ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 280 แสนรัก ฉันเหนื่อยแล้ว
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 280 แสนรัก ฉันเหนื่อยแล้ว….
“ปกป้อง? แสนรัก คุณกล้าบอกว่าตอนที่คุณส่งคนมา ไม่ได้วางแผนอื่นไว้หากถ้าเธอหนีอย่างนั้นเหรอ?”
“…….”
ผู้ชายตรงข้ามนั้นเงียบลงในที่สุด
แน่นอนว่ามีอยู่แล้ว เรื่องนี้สำหรับเขาเป็นการคุกคามครั้งใหญ่มาก ถ้าหากผู้หญิงคนนี้จัดการไม่ดี เขาก็คงไม่สามารถนั่งอยู่เฉยๆได้อย่างแน่นอนอยู่แล้ว
แต่ไม่ใช่ว่าเขาให้โอกาสเธอแล้วหรอกเหรอ?
แสนรักเริ่มโมโหขึ้นมา : “ใช่ คุณพูดไม่ผิดหรอก ผมมีการวางแผนอื่นเอาไว้แล้วจริงๆ แต่ก่อนหน้านี้เรื่องนี้ก็ให้คุณเป็นคนจัดการแล้ว คุณยังไม่สิ้นสุด ผมก็ไม่แทรกมือเข้าไปอยู่แล้ว”
“ใครจะเชื่อ?”
“คุณพูดว่าอะไรนะ?”แววตาของชายหนุ่มเปลี่ยนไปอย่างดูอันตราย กับความรู้สึกที่ไม่ถูกเชื่อแบบนั้นและยังมีการใช้ถ้อยคำปฏิเสธ แทบจะทำให้เขากระทืบเท้าด้วยความโมโห!
“เส้นหมี่ คุณพูดอีกครั้งซิ?”
“พูดอีกครั้งแล้วยังไง? ตอนนี้เรื่องราวก็เห็นกันอยู่ตรงหน้าแล้ว แต่งฝันตายแล้ว ตายในมือคนของคุณ และตอนนี้คุณก็ยอมรับแล้ว ไม่ใช่คุณเป็นคนฆ่าแล้วจะยังมีใครอีก?”
“แล้วก็ต่อให้ไม่ใช่คุณ ถ้าอย่างนั้นก็จะต้องเป็นคนของตระกูลหิรัญชาอย่างแน่นอน พ่อของคุณตอนนั้นเพื่อเป็นการกำจัดฉันที่เป็นพยานที่รอดมาได้ ตอนอายุสิบแปดก็หลอกลวงให้ฉันมาแต่งงานกับคุณ หลังจากงานเลี้ยงของตระกูลโรแกน ก็คิดจะขังฉันอยู่ที่ตระกูลหิรัญชาของพวกคุณอีก พวกคุณพ่อลูกมีเรื่องอะไรที่ทำออกมาไม่ได้บ้าง? หะ? คุณบอกฉันมาสิ!!”
เส้นหมี่ส่งเสียงแหลมขึ้นมาในรถ โรคฮิสทีเรียปัญหาการควบคุมอารมณ์ของเธอ น้ำตาหยดใหญ่ไหลลงมาจากขอบตาของเธอ
สภาพนั้น ใช้ความว่า คนบ้ามาบรรยายก็คงจะไม่ดูเกินไปจริงๆ
สิ้นหวังเหลือเกิน!
ในที่สุดแสนรักก็ไม่ได้พูดออกมาแล้ว
สีของเลือดบนใบหน้าหล่อเหลาของเขาค่อยๆหายไปทีละนิดๆ เวลานี้เขาจ้องมองท่าทางที่พังทลายสูญเสียการควบคุมของเธอ ความแข็งแกร่งภายในใจก็เริ่มค่อยๆพังลงมาในที่สุด
แม้แต่เรื่องนี้เธอก็รู้
ใครบอกเธอ?
ไม่ ไม่สำคัญแล้ว
ที่สำคัญก็คือ ที่เธอพูดนั้นเป็นไปได้ว่าจะเป็นเรื่องจริง เนื่องจากว่าพ่อของเขา เป็นคนที่มีความเป็นไปได้ที่จะทำเรื่องแบบนี้
“ไม่ใช่ หมี่ คุณฟังผมอธิบายก่อนได้ไหม?”เขาเริ่มลนลานแล้ว ดึงประตูรถเพื่อจะเปิดมันออก หลังจากนั้นก็อุ้มผู้หญิงที่อยู่ข้างในออกมา
แต่เส้นหมี่ที่พังทลายไปแล้วนั้น กลับสูญเสียความควบคุมไปแล้ว
“แสนรัก ฉันเกลียดคุณ คุณดูสิเป็นเพราะคุณ ฉัน….ชีวิตของฉันกลายเป็นอะไรไปแล้ว? ไม่ใช่ว่าฉันเพียงแค่ทำผิดกับคุณครั้งเดียวตอนเด็กๆ ฉันกลายเป็นอะไรไปแล้ว? ฉันทำลายตระกูลวชิรนันท์ไปแล้ว และตอนนี้ฉันก็ทำลายตระกูลอัครนันท์ด้วยเหมือนกัน ทำไมคุณต้องทำแบบนี้กับฉัน? แสนรัก!!”
