ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 328 ในที่สุดเขาก็คัดชื่อเธอออก
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 328 ในที่สุดเขาก็คัดชื่อเธอออก
ผ่านไปประมาณสิบนาที สองคนแม่ลูกยิ่งเดินก็ยิ่งไกลมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ว่า หนูมะลิกับแม่ของเธอ ก็ยังไม่เจอแม้เงา ไม่รู้ว่าเดินไปทางไหนกัน?
“หม่ามี๊ เราอย่าเดินต่อกันอีกเลยนะ รินจังกลัว”
สภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นชินสำหรับเด็กๆ มันทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัย ในป่าแห่งนี้ เส้นทางที่พวกเธอกำลังเดินอยู่ก็ไม่เห็นใครอื่นเลย เธอไม่อยากจะเดินต่อไปแล้ว
เส้นหมี่ก็ไม่อยากเช่นกัน แต่ว่า แม่ลูกสองคนนั้นยังหาไม่เจอเลย หากเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง ?
และแล้วเส้นหมี่ก็อุ้มลูกสาวขึ้นมา จากนั้นก็กัดฟันเดินต่ออีกหลายกิโล
“คุณแม่มะลิ?หนูมะลิ?พวกคุณอยู่ที่นี่หรือเปล่า?”
“……”
ไม่มีเสียงใดๆ บนป่าเขาที่ถูกปกคลุมไปด้วยท้องฟ้าสีเทา เงียบวังเวงจนรู้สึกเสียวไปที่สันหลัง ทำเอารู้สึกหวาดกลัวจนขนลุกซู่ได้ตลอดเวลา
ในที่สุดเส้นหมี่ก็ไม่กล้าเดินไปต่อ
เธอตัดสินใจจะกลับไปก่อน จากนั้นค่อยให้คนมาออกตามหาสองคนแม่ลูกนี้
แต่ทว่า ในตอนที่เธออุ้มลูกและกำลังจะหันหลังกลับนั้น จู่ๆ ก็มีงูตัวหนึ่งขนาดเท่าแขนเด็กเลื้อยออกมาจากโพรงหญ้าข้างทาง ทำเธอตกใจมากจนกรีดร้องออกมา และทั้งสองคนก็ล้มกลิ้งตกถนนไป
“อ๊าก——”
——
ภารกิจในช่วงบ่ายของแสนรักกับคิวคิวและคนอื่นๆคือช่วยชาวนาหว่านปุ๋ย
ภารกิจนี้ค่อนข้างที่จะง่ายมาก และไม่สกปรกอะไร
แต่ว่า ในบ่ายของวันนี้ บรรยากาศในกลุ่มของพวกเขา เป็นไปด้วยความอึมครึม ไม่มีใครพูดอะไรสักคำ และไม่มีใครแสดงสีหน้าที่พึงพอใจ
รวมถึงเด็กน้อยทั้งสองคน
เมื่อแครอทเห็น ก็อยากจะทำลายบรรยากาศนี้“คิวคิว หนูว่าเย็นนี้เราเอาอะไรกลับไปกันดี ? ได้ยินว่าพืชผลที่เก็บได้ในบ่ายนี้ เอากลับบ้านได้ด้วยนะ”
คิวคิวมองเธออย่างเย็นชา
แครอท“……”
ใบหน้ายิ้มแห้ง เธอจำต้องหันมองไปที่เด็กชายอีกคนหนึ่ง
ทว่า ชินจังนั้นหนักกว่า หันหน้าเดินหนีในทันที
“แด๊ดดี้ เราจะไปหาหม่ามี๊กับน้อง” ชินจังเดินมาตรงหน้าคนเป็นพ่อ และพูดความต้องการของตัวเองออกไปตรงๆ
บ่ายนี้แสนรักไม่ได้ลงแรงทำอะไร
เขาอยู่ตรงนี่ ก็เพื่อเข้าร่วมทำกิจกรรมทำไร่ไถนากับเด็กๆ แต่ก็ยืนอยู่กับที่และเอาแต่เล่นโทรศัพท์ของตัวเองอยู่ตลอด ไม่ได้มีความกระตือรือร้นเหมือนในตอนเช้าแต่อย่างใด
เมื่อได้ยินว่าลูกชายจะไปหาหม่ามี๊ของพวกเขา สายตาที่เย็นชาของชายหนุ่ม ในที่สุดก็หลุดโฟกัสออกจากหน้าจอมือถือ
“ไม่ได้!”
“ทำไมถึงไม่ได้ ? งานของพวกเรากำลังจะเสร็จแล้ว และก็จะกลับกันได้เลย แต่ทางฝั่งหม่ามี๊กับน้องยังไม่รู้ว่าเป็นยังไง ? แล้วถ้าหากทำไม่เสร็จจะทำยังไง ?”
เมื่อคิวคิวได้ยินสิ่งที่แด๊ดดี้พูดออกมา ก็รีบวิ่งมาช่วยพี่ชายอีกคน
ทว่า ที่ทำเอาพวกเขารู้สึกผิดหวังอย่างมากก็คือ แด๊ดดี้คนนี้ก็ยังไม่ยอมโอนอ่อนท่าเดียว
เขาไม่เพียงไม่ให้พวกเขาไปหาหม่ามี๊และน้องสาว แต่หลังจากที่ทำงานเสร็จ ก็ให้แครอท จัดการอุ้มพวกเขากันคนละคน
จากนั้น ก็พาพวกเขาออกจากหมู่บ้านนี้ไป และเดินทางกลับ
ไอ้แด๊ดดี้บ้า แล้วจะต้องเสียใจ!
