ยัยหมอวายร้ายที่รัก - บทที่ 34 ลูกชายคนเล็กก็มาแล้วเช่นกัน
“ชินชิน? หนูตื่นแล้วนี่เอง ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่ลงไปทานอาหารเช้าล่ะคะ? หนูไม่หิวเหรอลูก? แล้วก็ทำไมหนูไม่ใส่เสื้อคลุม?”
“………”
ไม่มีใครสนใจเธอ หลังจากที่ปรากฏตัวขึ้นมาแล้วพักหนึ่ง เขาก็หันหลังจะเดินไปอีก
เขาจะทำอะไร? ตั้งแต่เช้าตรู่แบบนี้!
เส้นหมี่เห็นแล้วนั้น ทำได้เพียงตามไปอยู่ทางด้านหลังเขา แล้วก็เดินไปด้วยกัน แต่กลับพบว่า หลังจากที่สองแม่ลูกออกมาแล้ว ด้านหน้าเป็นสวนลอยขนาดใหญ่ และเวลานี้เอง ลูกคนนี้ออกมาแล้ว ก็วิ่งออกมาเล่นในสนามเด็กเล่นที่อยู่ในสวนดอกไม้แห่งนี้เพียงลำพัง
จุ๊ๆ นี่คือโลกของคนรวยจริงๆ!
เส้นหมี่เอาอาหารเช้ามาวางลงบนโต๊ะหินที่อยู่ในสวน และมาที่สนามเด็กเล่นทางนี้ด้วยเช่นกัน
“ชินชิน เราทานอาหารเช้ากันก่อนแล้วค่อยเล่นดีไหมคะ? ไม่อย่างนั้นจะหิวเอาได้นะ”
“ไม่กิน!”
นับว่าชินจังเปิดปากออกมาแล้ว แต่เป็นสองคำที่ดูรำคาญมาก
เส้นหมี่รู้สึกว่ายากเล็กน้อย ลูกคนนี้ดูแล้วไม่ได้ง่ายเลยจริงๆ เขาไม่เหมือนกับน้องชาย ที่ทานข้าวอย่างว่าง่าย
เส้นหมี่นั่งยองๆลงข้างๆเขาแล้วคิด จู่ๆเขาก็คิดสิ่งหนึ่งขึ้นมาได้ : “ชินชิน น้าเดาว่า หนูจะต้องอยากเจอแด๊ดดี้แน่เลยใช่ไหมคะ? ขอแค่หนูทานอาหารเช้าให้หมด น้ารับปากว่าจะพาหนูไปหาเขา!”
“น้าพูดจริงไหม?”
แทบจะในทันที ที่เด็กคนนี้มีปฏิกิริยาตอบสนองกลับ
ไม่ผิดแล้ว เด็กที่เป็นโรคออทิซึมจะเป็นแบบนี้ เขาสันโดษ เย็นชา ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมสังคม แต่คนประเภทนี้ ในใจของเขา จะมีคนที่สามารถพึ่งพาได้อยู่หนึ่งคน
และคนๆนี้ พวกเขาก็จะไม่แยกจากกัน
จู่ๆเส้นหมี่ก็รู้สึกอิจฉาผู้ชายหมาๆคนนั้นขึ้นมา
รอก่อนเถอะ ซักวันนึง เธอจะกลายเป็นคนๆนั้นเช่นกัน!
สุดท้ายแล้วชินจังก็ทานอาหารเช้าที่เส้นหมี่ยกมาจนหมด ตอนที่ป้าญาขึ้นมาเก็บชามไปนั้น ดวงตาก็แทบจะหล่นลงมาที่พื้นอยู่แล้ว
“คุณชายเล็ก นี่…..คุณชายทานจนหมดเลยหรือคะ?”
“ใช่ค่ะ เขาทาน ทำไมหรือคะ? มีอะไรไม่ถูกต้องอย่างนั้นหรือ?”
เส้นหมี่ได้ยินคำพูดนี้แล้วก็รู้สึกแปลกๆ นี่ก็คือปริมาณของเด็กหนึ่งคน ทำไมเธอจะต้องมีปฏิกิริยาใหญ่โตขนาดนี้ด้วย? หรือว่าเมื่อก่อนลูกจะไม่ได้ทานมากขนาดนี้?
เส้นหมี่ไม่รู้ ว่าเมื่อก่อนชินจังอยู่ที่บ้านไม่ค่อยทานอะไรเลยจริงๆ
นอกจากพ่อของเขาทำให้ เขาถึงจะทาน
ป้าญาถือชามลงไปด้วยความโมโห เดินไปพลางหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาแป้งร่ำไปด้วย : “คุณแป้งร่ำ คุณรู้ว่าผู้หญิงคนนี้เก่งขนาดไหนไหมคะ? วันนี้คุณชายเล็กทานอาหารที่เธอทำจนหมด”
“อย่างนั้นหรือ?”
แป้งร่ำได้ยินจากในสายแล้ว เธอที่กำลังตัดแต่งกิ่งไม้อยู่นั้น เสียง“ฉับ”ดังขึ้น ตัดกิ่งดอกไม้ไปหมดแล้ว!
