ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 335 ต้องให้หม่ามี๊กลับมา
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 335 ต้องให้หม่ามี๊กลับมา
แครอทมองไปที่ใบหน้าเล็กๆที่ร้ายกาจนั้น เป็นครั้งแรกที่รู้สึกอึดอัดใจกับเด็กน้อย
“ชินชิน นี่เราเป็นอะไรไป ? ทำไมถึงได้หยาบคายกับน้าแบบนี้ ? น้าไม่ได้ทำอะไรเราสักหน่อย ? แค่ถามเรื่องน้องเท่านั้น ”
“เพราะน้าไม่คู่ควร!”
เด็กน้อยคนหนึ่ง กับคำพูดที่ไร้มิตรไมตรี !
ความเย็นชาที่แผ่ซ่านออกมา อดไม่ได้ที่จะทำเอารู้สึกขนหัวลุกขึ้นมาเช่นกัน
ไม่คู่ควร ?
แครอทหมดคำพูดแล้วจริงๆ
นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้เห็นเด็กน้อยพูดจาไม่สุภาพแบบนี้
ตั้งแต่วันนั้นที่เธอพาแด๊ดดี้ของพวกเขากลับมา ชายหนุ่มก็ล้มป่วยอย่างหนัก เธอบอกพวกเขาสองคนว่า เธอได้ลบภาพจำของหม่ามี๊ในความทรงจำของชายหนุ่มออกไปแล้ว และเธอเองก็คาดการณ์ไว้แล้วว่าความรู้สึกของพวกเขาที่มีต่อเธอก็คงจะไม่เหมือนเดิมอีก
แต่ไม่คิดว่า มันจะเลวร้ายขนาดนี้
สีหน้าของแครอทดูแย่ลงถนัดตา อยากจะสั่งสอนสักหน่อย ในตอนนี้เอง พี่ภาที่ได้ยินเสียงเอะอะก็เดินเข้ามา
“คุณหนูชินจัง มาทำอะไรอยู่ตรงนี้คะ ? ไม่ไปดูน้องเหรอ?”
“ไป”
ชินจังกางมือเล็กๆออกตรงหน้าเธอ ความเย็นชาและร้ายกาจที่มีเมื่อครู่แตกต่างกันราวกับเป็นคนละคน
แครอท“……”
พี่ภา“ต้องขอโทษด้วยนะคะคุณแครอท เราจะไปดูคุณหนูคิวคิวกัน คุณตามสบายนะคะ ”
หลังจากนั้น คนใช้คนนี้ก็ไม่ได้สนใจเธออีก อุ้มเด็กน้อยแล้วจากไป
แครอทอารมณ์เสียอย่างมาก!
นี่มันอะไรกัน ?
ตอนนี้ทุกคนต่างก็ไม่พอใจเธองั้นเหรอ ? เธอทำอะไรผิด ?
เธอพาผู้ชายคนนี้กลับมา และยังคอยดูแลช่วยเหลือ พวกเขายังจะไม่พอใจอะไรอีก ? นี่เธอยังทำได้ไม่ดีพออีกเหรอ?
เธอรู้สึกโกรธอย่างมาก
แต่ทว่า นี่เป็นเพียงแค่เริ่มต้นเท่านั้น เพราะหลังจากนั้นไม่นาน เธอที่กำลังจะไปโรงแรมที่จัดเลี้ยงงานหมั้น ยืนอยู่ในสวนของคฤหาสน์ ก็ได้รับสายจากแสนรัก
“แครอท กำหนดการเดินทางของวันนี้ยกเลิกนะ อาการบาดเจ็บของคิวคิวค่อนข้างรุนแรง ไปไม่ได้แล้ว ”
ชายหนุ่มที่พออ้าปากได้ก็พูดยกเลิกเรื่องสำคัญต่างๆ คำพูดคำจาไม่ลังเลเลยสักนิด น้ำเสียงของเขาฟังดูร้อนรน และวิตกกังวลเป็นอย่างมาก ทุกอย่างล้วนเป็นเพราะลูกชายของตัวเอง
แครอทหมดคำจะพูดอีกครั้ง
อยากจะพูดอะไร แต่แสนรักก็วางสายไปแล้ว
บ้าเอ๊ย!
ในวินาทีนั้น ความโกรธของเธอก็ถึงขีดสุดในทันที !
เรื่องงานหมั้น สำหรับเธอแล้ว มันเป็นเรื่องที่ยากอย่างมาก เธอเป็นพวกเจ้าสาวที่กลัวฝน ตอนนั้นผู้ใหญ่ของทั้งสองครอบครัวอยากให้พวกเขาแต่งงานกัน
เธอปฏิเสธอย่างหนักแน่น
แต่ตอนนี้ เพื่อสุขภาพของเขา และเพื่อไม่ให้ต้องถูกผู้หญิงคนนั้นทำให้รู้สึกเจ็บปวดอีก เธอก็จึงเป็นฝ่ายพูดขอหมั้นกับเขา
ผลปรากฏว่า สิ่งที่ได้กลับมาคือแบบนี้เหรอ ?
แครอทเดือดจัด ยกโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วจะกดโทรไปถามเอากับชายหนุ่ม
และในตอนนี้เอง โทรศัพท์ของเธอ ก็มีคนโทรเข้ามาซะก่อน
“ฮัลโหล?”