ชื่อสุดท้ายนั้น แทบจะเป็นการตะโกนออกมาทั้งน้ำตา
นิ้วมือของแสนรักสั่นเทา ในใจนั้นรู้สึกกลัวเสียจนลมหายใจดูเหมือนจะหยุดลงแล้ว เขาใช้แรงจับประตูรถเอาไว้ เขาขอร้องอ้อนวอนด้วยน้ำเสียงที่ต่ำต้อยอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“ใช่ เป็นความผิดของผมเอง ผมขอโทษ คุณเปิดประตูรถก่อนนะดีไหม? อย่าดื้อนะ”
เขาเริ่มกล่อมเธอจริงๆแล้ว ดูเหมือนกับเป็นการโอ๋เด็กอยู่อย่างไรอย่างนั้น
แต่ผู้หญิงที่รอเขามานานขนาดนี้ ก็ไม่ฟังอีกแล้ว เธอหลับตาลงอยู่ในรถ จากนั้นเท้าก็เหยียบคันเร่ง
ทันใดนั้นเอง รถก็พุ่งออกไปแล้ว!
“เส้นหมี่ คุณกลับมานะ!”
แสนรักมองตามหลังไปด้วยความโมโห เขาตวาดออกมาด้วยเสียงที่เฉียบขาด แต่ที่แลกกลับมานั้นมีเพียงแค่เสียงท่อระบายอากาศรถ และยังมีเงารถที่หายลับไปอย่างรวดเร็วอีกด้วย
เวลานี้ ผู้หญิงคนนี้ตัดขาดไม่เหลือทางหนีทีไล่เอาไว้ให้เขาเลยแม้แต่นิดเดียวจริงๆ
——
ตอนที่คฤหาสน์หิรัญชาได้ยินข่าวนี้นั้น คุณท่านเองก็ตกใจเสียจนรีบลุกขึ้นมานั่งบนเตียง
“นายว่าใครตายนะ?”
“คุณท่าน ลูกสาวของธนาตย์ จากที่สาธินีภรรยาของเขาพูดไว้ว่าเธอเห็นเองกับตาว่าลูกสาวของเธอตายในมือของคนที่คุณชายส่งไป ตอนนี้คุณชายกับคุณเส้นหมี่ทะเลาะกันขึ้นมาอีกแล้วครับ”
พ่อบ้านโรจน์เล่าเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบ
คุณท่านได้ยินแล้ว สีหน้าก็เปลี่ยนไปดูแย่ขึ้นมามาก : “เขาโง่ใช่ไหม? ในเมื่ออยากจะอยู่ด้วยกันกับเด็กนั่นแล้ว ทำไมถึงยังทำเรื่องแบบนี้อีก?”
เขารีบลงมาจากเตียงอย่างรีบร้อน และจะไปโรงพยาบาลด้วยตัวเองอีกครั้งหนึ่ง
แต่เวลานี้ จู่ๆทางด้านนอกกลับมีร่างหนึ่งพุ่งเข้ามา หลังจากคนๆนั้นมาถึงห้องที่อยู่ทางนี้แล้ว และไม่ได้สนใจคนที่เข้ามาขวางเขาเอาไว้ด้วยเช่นกัน เสียงเตะประตูดังปึง แล้วคนก็พุ่งเข้ามาอย่างล้มลุกคลุกคลาน
“ธนากร ออกมาเดี๋ยวนี้ ธนากร!!”
เสียงคำรามเหมือนกับหมาจนตรอก ท่ามกลางช่วงเวลากลางดึกเงียบสนิทแบบนี้ ไม่นานนักคนที่อยู่ในคฤหาสน์หลังเก่าก็รู้เรื่องกันหมดแล้ว
พ่อบ้านโรจน์เองก็สีหน้าเปลี่ยนด้วยเช่นกัน
นี่ไม่ใช่คุณชายเหรอ? ทำไมจู่ๆเขาถึงมาที่นี่ได้?
อีกทั้งเขายังไม่มีความเคารพขนาดนี้ เรียกชื่อของคุณท่านเลยแบบนี้ เขาบ้าไปแล้วใช่ไหม?
พ่อบ้านโรจน์ออกมาขวางเอาไว้ในทันที แต่เวลานี้ คุณท่านก็เดินเข้ามาแล้ว ได้ยินเสียงตวาดเสียงดังแบบนี้ เดิมทีเขาที่มีความโมโหอยู่บ้างแล้วนั้น ก็เดินถือไม้เท้าออกมา
“แสนรัก แกทำอะไร? บ้าไปแล้วใช่ไหม?”
“ผมบ้าเหรอ? ผมต้องถามพ่อมากกว่า ว่าพ่อกำลังเป็นบ้าอะไรอยู่? พ่อฆ่าเธอทำไม? ฆ่าคนจนติดเป็นนิสัยไปแล้วใช่ไหม? ทุกวันนี่ไม่มีคนตายในมือก็จะไม่มีความสุขใช่ไหม?”
ชายหนุ่มที่ดวงตาทั้งสองข้างแดงเป็นสีเลือด ดูบ้าบิ่นขึ้นมาเล็กน้อย เขาพุ่งตัวเข้ามาจับคอเสื้อของคุณท่านเอาไว้ สีหน้าซีดเผือด ตวาดออกมาด้วยความโมโห
ท่าทางนั้นน่ากลัวมากจริงๆ
คุณท่านได้ยินถึงความผิดปกตินี้ จึงรีบคว้าข้อมือเขาเอาไว้ทันที : “ฉันฆ่าใคร? แสนรัก แกมีสติหน่อยนะ แกกำลังพูดอะไรอยู่กันแน่?”