ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 338 หม่ามี๊จะมางานแต่งของแด๊ดดี้ไหมครับ?
ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 338 หม่ามี๊จะมางานแต่งของแด๊ดดี้ไหมครับ?
เป็นครั้งแรกที่เห็นภาพพรีเวดดิ้งของเขา
ตอนที่พวกเธอแต่งงานกัน ไม่เพียงแต่ไม่ได้ถ่ายภาพพรีเวดดิ้ง แม้แต่ทะเบียนสมรสก็เป็นคุณท่านเอารูปเขากับรูปเธอประกอบกัน
คิดดูแล้วก็รู้สึกสงสารตัวเอง
ส่วนตอนนี้ เขากับรักแรกสะกดสายตาบนจอได้เพียงนี้
คล้ายกับคู่กิ่งทองใบหยกที่ฟ้าประทาน ความหล่อเหลาของผู้ชายสมบูรณ์แบบจนไม่กล้าจ้องตา
ส่วนผู้หญิงก็เหมือนองค์หญิงที่ได้รับการทะนุถนอมมาเป็นอย่างดี อิงแอบแนบชิดอยู่ข้างกายเขา ทุกคนล้วนสัมผัสได้ว่าเธอมีความสุขเพียงใด
งานวิวาห์หรูที่นักข่าวสาวพูดถึงก็เป็นพวกเขานี่เอง
ไม่รู้ว่าเส้นหมี่ยืนอยู่ตรงนั่นนานเท่าไหร่
จวบจนผู้ชายคฤหาสน์ตระกูลวชิรนันท์หลังเก่าเห็นเธอไม่มาเสียที จึงโทรมาหา
“ฮัลโหล คุณเส้นหมี่มาถึงหรือยังครับ?”
“ถึงแล้วค่ะ จะไปเดี๋ยวนี้นะคะ” เส้นหมี่ละสายตาอันข่มขืน จากนั้นก็วางสาย ระงับอารมณ์ทุกอย่างไว้
จากนั้นเธอก็ลากกระเป๋าเดินทางออกจากสนามบิน
เธอต้องรู้ว่าตอนนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเธอแล้ว
เส้นหมี่มาถึงเมืองที่จากลานานพอสมควร
เพราะเป็นงานแต่งที่ถูกจับตามองกันทั่วบ้านทั่วเมือง ดังนั้นจึงมีภาพพรีเวดดิ้งมุมอื่นของเมืองเหมือนที่สนามบิน หากไม่เห็นรูปพรีเวดดิ้งของพวกเขาสองคน ก็จะได้ยินคนอื่นพูดถึงเรื่องนี้
โดยเฉพาะหน้าประตูโรงแรม คนออกันเกือบเต็ม
เส้นหมี่เห็นแล้วก็กำหมัดที่ขาวซีดนิดๆ บอกให้คนขับรถอ้อมเส้นทางไปยังเขตเมืองเก่า
“พี่ค่ะ ไปที่สุขุมจันทร์ค่ะ”
“สุขุมจันทร์?ที่นั่นโดนรื้อหมดแล้วนี่ครับ? คุณไปทำไมเหรอครับ?”
คนขับรถได้ยินก็รู้สึกประหลาดใจเหลือแสน
เส้นหมี่ชะงักงัน“รื้อแล้ว?ตอนไหนคะ?”
คนขับรถแท็กซี่เอ่ยว่า“ปีนี้ครับ เขตเมืองใหม่เปลี่ยนโฉม เขตเมืองเก่าก็กลายเป็นสถานที่ร้าง ไม่มีคนพักอาศัยแล้วครับ”
คาดว่าคนขับรถแท็กซี่จะเป็นคนในท้องถิ่น จึงรู้ข่าวสารพอสมควร
จะรื้อแล้วเหรอ?
แล้วทำไมคุณลุงไม่บอกเธอ?อีกอย่าง เขารู้อยู่ทนโท่ว่าเธอจะกลับมา แต่ก็ไม่ได้บอกไปหาเขาที่อื่นนี่ แสดงว่าเขายังพักอยู่ที่สุขุมจันทร์
เธอโอนเงินให้เขาตั้งเยอะ?ทำไมยังไม่ย้ายอีก?
เส้นหมี่ตกใจสุดแสน เร่งเร้าให้คนขับรถเพิ่มความเร็วในการเดินทางไปยังเขตเมืองเก่า
จริงด้วย ตอนเธอเห็นบ้านอันคุ้นเคยของคุณลุง แวบแรกเธอก็เห็นป้ายเขียนคำว่า รื้อ ซึ่งรู้สึกทิ่มตามาก
ทำไมเขาไม่บอกเธอเรื่องนี้?
