอดเลือดแตก แต่ ยังต้องให้ความสำคัญกับสถานการณ์แบบนี้อยู่ ครั้งแรกไม่มี ไม่ได้ความว่าครั้งที่สองจะโชคดีขนาดนั้นอีก สภาพแบบนี้ ภาวะเลือดออกในสมองสามารถเกิดขึ้นได้ง่ายมาก”
“อา? แล้วจะทำอย่างไรครับหมอ? ไม่มีวิธีอื่นแล้วจริงๆหรือครับ?”
เคมีได้ยินแล้ว ก็รู้สึกร้อนใจขึ้นมาในทันที
คุณหมอส่ายหน้า : “สถานการณ์ตอนนี้ของเขา คุณเองก็รู้ จะหาแพทย์ที่มีชื่อเสียงในประเทศ ก็ไม่มีวิธีรักษาเขาได้หรอกครับ ครั้งนี้พวกคุณไปต่างประเทศโดยเฉพาะ ผมยังอยากจะถามอยู่เลย ว่าทำไมถึงได้กลับมาเร็วขนาดนี้? อีกทั้งพอกลับมาแล้วก็ยังส่งเข้ามาที่โรงพยาบาลในสภาพที่ไม่ได้สติอีกด้วย นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? แพทย์แผนจีนที่หาเจอที่โรงพยาบาลเคลียร์ เธอทำไม่ได้หรือครับ?”
จู่ๆคุณหมอก็เอ่ยถามคำถามนี้ขึ้นมา
เคมีได้ยินแล้วก็ถอนหายใจ…..
ไม่ใช่ว่าไม่ได้ ไม่ได้ลองเลยต่างหาก ใครจะคิดว่าแพทย์แผนจีนที่ว่านั้นความจริงแล้วก็คือคุณผู้หญิงที่ตายไปเมื่อห้าปีก่อนของพวกเขา
“แม้แต่แพทย์แผนปัจจุบันก็ไม่ได้ แล้วแพทย์แผนจีนจะมีประสิทธิภาพหรือครับ? พวกคุณประเมินค่ากันสูงเกินไปหรือเปล่า?”
“ไม่ครับไม่ คุณไม่เข้าใจแพทย์แผนจีน ในประเทศของพวกเรา ต้นกำหนดของแพทย์แผนจีนมีประวัติเป็นหลายพันปีแล้ว เขาไม่ได้แย่ไปกว่าแพทย์แผนปัจจุบันเลย อีกทั้ง เทคนิคการฝังเข็มของแพทย์แผนจีนก็เก่งมากอีกด้วย เป็นการควบคุมอาการโรคโดยการฝังเข็มผ่านจุดต่างๆในร่างกาย บางครั้งก็ยังเก่งกว่าการผ่าตัดของแพทย์แผนปัจจุบันเสียด้วยซ้ำ”
คุณหมอท่านนี้ตอบกลับเคมีไปอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่นิดเดียว เขามั่นใจในความแข็งแกร่งของแพทย์แผนจีน โดยเฉพาะตอนที่พูดถึงการฝังเข็ม ใบหน้ายิ่งปรากฏความศรัทธาที่หาได้ยาก
เคมีได้ยินแล้ว ก็มองไปยังผู้ชายบนเตียงผู้ป่วยที่ยังไม่ฟื้น ในที่สุดก็ตกอยู่ในความครุ่นคิดไปแล้ว
ถ้าอย่างนั้น ให้คุณผู้หญิงคนก่อนลองดูไหม?
——
ช่วงบ่ายวันนั้นเส้นหมี่พาลูกชายกลับไปที่บ้านของคุณป้า
จากที่เธอคาดคิดเอาไว้ หลังจากที่กลับไปที่นั่นแล้ว เธอจะต้องได้รับการต้อนรับโดยคำด่าใส่หน้าโครมๆจากลุงที่นิสัยไม่ดีทันที ด่าเสียจนเธอแทบจะเงยหน้าไม่ขึ้นแล้ว
เดิมที ในช่วงห้าปีนี้ ถึงแม้เธอจะบอกกับครอบครัวนี้เอาไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ว่าเธอยังไม่ตาย เพียงแต่พาลูกทั้งสองคนไปต่างประเทศเพียงเท่านั้น แต่ห้าปีก็ไม่ได้กลับมา ไม่เห็นแม้แต่เงาเลยเสียด้วยซ้ำ
ดังนั้น ถูกลุงด่า ก็สมควรแล้ว
“เส้นหมี่ มีความสามารถ มีฝีมือนี่ แกกลับมาทำไม? แกทำได้ก็ไม่ต้องกลับมาตลอดชีวิตเลยสิ!!”