ผ่านไปเกือบหนึ่งชั่วโมง แม่ของ มะลิก็ได้พาคนออกมาตามหาพวกเธอสองคนแม่ลูกจนเจอ พวกเขาได้ยินเสียงร้องไห้ของเด็ก ก็จึงรีบตามมา
แต่กลับพบว่า สองคนแม่ลูกตกลงไปที่ตีนเขา
“แม่รินจัง พวกคุณไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหม ? เด็กเป็นอะไรหรือเปล่า ?”
หลังจากที่ช่วยสองคนแม่ลูกขึ้นมาได้แล้ว แม่ของมะลิได้ยินว่าเพราะพวกเธอออกไปตามหาตัวเอง เลยเดินมาถึงที่ตรงนี้แล้วตกลงไปอย่างไม่ทันได้ระวัง ก็รู้สึกผิดอย่างมาก
โชคยังดี ที่เส้นหมี่กับลูกไม่ได้เป็นอะไรมาก
“ไม่เป็นไรค่ะ เด็กน้อยแค่รู้สึกกลัวเท่านั้น มีแผลถลอกนิดหน่อย ไม่ได้เป็นอะไรมาก”เส้นหมี่พูดปลอบด้วยท่าทีอิดโรย
เมื่อทุกคนได้ยิน ต่างก็พากันถอนหายใจด้วยความโล่งอก
มาเจอสองคนแม่ลูกในเวลานี้ ผู้ปกครองหลายคนของโรงเรียนอนุบาลก็มีทยอยกันเดินทางกลับไปบ้างแล้ว
หนูมะลิเองก็กำลังจะเตรียมตัวกลับเหมือนกัน
“แม่รินจัง เราจะกลับกันเลยไหม ? เวลาตอนนี้ก็ไม่ได้มืดเท่าไร ”
“……พวกเขากลับกันไปหมดแล้วหรือ ? แล้วครอบครัวของชินจังกับอิคคิวล่ะ พวกเขาก็กลับไปแล้วเหรอ?”ทันใดนั้นเส้นหมี่ที่มีความหวังเพียงน้อยนิด ก็ถามออกไปอย่างไม่ตั้งใจ
ผลปรากฏว่า ที่ทำเอาเธอหนาวเหน็บไปถึงขั้วหัวใจ คือแม่ของมะลิบอกเธอว่า ครอบครัวนั้นกลับไปตั้งนานแล้ว
อีกทั้ง การเที่ยวฤดูใบไม้ผลินี้ทางคุณครูยังไม่ได้ประกาศผลเลยด้วยซ้ำ พวกเขาก็พาเด็กๆกลับไปกันแล้ว
รีบขนาดนั้นเชียว ?
อยากจะทิ้งพวกเธอสองคนแม่ลูกเหรอ ?
งั้นก็ให้เป็นไปตามที่เขาปรารถนาแล้วกัน
หัวใจของเส้นหมี่เย็นเยือกอย่างที่สุด มีเพียงรอยยิ้มที่ขมขื่น“ฉันว่าฉันค้างคืนที่นี่สักคืนจะดีกว่า เด็กน้อยได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และยังตกใจกลัวอยู่ กลัวเดินทางไกลแล้วจะส่งผลกระทบกับเธอ”
“ถ้าอย่างนั้น……”
แม่ของหนูมะลิลังเลอยู่ชั่วครู่
ในที่สุด เธอก็เห็นด้วย อาสาจะไปบอกกับทางโรงเรียนอนุบาลให้ แล้วก็จากไป
ส่วนเส้นหมี่ พาลูกน้อยค้างคืนอยู่ที่นี่
ค่ำคืนในชนบทนั้นช่างเงียบสงบอย่างมาก หลังจากที่กินมื้อค่ำกันแล้ว เส้นหมี่ก็พาเด็กน้อยไปนอนในบ้านของชาวนา เพราะเงียบสงบอย่ามาก ทำเธอนอนไม่หลับเลย
มีบางสิ่งบางอย่างที่คอยวนเวียนอยู่ในหัวสมองของเธอ
เธอกำลังคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตอนกลางวัน
เรื่องพวกนั้น ตามความหมายของเธอแล้ว มันเป็นสิ่งที่เธอต้องการ แสนรักจงเกลียดจงชังเธอ นั้นก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าความสัมพันธ์ของพวกเธอนั้นไม่สามารถจะเปลี่ยนแปลงมันได้อีก
แล้วอย่างนี้ เธอยังจะไม่พอใจอะไรอีก?
แต่ว่า เธอรู้สึกเศร้าเหลือเกิน
เธอนอนอยู่บนเตียง ด้านนอกก็ได้ยินเสียงกบเขียดร้องระงมกันไม่หยุด ในอกก็ราวกับมีหินก้อนใหญ่มากดทับเอาไว้ ทำเธอรู้สึกอึดอัด และหงุดหงิดอย่างมาก
ทำไมเธอถึงเป็นแบบนี้ ?
หรือใจเธอจะยังไม่แข็งอีก ? ลืมเรื่องที่ตระกูลหิรัญชาทำกับตัวเองไปหมดแล้วเหรอ ?
เป็นเวลานาน ที่เส้นหมี่พลิกตัวไปมาและนอนไม่หลับเลย
“ก๊อกๆๆ!”
“คุณเส้นหมี่ มีคนมารับพวกคุณแม่ลูกแล้ว ”
ในจังหวะนั้น เจ้าของบ้านก็มาเคาะประตูห้อง บอกว่ามีคนมารับพวกเธอแล้ว