“รอท ไหนว่าจะมาดูโรงแรมกันไม่ใช่เหรอ ? ทำไมยังไม่เจอใครเลย ? แม่กับพ่อของแกมาถึงที่โรงแรมแล้วนะ”
เป็นพ่อแม่ของเธอเอง บอกว่าพวกเขามาถึงที่โรงแรมแล้ว
เมื่อแครอทได้ยิน สีหน้าก็ดูแย่หนักเข้าไปอีก“ ดูโรงแรมอะไรกันล่ะ ? แสนรักหนีไปแล้ว งานหมั้นนี้ไม่ต้องจัดมันแล้ว!”
สีหน้าของแม่ของแครอทก็เปลี่ยนในทันที “ หนีไปแล้ว อะไรคืองานหมั้นไม่ต้องจัดแล้ว ? พูดมาให้ชัดเจนเลยนะ!”
พ่อแม่ตระกูลลัดดาวัลย์พึงพอใจในแสนรักเป็นอย่างมาก เมื่อได้ยินลูกสาวบอกว่าไม่อยากจะหมั้นแล้ว พวกเขาก็ร้อนรนขึ้นมา
แครอทไม่มีทางเลือก สุดท้ายก็จึงบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดแบบรวบรัดให้ฟัง
ผลปรากฏว่า ทันทีที่เธอพูดจบ พ่อของแครอทก็ก่นด่าเธอขึ้นมาทันที“นี่แกยังจะโมโหอยู่อีกเหรอ ? ลูกเขาบาดเจ็บจนต้องเข้าโรงพยาบาล แกไม่คิดจะเป็นห่วงเขาเลยหรือไง ยังมาบ่นอยู่ที่นี่อีก ?”
“หนู——”
“หุบปากแกเดี๋ยวนี้ แล้วรีบไปโรงพยาบาลดูอาการของเด็กเลย ฉันกับแม่ของแกจะรีบตามไป!”
พ่อแครอทเป็นคนมีเหตุมีผลเช่นกัน รู้ว่าบางครั้งลูกสาวตัวเองก็เอาแต่ใจ หลังจากที่ดุด่าว่ากล่าวไป เขาก็กดวางสาย จากนั้นก็พาคนเป็นภรรยาเดินทางไปที่โรงพยาบาล
แครอทเองก็วางสายอย่างรู้สึกละอาย
จากนั้น เธอก็เดินทางไปที่โรงพยาบาลเช่นกัน
——
โรงพยาบาลราษฎร์
ในตอนนี้บาดแผลของคิวคิวได้รับการรักษาแล้ว ตอนที่เขาล้ม ฟันหน้าคะมำลงพื้นอย่างไม่ทันระวัง เลือดไหลท่วมปาก ทำเอาแสนรักตกใจเป็นอย่างมาก
“ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวจะมีฟันซี่ใหม่ที่สวยกว่างอกออกมาแทน ”
หมอที่ทำการรักษาคิวคิว เห็นเด็กน้อยน้ำตาคลอเบ้านอนคุดคู้อยู่ในอ้อมแขนของคนเป็นพ่อ ก็จึงพูดปลอบด้วยรอยยิ้ม
เมื่อแสนรักเห็นเด็กน้อยมีสภาพแบบนี้ ก็รู้สึกปวดใจอย่างมาก
เด็กคนนี้ เข้มแข็งและร่าเริงมาก นี่เป็นครั้งแรกเหมือนกันที่ร้องไห้หนักขนาดนี้ ดวงตาเล็กๆก็ถึงกับปูดบวม
แสนรักตบหลังของเขาเบาๆ“ ไม่ต้องห่วงนะ คุณอาหมอไม่ได้พูดโกหก ต่อไปฟันของเราที่งอกมาใหม่นี้จะสวยกว่า และแข็งแรงกว่าด้วยนะ”
ชายหนุ่มบีบไปที่ปลายจมูกเล็กๆของเด็กน้อยอย่างอ่อนโยน
“จริงเหรอครับ?”
เมื่อคิวคิวได้ยิน ดวงตาที่บวมแดงก็กะพริบปริบๆอยู่ในอ้อมแขนของแด๊ดดี้ และหยุดร้องไห้
สิบนาทีต่อมา หมอได้เขียนใบสั่งยาให้ แสนรักก็จึงไปรับยา และคิวคิวก็นั่งรออยู่ในแผนกฉุกเฉินโดยมีคนเป็นพี่คอยนั่งอยู่เป็นเพื่อนด้วย
“เจ็บหรือเปล่า?”
“……ไม่เจ็บ!”
แม้ดวงตาเล็กๆจะยังแดงก่ำอยู่ ปากที่เป็นแผล ก็บวมปูดอย่างมาก แต่ในตอนนี้ เมื่อคิวคิวได้ยินพี่ชายเอ่ยถาม ก็กลั้นน้ำตาเอาไว้และส่ายหน้าให้อย่างเข้มแข็ง
เมื่อชินจังเห็น ก็กอดน้องชายด้วยความรู้สึกที่ตื้นตันและเจ็บปวดใจในทันที