“นั่น….แบบนั้นจะได้ยังไงล่ะคะ? ที่นี่เป็นบ้านของฉัน ฉันจะไม่กลับมาได้ยังไง?”
“เหลวไหล! เธอนามสกุลวชิรนันท์! ไม่ได้นามสกุลอัครนันท์!! ที่นี่ก็ไม่ใช่บ้านของแก!!”
คุณลุงระเบิดเหมือนกับฟ้าผ่าลงมา!!
รินจังที่อยู่ข้างบนเห็นเข้า ตกใจเสียจนกอดพี่ชายเอาไว้แน่น : “ทำไมคุณลุงด่าหม่ามี๊แบบนี้? ยังดุขนาดนี้ด้วย เขาไม่ชอบหม่ามี๊ใช่ไหมคะ?”
เธอทำปากเบะ ดูเหมือนใกล้จะร้องไห้อยู่แล้ว
คิวคิวเห็นแล้ว มือเล็กก็รีบตบลงบนหลังของเธอเบาๆ : “ไม่เป็นไรนะ หม่ามี๊ดื้อไม่เชื่อฟัง คุณลุงถึงได้ด่าว่าเอา ก็เหมือนกับที่พวกเราสองคนไม่เชื่อฟังหม่ามี๊ หม่ามี๊ก็จะว่าพวกเราเหมือนกัน”
เด็กน้อยมองได้อย่างทะลุปรุโปร่งมาก
รินจังได้ยินแล้ว กระพริบดวงตาโตเป็นลูกองุ่นที่เปียกชุ่มนั่น ถึงได้ไม่ร้องไห้แล้ว
และเป็นอย่างที่คิด หลังจากที่ด่าว่าอยู่พักหนึ่งแล้ว คุณป้าที่อยู่ในห้องก็เดินออกมาอย่างทนฟังต่อไปไม่ไหวแล้ว
“เอาล่ะ คุณด่าเธอมานานขนาดนี้แล้ว เรื่องผิดพลาดที่เธอเคยทำก็ไม่สามารถย้อนกลับมาได้แล้ว เปลืองน้ำลายเปล่าๆ ตอนนี้ในครอบครัวเราไม่ได้มีเงินมากขนาดนั้นที่จะซื้อชามาให้คุณดื่มได้นะ”
“………”
ประโยคแค่นี้ คุณลุงหุบปากลง
ส่วนเส้นหมี่นั้น ก็ยืนอยู่ตรงนั้นในใจทั้งรู้สึกเสียใจและโทษตัวเอง จนน้ำตาเกือบจะไหลลงมาแล้ว
“คุณ….คุณป้า…..”
“แกไม่ต้องมาพูดอะไรมากมายกับฉัน แกบอกฉันมาดีกว่าว่าวางแผนยังไงต่อ? แกจะไปเจอตาเฒ่านั่นจริงๆใช่ไหม?”
คุณป้าหากเทียบกับคุณลุงที่มีอารมณ์หุนหันพลันแล่นง่ายแล้ว นิ่งกว่าเขามาก แต่น้ำเสียงของเธอนั้นเย็นชามาก ใบหน้าไม่มีรอยยิ้มให้กับเส้นหมี่เลยแม้แต่นิดเดียว เต็มไปด้วยความรู้สึกห่างเหินที่มีความเย็นชา
เหมือนกับคนแปลกหน้าที่พบกันโดยบังเอิญแบบนั้น
เส้นหมี่หลบตาลงในทันที : “ฉันไม่อยากไปค่ะ ถ้าหากไปแล้ว ฉันกลัวว่าเขาจะรู้ว่าฉันยังอยู่ แล้วฟื้นฟูสำมะโนครัวของฉันขึ้นมา ถ้าอย่างนั้นฉันก็เป็นคนของเขาสิคะ”
“ยังนับว่าไม่ได้โง่นัก แต่ถ้าหากเขาบีบบังคับแก แกก็ไม่มีวิธีนี่”
“ดังนั้นฉันจึงต้องคิดหาวิธีไงคะ ยังมีอีกก็คือ คุณป้าคะ ฉัน….ฉันไม่สามารถให้คิวคิวกับรินจังอยู่ที่นี่อีกแล้ว ฉันกังวลว่าพวกเขาจะมาสืบ ถึงตอนนั้นแล้วถ้าหาก……”
“แล้วแต่แก!”