เส้นหมี่รีบลงจากรถ จากนั้นก็พุ่งเข้าไปตรงลานบ้าน
“คุณลุงค่ะ”
“คุณเป็นบ้าอะไร ให้เส้นหมี่กลับมาวันนี้ทำไม? จะให้มาเชยชมวันวิวาห์สุดแสนอลังการของไอ้ผู้ชายไร้หัวใจเหรอ? คุณว่างมากใช่ไหม? หาเรื่องใส่ตัวทำไม?”
เส้นหมี่พึ่งเปล่งเสียงร้องเรียกก็ได้ยินเสียงตำหนิของหญิงวัยกลางคนลอยออกมาจากด้านในบ้าน ฟังดูรู้สึกโกรธขึ้งมาก
เส้นหมี่รีบเก็บคำพูดตอนหลังไว้ทันที
ซึ่งก็คือคุณป้าของเธอ ชื่อสาธินี
หลังจากที่แต่งฝันเสียชีวิต คุณป้าท่านนี้ก็ตบหน้าเธอหนึ่งครั้ง จากนั้นเธอก็ไม่กล้าพูดกับท่าน แค่ได้ยินเสียงคุณป้า เส้นหมี่ก็รู้สึกกลัวอย่างควบคุมไม่ได้
“หาเรื่องใส่ตัวอะไรกัน? ผมทำเพื่อเด็กสองคนนั่นต่างหาก? คุณไม่เห็นคิวคิวโดนตีจนเป็นสภาพไหนหรือ?”
“แล้วจำเป็นต้องเรียกเส้นหมี่กลับมาไหม? ลูกสาวของอรรตพลใช่ย่อยเสียเมื่อไหร่ ยัยโง่ของเราเห็นงานแต่งนี้แล้ว คุณคิดว่าจะทำอะไรได้? ไม่แน่ เส้นหมี่อาจจะกระทบกระเทือนจิตใจจนทำอะไรไม่ยั้งคิด แล้วเด็กๆก็จะแย่กว่าเดิม”
สาธินีด่าผู้เป็นสามีอย่างไม่เกรงใจตรงชั้นสองของบ้าน
ธนาตย์ได้ยินก็ใบ้กินทันที
เส้นหมี่ยืนฟังตรงชั้นล่างด้วยความอึ้ง
คุณป้าพูดผิดแล้ว งานแต่งไม่มีผลกระทบใดๆกับเธอทั้งสิ้น
แต่เรื่องที่ท่านเอ่ยถึงระหว่างลูกๆกับผู้หญิงคนนั้น เธอทนฟังต่อไปไม่ได้แล้วจริงๆ
ทำไมลูกๆถึงแย่กว่าเดิม?
ความหมายก็คือ ตอนนี้ลูกๆทั้งสองคนอยู่อย่างทุกข์ระทมหรือ? ตกลงตอนนี้พวกเขามีชีวิตเป็นอย่างไรบ้าง? แล้วอยู่ตรงไหน?
วันนี้เป็นงานแต่งของเขา แล้วลูกชายทั้งสองของเธอล่ะ ถูกทอดทิ้งและหลงลืมไว้ที่ไหน?
เส้นหมี่ไม่กล้าจินตนาการต่อ หัวใจเธอคล้ายกับถูกบีบ ความเจ็บปวดรวดร้าวระคนความทรมานถาโถมเข้าพร้อมกัน เธอสนใจอย่างอื่นไม่ได้แล้ว
จากนั้นเธอก็หมุนกายเดินออกไป
เธอต้องเจอหน้าลูกชายของเธอก่อน
——
ณ เรืองรอง ตึกวังฬาหนึ่ง
ชินจังกับคิวคิวถูกจับให้แต่งตัวเป็นสุภาพบุรุษจิ๋ว ความน่ารักและความหล่อผุดทะยานแบบฉุดไม่อยู่ ตอนนี้กำลังรอคนมารับพวกเขาสองคนไปที่โรงแรม
“ทำไมหม่ามี๊ยังไม่มาล่ะ?”
“อย่าพึ่งใจร้อน”
ชินจังที่นั่งด้านข้างน้องชาย อาจเป็นเพราะไม่เคยรู้สึกปลอดภัยตั้งแต่เด็ก ดังนั้นเมื่อไม่เห็นเงาของหม่ามี๊ เขาก็อดกลุ้มใจไม่ได้
คิวคิวยื่นมือเล็กตบไหล่เขา