ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 296 ใช่เงินพันล้านเล่นกับภรรยามันผิดตรงไหน
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 296 ใช่เงินพันล้านเล่นกับภรรยามันผิดตรงไหน
เส้นหมี่พาปอร์เช่ไปที่คฤหาสน์ของอีริคอีกครั้ง
และเมื่อเขาทั้งสองคนไปถึงที่นั่นก็เห็นคนหลายคนที่พบกันในงานเมื่อวานต่างก็อยู่ที่นี่
“ดูเหมือนว่าวันนี้จะมีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่จริงๆ”
เมื่อเส้นหมี่เห็นแล้วเธอจึงพูดกับน้องชายที่อยู่ข้างๆ
ปอร์เช่พยักหน้า
เขาไม่ได้พูดออกมาเหมือนปกติแต่ยืนอยู่ข้างหลังของเธออย่างเรียบร้อย
เส้นหมี่”…”
“คุณสวยใสคุณมาแล้วหรอมาตรงนี้เร็ว”
ขณะที่เส้นหมี่กำลังรู้สึกไม่ชินกับท่าทางของน้องชายที่ไม่พูดไม่จาทันใดนั้นคนที่รอเธออยู่ในสวนก็เห็นเธอเข้าจึงเรียกเธอไปอย่างกระตือรือร้น
ทุกคนเป็นนักเก่งกำไรทางการเงินตอนนี้พวกเขากำลังติดตามอีริคดังนั้นจึงรวมกลุ่มกัน
ดังนั้นเส้นหมี่จึงเดินเข้าไป
“พวกคุณมานานแล้วหรอ”
“ไม่นานทุกคนเพิ่งมาถึงที่นี่ใช่แล้วคุณสวยใสคุณรู้มั้ยว่าครั้งนี้พวกเราจะทำโครงการอะไร”มีคนถามเส้นหมี่ขึ้นมา
เส้นหมี่จะรู้ได้ยังไงถึงเธอจะได้รับคำชมจากอีริคแต่เขาก็ไม่เปิดเผยเรื่องเหล่านี้ให้เธอเร็วขนาดนั้น
เธอส่ายหน้า”ไม่รู้ค่ะทุกคนรู้หมดแล้วหรอ”
คนผิวดำคนหนึ่งที่ชื่อว่าปีเตอร์เผยรอยยิ้มมีเลศนัยออกมา”รู้นิดหน่อยเอฟพีเจแปนรู้จักมั้ย”
อะไรนะ!
เมื่อเส้นหมี่ได้ยินชื่อนี้เธอก็รู้สึกกระวนกระวายใจใจตุ้มๆต่อมๆเหมือนมีม้าโคลนหลายหมื่นตัวกำลังคำรามอย่างรุนแรง
เอฟพีเธอรู้จักแน่นอนนั่นเป็นอุตสาหกรรมการผลิตที่มีความแม่นยำสูงสองอันดับแรกของโลกพวกเขาทำเกี่ยวกับเครื่องจักรและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆและเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีชั้นสูงในสังคมสมัยใหม่
อีริคคนนี้บ้าไปแล้วจริงๆเมื่อวานให้เธอเล่นงานหิรัญชากรุ๊ปส่วนวันนี้จะให้เธอไปเล่นงานเอฟพีเจแปน
เขาบ้าไปแล้ว!
“ว้าวเอฟพีหรอนั่นดีมากเลยเป็นปลาตัวใหญ่ถ้าพวกเราทำสำเร็จเราคงได้เงินมาไม่ต่ำกว่าห้าสิบล้าน”
“แน่นอน!”