“ใช่ค่ะ เดิมทีฉันโกหกคุณผู้ชายว่าเกี๊ยวที่เขาทำให้คุณชายเล็กเมื่อวานยังอยู่ เขาถึงได้ไปทำงาน หลังจากนั้นฉันรอให้เขาไปแล้ว ก็มาทำอาหารง่ายๆให้ แต่คุณชายเล็กก็ไม่ทาน ฉันกำลังคิดจะใช้โอกาสนี้เรียกคุณให้มาทำให้เขาทานเสียหน่อย แต่หมอผู้หญิงคนนี้ที่รู้สึกไม่ชอบขนาดนั้น ก็มาที่นี่อีกแล้ว”
คนรับใช้คนนี้เอ่ยพูดขึ้นด้วยความเกลียดชังเป็นอย่างมากในสาย เหมือนกับว่าแทบอยากจะไล่เส้นหมี่ออกไปเดี๋ยวนี้เลยอย่างไรอย่างนั้น
แป้งร่ำไม่ได้เอ่ยพูดออกมา ในมือถือเพียงกรรไกรเล่มนั้น ตัดแล้วตัดอีก! กรรไกรที่คมกริบนั้น ไม่นานก็ทำให้ดอกไม้บานออกมาทั้งกระถาง
ตัดจนเหลือเพียงแค่เสาโล้นๆเท่านั้น
“คุณแป้งร่ำ?”
“รู้แล้วล่ะ ไม่เป็นไร ทำให้คุณชายเล็กทานได้ก็โอเคแล้ว เอาสุขภาพของเด็กไว้ก่อนสำคัญที่สุด”
เธอวางกรรไกรลง แล้วเอ่ยขึ้นให้รู้สึกสบายใจด้วยความอ่อนโยนในสายตา
ป้าญาได้ยินแล้ว ขอบตาแดงขึ้นด้วยความซาบซึ้งขึ้นมาทันที : “คุณแป้งร่ำ คุณใจดีมากจริงๆ มาขนาดนี้แล้ว ยังใจกว้างแบบนี้ แต่ไม่เป็นไรค่ะ พวกเรามีโอกาสอีกมาก คุณวางใจได้”
เธอรับประกันกับผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง หลังจากนั้นถึงได้วางสายไป
สวยใสใช่ไหม ฉันไม่ให้เธอกระดี๊กระด๊าอยู่ที่นี่นานหรอก!
——
เนื่องจากชินจังทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เส้นหมี่ก็ทำตามสัญญาที่รับปากเอาไว้ เตรียมจะพาเขาไปหาแสนรักที่หิรัญชากรุ๊ป
ถึงอย่างไร เธอเองก็จะต้องไปส่งยาอยู่แล้ว
แต่เธอไม่รู้ว่ากลางวันนี้ ลูกชายอีกคนหนึ่งของเธอ ก็ไปที่นั่นเหมือนกัน
“พี่คะ พี่ต้องระวังตัวด้วยนะ ถ้าหากเห็นคนไม่ดีแล้ว จะต้องสั่งสอนเขาแทนรินจังด้วยนะ ไม่ให้เขารังแกหม่ามี๊อีก”
ในโรงเรียนอนุบาล ตอนที่คิวคิวจะออกมานั้น รินจังก็กำชับข้างหูเขาอีกครั้งด้วยท่าทางที่โมโห
คิวคิวตีลงบนหน้าอกตัวเอง ตอบรับอย่างตรงไปตรงมา
หลังจากนั้นยี่สิบกว่านาที ตึกหิรัญชากรุ๊ปใจกลางเมือง
เนื่องจากกลัวว่าจะถูกคนจับได้ คิวคิวที่สวมเสื้อฮู๊ดเทพนักรบสีน้ำเงิน ด้านนอกยังมีเสื้อกั๊กยีนส์สีดำอีกหนึ่งตัว ไม่ได้เลือกเข้าทางประตูใหญ่ แต่หลังจากที่อ้อมไปยังที่จอดรถใต้ดินแล้ว เขาก็แทรกเข้าไปในลิฟต์
เด็กคนนี้ฉลาดมากจริงๆ
เพียงแต่ เมื่อเขาขึ้นลิฟต์มาถึงชั้นที่เขาหามาตามข้อมูลนั้น หลังจากที่เขาออกมาแล้ว จู่ๆก็พบว่าตรงหน้าเป็นประตูกระจกบานใหญ่ล็อคเอาไว้อยู่ เขาไม่สามารถเข้าไปได้เลย
“ไม่ใช่สิ ที่นี่คือสำนักงานของประธานนี่นา ทำไมถึงมีประตูกระจกนี่อีกกัน? หรือว่าเขาเข้าใจผิด?”
เขารู้สึกกลัดกลุ้มเล็กน้อย ยืนอยู่ตรงนั้นมองสำรวจไปรอบๆ ไม่เห็นว่าไม่มีการตอบสนองใดๆ จึงเตรียมที่จะกลับไปในลิฟต์อีกครั้ง เพื่อไปดูชั้นอื่นๆ
แต่นี่ จู่ๆประตูกระจกก็มีเสียงของหุ่นยนต์ผู้หญิงดังขึ้นมา : “แสกนใบหน้าสำเร็จ ชินจัง เปิดได้!”