เมื่อคนอื่นได้ยินชื่อนี้ก็รู้สึกตื่นเต้นมาก
บริษัทใหญ่สินทรัพย์เยอะพวกเขาต้องดีใจแน่นอนเพราะมันจะแสดงว่าพวกเขาจะสามารถหาเงินได้มากขึ้น
เส้นหมี่ยืนคิดแล้วก็รู้สึกว่ามีเหตุผลถ้าโครงการนี้เป็นไปตามกฎเธอก็ยินดีที่จะทำ
ทุกคนรออยู่ในสวนประมาณสามสิบนาทีในที่สุดอีริคก็ออกมาเขาใส่หมวกทรงสูงและชุดสูทเมื่อเขาออกมาก็ให้ผู้ช่วยของเขาแจกโน๊ตบุ๊กให้ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นคนละเครื่อง
“ทุกคนฉันจะไม่พูดพร่ำทำเพลงแล้วนะโครงการของพวกเราในวันนี้คือเอฟพีเจแปนทำเหมือนปกติเมื่อทุกคนได้รับสิ่งนี้แล้วก็จะรู้หน้าที่ของตัวเอง”
“เอฟพีจริงด้วย…”
เมื่อเขาพูดจบบรรยากาศก็ดุเดือดขึ้นมาทันที
เส้นหมี่ก็ได้รับโน๊ตบุ๊กมาเช่นกันเมื่อรู้ว่าต้องเปิดสิ่งนี้ก่อนถึงจะรู้หน้าที่ของตัวเองเธอจึงส่งกระเป๋าให้ปอร์เช่ที่ยืนอยู่ข้างหลัง
จากนั้นเธอก็หาเก้าอี้นั่งและเปิดโน๊ตบุ๊ก
“ฟิวเจอร์ส”
“ใช่คุณสวยใสครั้งนี้เป็นการเข้าร่วมงานของคุณเป็นครั้งแรกคุณลองทำอันนี้ดูก่อนฟิวเจอร์สของเราคือคูปองทองคำและเอฟพีก็มีสกุลเงินมหาศาลจากความต้องการของพวกเขาในตอนนี้การทำฟิวเจอร์สก็ไม่เป็นไร”
อีริคเข้ามาเห็นร่องรอยความผิดหวังในดวงตาของเส้นหมี่เขาจึงอธิบายให้เธอฟัง
เส้นหมี่พูดไม่ออก
ฟิวเจอร์สก็คือธุรกรรมทางการเงินที่ไม่ได้ส่งมอบในตอนนี้
แถมเขายังไม่มีสินค้าจริงทำได้แค่ใช้พันธบัตรหรือหุ้นต่างๆมาเซ็นสัญญาเท่านั้นหรือเปลี่ยนประโยคพูดก็คือฉันซื้อสินค้าของคุณแล้วแต่สินค้ากลับเป็นแค่กระดาษสัญญาใบหนึ่งต้องถึงระยะเวลาที่กำหนดถึงจะสามารถส่งมอบให้คุณได้
จิ้งจอกเฒ่าตัวนี้ที่จริงเขาก็ปกป้องเธออยู่
เส้นหมี่ขมวดคิ้ว
“ดูเหมือนว่าครั้งนี้เราจะทำเงินไม่ได้แล้วฟิวเจอร์สนี้นอกจากระยะเวลาจะนานแล้วเอฟพีก็ไม่น่าจะซื้อด้วยใครจะเอาเงินมาซื้อเล่นกัน”
หลังจากที่อีริคไปแล้วเธอก็อดที่จะบ่นออกมาไม่ได้
ปอร์เช่ยังคงไม่พูดอะไรออกมา
หรืออาจเป็นเพราะว่าเขาฟังไม่เข้าใจจึงได้แต่มองเธออย่างว่างเปล่า
เมื่อเส้นหมี่เห็นอารมณ์ของเธอก็ยิ่งไม่ดี
“ทำไมไม่พูดอะไรออกมานายเรียนการเงินมาไม่ใช่หรอไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ได้ยังไงเมื่อวานตอนวิเคราะห์ข้อเสียของหิรัญชากรุ๊ปให้ฉันฟังยังพูดอย่างมีเหตุผลอยู่เลย”
“…”
ความตื่นตระหนกที่เห็นได้อย่างชัดเจนเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเด็กชายที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอในที่สุดก็กลับฟันพูดออกมาว่า”คือผม…กลัวมันกระทบการตัดสินใจของพี่”
เส้นหมี่ขมวดคิ้ว”มีอะไรต้องกลัวเราเป็นพี่น้องกันเกิดอะไรขึ้นเราก็ต้องคุยกันใครผิดก็ไม่เป็นไร”
ปอร์เช่”…”
ผ่านไปนานมากในที่สุดเขาก็พยักหน้าอย่างจริงจังและหยิบโทรศัพท์ออกมา
ทุกอย่างถูกจัดวางอย่างเหมาะสมในที่สุดทุกคนก็เริ่มออกเดินทางและเส้นหมี่ที่ผ่านประสบการณ์มามากมายในที่สุดเธอก็สามารถก้าวเข้าสู่วอล์ลสตรีทอันโด่งดังถนนที่มีชื่อเสียงทางด้านการเงินได้เป็นครั้งแรก
….
ภายในประเทศตึกษริษัทหิรัญชากรุ๊ป
ตอนที่แสนรักถึงบริษัทก็เป็นตอนกลางคืนแล้ว
แต่เพราะเป็นเวลานี้เมื่อได้ยินว่าเขาจะกลับมาชั้นบนสุดของบริษัทจึงยังคงสว่างไสวอยู่และห้องประชุมระดับสูงของบริษัทก็มีคนนั่งอยู่เต็มไปหมด
ท่าทางทุกคนเหมือนกำลังจะตัดสินไม่มีผิด
จะตัดสินใคร
ตัดสินแสนรักหรอ